xs
xsm
sm
md
lg

รวมพลคนแค้น“เปรม”- “มนูญกฤต”เบี้ยตัวใหม่"แม้ว"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร
แม้การเลือกตั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะยังไม่พบเงื่อนไขอันสุกงอมเพียงพอที่จะทำให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจยุบสภา

แม้กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ล้อมหน้าทำเนียบรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน เพื่อขับไล่รัฐบาลเฉกเช่นเดือนเมษายน แต่ยิ่งทักษิณ ชินวัตร-เพื่อไทย-เสื้อแดง บีบคั้นมากเท่าไหร่ อภิสิทธิ์ยิ่งสู้หนักขึ้นเท่านั้น ชนิดเรียกได้ว่าหากไม่ถึงทางตันจริงๆ

ไม่ได้เห็นการโยนผ้าขาวจากอภิสิทธิ์แน่นอน

แต่ในความห่างไกลการเลือกตั้ง ทักษิณ-เพื่อไทย กลับออกสตาร์ทเตรียมพร้อมก่อนหลายพรรคการเมือง บนความมั่นใจลึกๆของ ทักษิณ ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ จึงสั่งลูกพรรคติดเครื่องรอไว้ให้พร้อม

และหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ “สงครามชิงเมือง” ของทักษิณ ก็คือ

การสร้างสาขาพรรค และผูกพันธมิตรฯ ต่างพรรค

แน่นอน ย่อมไม่ใช่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลในเวลานี้ เพื่อเป็นแนวร่วมในการสู้ในสนามเลือกตั้งกับขั้วประชาธิปัตย์ และจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย

อันเป็นสิ่งที่ทักษิณถนัด และเคยทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยหนุนหลัง ณรงค์ วงศ์วรรณ ในการตั้ง“กลุ่มเทิดไท” ในพรรคชาติไทย จนเป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองสูงมากที่สุดในรัฐบาล บรรหาร ศิลปอาชา หรือเคยสำเร็จมาแล้ว จากการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้กับพรรคความหวังใหม่ ในการเลือกตั้งปี 2539 จน พลเอกชวลิต ยงใจยุทธได้เป็นนายกฯ และต่อมาทักษิณได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี

รวมถึงการช่วยลำเลียงกระสุนดินดำให้กับความหวังใหม่ ในการเลือกตั้งปี 44 และหลังความหวังใหม่มาร่วมรัฐบาลกับไทยรักไทย ก็มีการยุบพรรคมารวมกับไทยรักไทย เพราะทักษิณเห็นว่าถึงอย่างไร สองพรรคนี้ก็ใช้กระเป๋าเงินเดียวกันคือ กระเป๋าทักษิณ

แล้วเรื่องอะไรต้องจ่ายสองทอดหลังภารกิจเสร็จสิ้น

มาถึงกลไกพรรคการเมืองและตัวบุคคลที่จะเดินเกมตามแผนการสร้างพรรคสาขา หนึ่งในตัวบุคคล-พรรคการเมืองที่ชัดเจนแล้วกับแผนการสร้างพันธมิตรต่างพรรคนี้ก็คือ

พลตรีมนูญกฤต รูปขจร

อดีตประธานวุฒิสภา แกนนำนายทหารกลุ่มยังเติร์ก หรือ จปร.7

ที่สะบัดก้นทิ้งเก้าอี้ส.ส.สัดส่วน ประชาธิปัตย์ แบบไม่ใยดีเมื่อปลายปีที่แล้ว บนเสียงสถบด่าทิ้งท้ายในวันที่เดินออกจากปชป. ด้วยความเจ็บใจที่อยู่ในพรรคแล้วกลับไม่มีบทบาทใดๆ เลยประชดไปช่วยแกนนำเพื่อไทยอย่าง เฉลิม อยู่บำรุง หาข้อมูลเงินบริจาคทีพีไอ ไปซักฟอกอดีตพรรคตัวเองเสียเลยให้หายแค้น

