xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ว.สมชาย” แฉเขมรไล่แจกโฉนด ยึดครองเขาพระวิหารเบ็ดเสร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชาย แสวงการ
ส.ว.สรรหา ระบุ สตช.ต้องดำเนินการถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ “นช.แม้ว” ตามหลักเกณฑ์ ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมือง เตือน “จิ๋ว หวานเจี๊ยบ” อย่าดึง “ฮุนเซน” ยุ่งกิจการภายในประเทศ เปรียบพฤติกรรม “ผู้นำเขมร-ทรราชแม้ว” จาบจ้วงสถาบันคล้ายคลึงกัน แฉเขมรออกโฉนดครอบครองพื้นที่ปราสาทพระวิหารแล้ว ถือเป็นบุญคุณที่ฮุนเซนประกาศตอบแทนแม้วเพื่อนเลิฟ

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่กฤษฎีกาวินิจฉัยว่าสามารถถอดยศตำรวจ และริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องดำเนินการ มีกรณีทหารหรือตำรวจหลายนายที่ต้องคำพิพากษาถูกตัดสินคดีถึงที่สุดแล้วก็ต้องถูกถอดยศและเห็นว่าเรื่องนี้ จะไม่บานปลายและไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นการเมือง เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาเรื่องนี้และส่งเรื่องไปตามขั้นตอน ตั้งแต่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการวิเคราะห์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังดำเนินยุทธศาสตร์โลกล้อมไทย และล่าสุดได้บีบพื้นที่ลงมาเป็นเพื่อนบ้านล้อมไทยจากกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้น นายสมชายกล่าวว่า ขอเตือนผู้ที่พยายามดึงให้สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย โดยเฉพาะการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ กำลังคิดทำอะไรอยู่ ซึ่งไม่มีใครเดาเจตนาออกในการไปยืนกัมพูชาครั้งนี้ แต่จากประวัติศาสตร์ของชาติตั้งแต่สมัยพระยาละแวก ที่ไทยมีปัญหากับพม่า จนถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งกับเขมรเมื่อปี 2520-2521 วันนี้คนไทยกำลังแตกแยกกัน แต่บางฝ่ายดึงนายกกัมพูชา เข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาภายในประเทศเป็นการชักศึกเข้าบ้าน

“สิ่งที่สมเด็จฯ ฮุนเซนเคยทำไว้กับประเทศกัมพูชาเอง คือ นำกองกำลังต่างชาติเข้ามาไล่ชาวเขมรที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง จากนั้นก็เข้ายึดครองประเทศเขมร ต่อมาก็ลิดรอนระบบกษัตริย์ โดยขับไล่เจ้านโรดมสีหนุ กษัตริย์ขณะนั้นลงจากตำแหน่ง ส่วนโอรสคือสมเด็จเจ้านโรดมรนฤทธิ์ก็ต้องมาลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วสมเด็จฯ ฮุนเซนก็ได้เชิญสมเด็จพระบรมนาถโรดมสีหมุนี ที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวการเมืองในประเทศเลยมาเป็นกษัตริย์ หากศึกษาประวัติศาสตร์จะเห็นว่า สมเด็จฯ ฮุนเซนทำอะไรไว้กับประเทศเขมร อยากฝากไปถึง พล.อ.ชวลิต และฝ่ายที่กำลังชักศึกเข้าบ้าน อย่านำสมเด็จฯ ฮุนเซนมายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของไทย ขอให้นึกถึงความเป็นชาติไทยให้ดี” นายสมชายกล่าว

นายสมชายกล่าวอีกว่า การที่สมเด็จฯ ฮุนเซนระบุว่าสำนึกในบุญคุณของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ชวลิต ที่เคยช่วยเหลือกัมพูชานั้น ตนขอย้อนความจำให้ฟังว่า ผู้ที่เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาการสู้รบในเขมรจนทำให้เขมรอยู่กันอย่างสงบสุขได้คือ ทหารไทย และหลังการสู้รบก็ยังเข้าไปช่วยสร้างวัด ทำถนน สิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งที่เกิดขึ้นดำเนินการโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเงินที่เข้าไปช่วยเหลือเป็นเงินภาษีของประชาชนคนไทยทั้งสิ้น ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่งเข้ามาเป็นนายกเมื่อปี 2544 ที่ขณะนั้นสงครามเขมรได้จบแล้ว ซึ่งเห็นว่าเป็นความช่วยเหลือส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯ ฮุนเซนมากกว่า ยังไม่รวมผลประโยชน์จากบ่อก๊าซธรรมชาติในทะเลที่แบ่งสรรผลประโยชน์ลงตัวไปแล้ว

นายสมชายกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอฝากไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าวันนี้สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยเป็นนายกฯ เคยพูดว่าอย่าทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว คือการเข้ามายึดดินแดนในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรของคนเขมร โดยพยายามเข้ามา เริ่มจากการลอบนำครอบครัวของทหารเขมรที่อยู่ตามแนวชายแดนมาตั้งเพิงพักพิงเป็นที่อยู่อาศัย จากแค่ชุมชนเล็กกลายเป็นชุมชนใหญ่มีการสร้างวัดสร้างตึกขึ้นมากมาย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยมองจุดเหล่านี้ โดยบอกกับนายทหารที่แจ้งข้อมูลให้ทราบโดยบอกว่า อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งวันนี้มีการแจกโฉนดที่ดินกันแล้ว นี่คงเป็นบุญคุณที่ทำให้สมเด็จฯ ฮุนเซน ประกาศสำนึกบุญคุณหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น