xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.สภา เตือนรัฐดื้อเช่ารถเมล์ 4 พันคัน ทั้งที่ส่อล็อกสเปก ระวังเจอผิด ม.157

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์
“ชาญชัย” เตือนรัฐบาลเจอข้อหาละเว้นหน้าที่ หากดื้อดึงไม่ฟังความเห็นการศึกษาของทั้งกรรมาธิการ-ป.ป.ช.ที่ยืนยันชัดส่อล็อกสเปกเช่าเมล์ฉาว 4 พันคัน หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย จวกเลี่ยง พ.ร.บ.ร่วมทุน ไม่ตั้งคณะกรรมการร่วม

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงผลงาน 3 ปี และระบุถึงปัญหาส่อในการทุจริตในการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของรัฐบาล ว่า ส่อในการล็อกสเปก และ ครม.อาจผิดมาตรา 157 ว่า ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช. สภา ที่สอบเรื่องนี้มาแต่ต้น ก็มีความเห็นพ้องและสอดคล้อง 5 ประเด็น ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุออกมา คือ 1.การเช่ารถเมล์ในโครงการนี้มีราคาแพงเกินกว่าความเป็นจริงสูงมากกว่าปกติ 2.ค่าซ่อมบำรุงมีราคาแพง และไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ทั้งนี้ ในการตรวจสอบของ กมธ.ป.ป.ช.พบว่า มีโครงการรถเมล์เอ็นจีวี หรือ ยูโรทู ที่ทำก่อนหน้านี้ก็มีการทุจริตจากการซ่อมบำรุง ซึ่งสมัยนั้นมี นายปิยะพันธ์ จำปาสุต เป็นประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ประธานบอร์ด ขสมก.) ในช่วงนั้นก็ออกมายอมรับกับ กมธ.ป.ป.ช.ว่า มีการทุจริตในงบการซ่อมรถจริง ทั้งราคายาง และอะไหล่รถ รวมถึงมีการใช้งบโฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวัน เพื่อชี้แจงว่าโครงการนี้เช่าดีกว่าซื้อ และยอมรับว่า มีการใช้ตัวเลขประมาณการของยูโรทูมาประเมินกับโครงการนี้

รองประธาน กมธ.ป.ป.ช.กล่าวว่า 3.การคำนวณค่าประมานการรายรับและรายจ่าย เพื่อให้ได้ตัวเลขในโครงการนี้ไม่ได้คำนวณจากพื้นฐานความเป็นจริง แต่เป็นการทำตัวเลขประมาณการเพื่อให้ผ่านการอนุมัติจาก ครม.เท่านั้น เพราะ กมธ.ป.ป.ช.ได้เรียกสอบเจ้าหน้าที่ระดับ ผอ.ในขสมก.รายหนึ่ง และยอมรับว่า เป็นผู้ทำตัวเลขประมาณการนี้ขึ้นมาเอง ภายหลังจากที่บอร์ดของ ขสมก.ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 6 คน และโยนตัวเลขรายละเอียดทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว จึงได้มาจัดทำตัวเลขประมาณการให้ดูดีบนพื้นฐานที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง 4.กมธ.ป.ป.ช.ถามว่า เหตุใดโครงการยังไม่ผ่านการอนุมัติจาก ครม.แต่ประธานบอร์ดขสมก.จะมีการไปกำหนดทีโออาร์ คือ ทั้งสเปกของรถ ยี่ห้อ รุ่น ขึ้นมาโดยไม่มีตัวเปรียบเทียบ ทำเช่นนี้เสมือนเป็นการล็อกสเปก หนำซ้ำในรายละเอียดยังมีการใช้จีพีอาร์เอสนำทางติดตั้งบนรถเพียงยี่ห้อเดียว ทำให้ไม่สามารถใช้ซอฟต์แวร์ของยี่ห้ออื่นได้ จึงเป็นการง่ายต่อการล็อกสเปกเช่นเดียวกัน และ 5.ยังพบถึงความไม่พร้อมในที่จอดรถแมล์ 4,000 คัน ซึ่งต้องใช้ที่ดินจำนวนมาก เพื่อเป็นที่จอดและเติมแก๊ส โดยมีการประมาณการในแผน ว่า จะใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อมาเช่าที่ดินเอกชนทำเป็นที่จอดรถอีกราว 3,000 ล้านบาท โดยผลักให้เป็นภาระของรัฐ ซึ่งยังไม่รวมถึงการสร้างปั๊มแก็สในพื้นที่ใกล้เคียง

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังหลักเลี่ยงการใช้ พ.ร.บ.ร่วมทุน ซึ่งมาตรา 5 กำหนดให้โครงการใดๆ ที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท หน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต้องร่วมตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาจัดซื้อ จัดจ้าง เจรจาต่อรอง ลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด เพื่อความโปร่งใส โดยโครงการนี้มี 6 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ 1.สภาพัฒน์ 2.สำนักงานอัยการสูงสุด 3.คณะกรรมการกฤษฎีกา 4.กระทรวงการคลัง 5.กระทรวงคมนาคม เจ้าของโครงการ และ 6.หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ดำเนินการคือ ขสมก. แต่กลับไม่มีการตั้งคณะกรรมการใดๆ ขึ้น
นายชาญชัย กล่าวต่อว่า จึงน่าแปลกใจทั้งที่มติ ครม.กำหนดให้ ต้องตั้งคณะกรรมการจากบุคคลภายนอกเพื่อตรวจสอบความโปร่งใส พร้อมทั้งให้หน่วยงานเจ้าของกิจการ คือ ขสมก. และกระทรวงคมนาคม ต้องนำเงื่อนไข ปรับปรุง ข้อบกพร่อง ข้อสังเกตของสภาพัฒน์ เกี่ยวกับปัญหาทั้งหมดมาเสนอขออนุมัติ เพื่อการพิจารณาจาก ครม.อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการดำเนินการกำหนดทีโออาร์ ซึ่งเรื่องทั้งหมดไม่มีการดำเนินการใดๆ เลย แต่ นายปิยะพันธ์ ประธานบอร์ด ขสมก.กลับออกมาประกาศด้วยความมั่นใจว่าในเดือน พ.ย.นี้จะทำการเช่ารถเมล์ทั้งหมดให้เสร็จสิ้น ส่วนนี้จึงเห็นว่า ป.ป.ช.ที่วิจัยสรุปออกมาว่า จะผิดมาตรา 157 หากครม.อนุมัติโครงการนี้ออกมา ตนจึงขอเตือนรัฐบาลว่าให้พิจารณา ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนถึงผลดีผลเสียที่ชาวบ้านจะได้รับ ซึ่งข้อเสนอของ กมธ.ป.ป.ช.มีออกมาเป็นรูปธรรมแล้ว สามารถตรวจสอบดูได้
กำลังโหลดความคิดเห็น