ควบคู่กับการเดินหน้าทำพรรคประชาภิวัฒน์ หลังจากให้ลูกเขย ไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคกับ กกต.เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

สาเหตุที่ ถูกใจ-ต้องตา ทักษิณ และแกนนำเพื่อไทยสายโค่นอำมาตยาธิปไตย มากที่สุด ก็คือ

มนูญกฤตคือคู่แค้น ไม่เผาผี กับผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านสี่เสาเทเวศร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ระดับคลาสสิกที่สุดของตำนานการเมือง-การทหาร และการปฏิวัติของประเทศไทย

หลังจากมนูญกฤต พยายามทำปฏิวัติ ป๋าเปรม สองครั้งสองคราแต่ไม่สำเร็จ ทั้งปฏิวัติ 1 เมษายน 2524 และ 9 กันยายน 2528

เมื่อเป็นเช่นนี้ การมีมนูญกฤต ที่แม้จะเป็น“ทหารแก่” แต่ยังมีพิษสงรอบตัวอยู่ มาเป็นแนวร่วม

โค่นป๋า ล้มอภิสิทธิ์

ทักษิณ มีหรือจะไม่แฮปปี้ ไม่เปิดประตูต้อนรับ

เพราะก่อนหน้านี้ก็เพิ่งได้ บิ๊กจิ๋ว พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ที่กำลังน้อยใจป๋าเปรม และระยะหลังไม่ยอมให้เข้าบ้านสี่เสาฯ มาเป็นหัวหอกสำคัญให้เพื่อไทย จนป๋าเปรม ต้องยึดโพเดียมแถลงเตือนจิ๋ว ด้วยความคับแค้นใจว่า “อย่าทรยศชาติ” มาแล้ว

มีทั้งบิ๊กจิ๋ว ได้ เสธ.นูญ มาอีกคน ทักษิณก็สุขใจแล้ว ทำให้บ้านสี่เสาฯ สะเทือนไปทั้งองคาพยพ

ขณะที่คนในบ้านสี่เสาฯ ที่รู้ความเคลื่อนไหวในการจับมือกันของ ทักษิณ-บิ๊กจิ๋ว-มนูญกฤต ย่อมทำให้ความทรงจำในเหตุการณ์ปฏิวัติสองครั้งสองครา ที่นำโดยมนูญกฤต คงทำให้ใครบางคนในบ้านหลังนั้น กินไม่ได้นอนไม่หลับแน่

ล่าสุด การจับมือดังกล่าวเบื้องต้น แม้“ประชาภิวัฒน์” จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่มีคำยืนยันจากปากมนูญกฤตแล้วว่า เอาแน่ ซึ่งเป็นคำพูดที่มนูญกฤต ส่งผ่านเพื่อนรัก พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ที่กำลังมีบทบาทสูงยิ่งในเพื่อไทยยามนี้ หลังจากเหล่าอดีตขุนทหารตบเท้าเข้าเพื่อไทยอย่างคึกคัก โดยมีพัลลภ เป็นมือประสานคนสำคัญ และยังกล้าเป็นหัวหอกออกมาชนป๋าเปรม ว่า อย่าผูกขาดความรักชาติไว้คนเดียว

เบื้องต้นประชาภิวัฒน์ ได้เตรียมการไว้หลายอย่างแล้ว แต่อาจจะเป็นพรรคขนาดเล็กที่เน้นตัวผู้สมัครที่คิดว่าลงแล้วได้แน่ โดยเฉพาะพวกอดีต ส.ว.-ผู้ว่าราชการจังหวัด –นักธุรกิจ-นักการเมืองท้องถิ่น บนการประเมินถึงได้จำนวนส.ส.ไม่มาก แต่ก็พร้อมเป็นตัวช่วยสำคัญให้เพื่อไทย คือไปตัดคะแนนคู่แข่งขัน

โดยมีเพื่อนรัก พลเอกพัลลภ และเฉลิม อยู่บำรุง คอยเป็นตัวเชื่อมระหว่างมนูญกฤต กับเพื่อไทย

