นายกรัฐมนตรี ระบุ ได้ตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาผลกระทบจาก 76 โครงการมาบตาพุด โดยไม่กระทบต่อคำสั่งศาลปกครอง เพื่อหวังจะเยียวยาในระยะยาวให้กับประชาชนในพื้นที่ระยอง เตรียมนำร่องยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่ 4 อ.สงขลา ก่อนประเมินยกเลิกในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ต่อไป
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธ์"
วันนี้ (1 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” เป็นครั้งที่ 42 ถึงกรณีของมาบตาพุด ว่า ตนย้ำไปหลายครั้งแล้วว่ารัฐบาลได้ยึดถือแนวทางการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ว่าโครงการที่รัฐบาลได้เดินหน้าอนุมัติไปก่อนหน้านี้นั้น เป็นโครงการซึ่งเมื่อตรวจวิเคราะห์จากรายงานการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว เห็นว่าไม่ได้มีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ด้วยความเห็นใจ และด้วยความเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องที่อยู่ที่มาบตาพุด ซึ่งเดือดร้อนจากปัญหามลพิษมาเป็นเวลาพอสมควร เราก็ได้มีแนวทางในการทำงานอย่างนี้ ประการแรกได้มีการให้ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพบกับพี่น้องประชาชนที่มาชุมนุม มาเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งให้ลงไปในพื้นที่ และจะลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเร่งรัดมาตรการในเรื่องของการเยียวยาต่างๆ จะดูแลเรื่องของหลักประกันในด้านการดูแลสุขภาพ พัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงพยาบาลและอื่นๆ เพื่อเป็นการเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต
นายกฯ กล่าวว่า ประการที่ 2 ขณะนี้กติกาที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 67 วรรคสอง รัฐบาลได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คือ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนขณะนี้ ประการแรกคือว่าโครงการใดจะเข้ามาตรา 67 วรรคสองนั้น ก็มีตั้งแต่โครงการที่อยู่ในประกาศของกระทรวงอื่นๆ ประการที่ 2 เป็นโครงการที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา และคณะอนุกรรมการจะมีการดำเนินการให้เข้าสู่กระบวนการของมาตรา 67 วรรคสอง ประการที่ 3 อาจจะเป็นโครงการซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว แต่ว่ามีปัญหามลพิษขึ้นมาก็จะย้อนกลับเข้ามาสู่กระบวนการนี้ และช่องทางที่ 4 คือว่า ในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว โครงการใดซึ่งมีผลกระทบต่อความอ่อนไหวในพื้นที่นั้นก็จะต้องเข้าสู่กระบวน การของมาตรา 67 วรรคสอง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถามว่า เมื่อเข้าแล้วจะทำอะไร ข้อแรกก็คือ ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็ทำกันอยู่แล้ว ข้อที่ 2 คือ ทำรายงานผลกระทบทางด้านสุขภาพ ซึ่งเราได้ใช้กระบวนการที่ทางคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้กำหนดเอาไว้ แล้วเอาเข้ามาผนวกกับรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งใน 2 กระบวนการนี้ก็จะมีการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนเป็นกระบวนการภาย ในตรงนี้อยู่แล้ว ข้อที่ 3 หน่วยงานที่จะต้องทำหน้าที่ในการอนุมัติ อนุญาต โครงการ จะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นเป็นการเฉพาะ ซึ่งจะอิงกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่ในเรื่องนี้ แต่จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมให้การรับฟังความคิดเห็นนั้นสามารถที่จะครอบคลุม ประเด็นในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพได้อย่างเหมาะสม และข้อสุดท้ายจะเปิดโอกาสให้ทางผู้แทนขององค์กรที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม กับผู้แทนจากภาควิชาการ รวมตัวกันในการที่จะเป็นองค์การอิสระ สามารถมาจดแจ้งและก็สนใจที่จะให้ความเห็นในโครงการใด รับรายงานของผู้ชำนาญการไปดู และให้ความเห็นกลับมายังหน่วยงานอนุญาต
“เพราะฉะนั้นระหว่างที่ยังไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายก็จะใช้กระบวนการนี้ ขณะนี้ผมกำลังจะเดินหน้าในการที่จะให้หลายโครงการ ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลได้เห็นว่าไม่ได้เข้าข่ายของมาตรา 67 วรรคสอง เชิญชวนให้เข้ามาสู่กระบวนการนี้เพื่อความมั่นใจและความสบายใจของพี่น้อง ประชาชนในมาบตาพุด และที่จังหวัดระยอง โดยโครงการเหล่านี้อยากจะเรียนว่าจริงๆ แล้วก็อยู่ในช่วงของการก่อสร้าง ยังไม่ได้เริ่มต้นการประกอบการ และจะเดินหน้าได้มากน้อยแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งทางรัฐบาลได้อุทธรณ์ไปในกรณีที่มีคำสั่งชั่วคราวระงับการดำเนินการอยู่ พร้อมๆ กันนั้น ผมได้หารือกับทางภาคประชาชน และทาง ส.ว.และ ส.ส.ที่สนใจในเรื่องนี้ก็ตั้งใจที่จะตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วย 4 ฝ่ายขึ้นมา เพื่อมาไล่ดู 76 โครงการให้เห็นว่าแต่ละโครงการมีโครงการไหนมีปัญหาอย่างไร จะต้องกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมและแก้ไขอะไรอย่างไร ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าก็จะได้ความสมดุลระหว่างการพัฒนากับเรื่องของการดูแล คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมของพี่น้องประชาชน” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำตอนหนึ่งถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาจนรถไฟนั้นสามารถกลับมาให้บริการพี่น้องประชาชน ได้ตามปกติแล้ว แต่ว่ายังมีปมเงื่อนไขความขัดแย้งอยู่ในกรณีที่มีการลงโทษพนักงาน ในกรณีที่มีการร้องเรียนผู้บริหาร ในกรณีที่บอกว่าอาจจะมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น และข้อห่วงใยที่เกี่ยวข้องกับตัวปัญหาความปลอดภัยก็ดี หรือแนวทางการปฏิรูปรถไฟต่อไปในอนาคตก็ดี สัปดาห์ที่จะถึงนี้ตนจะได้เชิญทางตัวแทนของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสหภาพฯ ผู้บริหารมาพูดคุยกัน เพื่อคลายปัญหา แต่ว่าอยู่บนพื้นฐานที่ขณะนี้ทุกฝ่ายตกลงตรงกันว่าจะต้องเดินหน้าให้บริการ แก่ประชาชนตามปกติ
ในช่วงที่สองนายกได้นำเทปนันทึกรายการระหว่างลงพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรับฟังปัญหา 3 จังหวัดชายแดนทางภายใต้ รวมทั้งปัญหาจากการหยุดเดินรถไฟ การท่องเที่ยว หรือปัญหาอุตสาหกรรม พร้อมกับมอบแนวทางแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนทางภาคใต้ โดยจะมีการนำร่องเลิกใช้กฏอัยการศึกใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาและให้ใช้พระราชบัญยัติความมั่นคงแทนในเดือนหน้า ก่อนจะมีการประเมินหากพบว่า ความรุนแรงในพื้นที่ลดลงก็จะยกเลิกใช้ในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป รวมทั้งการถอนกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียด
สำหรับปัญหาการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซีซีทีวี ขณะนี้ได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยเดิหน้าจัดซื้อจ้างใหม่เพราะเกี่ยวกับความลปอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน และไม่ต้องการให้การตรวจสอบการทุจริตที่ผ่านมาเป็นเหตุให้โครงการนี้ต้องสะดุด