“มนูญกฤตกับผมเป็นเพื่อนรักกันมาก เขายืนยันว่าเอาจริง ประชาภิวัฒน์กับเพื่อไทย ดังนั้นเขากับผมที่อยู่เพื่อไทย ก็ต้องมาจับมือกัน เป็นแนวร่วมกัน และหากจัดตั้งรัฐบาล มนูญกฤต ประชาภิวัฒน์ กับเพื่อไทย ก็ต้องอยู่ด้วยกัน”

นี่คือคำยืนยันของพลเอกพัลลภ ที่บอกกับสื่อมวลชน ถึงสายสัมพันธ์การเมืองของเพื่อไทยกับมนูญกฤต ที่ทำให้ข่าวเลยไปไกลถึงว่า

“เสธ.นูญ” คือว่าที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในรัฐบาลเพื่อไทย

และอีกหนึ่งพรรคการเมือง ที่จะเป็นแนวร่วมการเมือง-พันธมิตรต่างพรรค กับเพื่อไทย ก็คือ

พรรคมาตุภูมิ

เพราะแกนนำเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พื้นที่จุดอ่อนสำคัญของพรรคก็คือภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เพื่อไทย มีปัญหาเรื่องการเจาะพื้นที่ได้ยาก และถูกต่อต้านได้ง่ายยามเมื่อการเลือกตั้งมาถึง เพราะประชาชนในพื้นที่ต่างไม่ยอมรับในตัว ทักษิณ ที่ให้กำเนิดนโยบายใช้ความเด็ดขาดในการแก้ปัญหาภาคใต้จนกลายเป็นไฟลุกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทำให้เกิดเหตุกรณี กรือเซะ-ตากใบ อีกทั้งตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ที่เพื่อไทยวางตัวไว้ ก็กระดูกคนละเบอร์กับประชาธิปัตย์

กลุ่มวาดะห์ ที่แยกตัวออกไปตั้งมาตุภูมิ “วาดะห์-มาตุภูมิ” จึงเป็นความหวังสำคัญของเพื่อไทย ที่ทักษิณหวังว่าถึงเพื่อไทย ไม่ได้ ส.ส.ใน3 จว.ชายแดนภาคใต้ ก็ไม่เป็นอะไร หากมาตุภูมิ จะเป็นฝ่ายกุมชัยชนะเหนือปชป. จากนั้นจะได้จับมือกันตั้งรัฐบาลกันต่อไป

เมื่อดูแกนหลักมาตุภูมิแล้ว ทั้งหมดก็คือ อดีต ส.ส.พลังประชาชน-ไทยรักไทย-ความหวังใหม่ ที่แนบแน่นกับ พลเอกชวลิต ทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็น อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ –นัจมุดดีน อูมา-มุข สุไลมาน-เด่น โต๊ะมีนา-บูราฮานูดีน อุเซ็ง-ไพศาล ยิ่งสมาน จึงทำให้พูดคุยกันรู้เรื่องภายในไม่กี่นาที เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นพวกไม่เอาประชาธิปัตย์

ขณะที่ “บิ๊กบัง” พลเอกสนธิ บุญรัตนกลิน ที่ถูกเทียบเชิญเข้าเป็นหัวหน้าพรรคมาตุภูมิหลายรอบ ตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่ต่อให้บิ๊กบัง อยู่มาตุภูมิจริง แต่หากเสียงส่วนใหญ่จะไปเป็นพันธมิตรกับเพื่อไทย เสียงเดียวของบิ๊กบัง ที่เคยทำปฏิวัติทักษิณ ก็ไม่น่าจะขัดขวางอะไรได้

เห็นแผนการทั้งหมดของ ทักษิณ-เพื่อไทย ที่ไปไกลถึงขั้นนี้แล้ว ไม่รู้ประชาธิปัตย์ ที่กำลังมัวแต่ทะเลาะกันเรื่อง แก้-ไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะตาสว่างกันหรือยัง
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
กำลังโหลดความคิดเห็น