xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ”หวังปาฎิหาริย์ “หนุมานจิ๋ว”แผลงฤทธิ์ ล้วงความลับเหมือนในรามเกียรติ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“คำนูณ” ชี้ไม่แปลก “จิ๋ว” เดินสายพบนายกเขมร หวังนั่งเก้าอี้นายกอีกครั้ง ก่อนแก่เกินแกง เตือนสติ คิดให้รอบคอบสมกับได้รับเครื่องราชอิสริยาภร ชั้น มหาโยธิน หวังปาฎิหาริย์ “หนุมานจิ๋ว”แผลงฤทธิ์ ล้วงความลับเหมือนในรามเกียรติ์ ยัน“ฮุนเซน” แหลยกหาง “นช.แม้ว”ทุกเรื่อง ขณะที่“สนธิญาณ” เย้ยมุกตื้น “จิ๋ว” เตี๊ยมสร้างภาพ จุดประเด็นการเมือง แนะอย่าฝันหวาน ตั่งสติย้อนมองบทเรียนในอดีต ก่อนช้ำซ้ำซ้อน ยี้นายร้อยรุ่น 10 ไม่เป็นมวยแค่สร้างกระแส



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนในข่าว”
 
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม สื่อมวลชนอิสระ มาร่วมวิเคราะห์สาเหตุ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ การเดินทางไปพบนายกกัมพูชา

นายคำนูณ กล่าวว่าไม่แปลกที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะเข้าพบ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เนื่องจากตอนนี้อายุก็เกือบ 80 แล้ว มีเวลาอีกไม่มากสำหรับการกลับมาเล่นการเมือง ดังนั้นต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งหนทางที่มีในตอนนี้ คือ กดดันให้มีการยุบสภาฯ ถ้าหากทำให้ยุบสภาฯไม่ได้ในเร็วๆนี้ ก็แก่เกินแกง ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุนี้เองทำให้ พล.อ.ชวลิต ต้องใช้ความสามารถ ด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โชว์ผลงานด้วยการเดินทางเข้าพบ ฮุนเซน เพราะนอกจากจะสร้างราคาให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันเป็นผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน แล้ว ยังสร้างคุณค่าให้กับตัวเองด้วย อย่างน้อยก็ปูทาง เพื่อที่จะได้ใต่ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดตามที่ตั้งใจไว้

ทั้งนี้ที่น่าแปลกก็คือ คนที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ดินสายไปพบ ฮุนเซน ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือกระทั่งล่าสุด พล.อ.ชวลิต คำพูดของ ฮุนเซน ที่กรอกหูแต่ละคนไม่เหมือนกัน อยู่กับใครก็พูดดีกับคนนั้น ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้น ผู้นำประเทศไทยเป็นอะไรกันไปหมด ตนเคยมีความปรารถนาดี และตั้งความหวังไว้สูงสำหรับ นายกชือ อภิสิทธิ์ แต่ต้องผิดหวังอย่างแรง ที่ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามตนคิดว่า การกระทำของ ฮุนเซน ผิดประเพณีอันเป็นลักษณะของประเทศเพื่อนบ้านที่ดี ที่ก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศ ปกติ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาปั่นหัวเสื้อแดง ก็วุ่นวายพอแล้ว วาทะของผู้นำกัมพูชา ที่ออกหน้าต้อนรับนักโทษหนีดคี อย่างนี้ยิ่งทำให้วุ่นวายเพิ่มขึ้นไปอีก

“ด้วยความเคารพ ตนอยากฝากความเห็นถึง พล.อ.ชวลิต ช่วยทบทวนการกระทำที่ผ่านมา ว่าเป็นไปโดยดีที่สุด เหมาะสมที่สุด สมกับได้รับเครื่องราชอิสริยาภร ชั้น มหาโยธิน หรือยัง แม้การไปพบ ฮุนเซน ในภาพด้านหนึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน แต่การเอาข่าวออกมาพูด ยิ่งทำให้ประเทศแตกแยก” นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ กล่าวว่าสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พูดเท็จ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับความเป็นธรรม ตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ว่าจากประเทศไปแล้ว จะไม่ได้กลับมาเลยเสียทีเดียว เพราะเมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับมาแล้ว และได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เนื่องจากทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ โดนคดีทุจริตติดสินบน ที่เป็นข่าวในเรื่องถุงขนม 2 ล้านบาท ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหนีไปต่างประเทศอีก ดังนั้นจะเห็นได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับเข้ามาในประเทศเมื่อใดก็ได้ แต่ไม่กลับมาเอง ส่วนประเด็นที่อ้างว่า ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงค์ตำแหน่งทางการเมือง มีศาลเดียวผิดไปจากประเพณี นั้น ศาลนี้ มีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 แล้ว

นายคำนูณ กล่าวว่า ตนในฐานะคนไทยรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ พล.อ.ชวลิต อยู่ไม่น้อย เช่น การยันศึกที่มีกัมพูชาอยู่ข้างหลังเพื่อไม่ให้รุกเข้าแดนไทย เป็นทูตลับไปเจรจาผู้นำจีนให้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม ทำให้เวียดนามต้องถอนกำลังจากชายแดนไทยไปรับศึกจากจีนแทน ด้วยเหตุนี้ตนจึงไม่อยากให้ท่านมาเสียผู้เสียคนตอนแก่ ผลกระทบที่ท่านไปประเทศกัมพูชา ประชาชนเกิน 90 % เข้าใจท่าน ว่า เป็นคนชักศึกเข้าบ้าน ผิดน้ำสาบาน ดังนั้น พล.อ.ชวลิต น่าจะรับฟังสิ่งที่น้องๆ พูดสะท้อนไปยังพี่ ที่จะไปใช้เงินทองของเขา เพื่อสร้างความสมานฉันท์ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะคนในพรรคเพื่อไทย ต่างยืนกรานว่า หากได้เสียงข้างมากในสภา จะนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ในเมื่อพรรคครั้งก่อนท่านเคยมีพรรคเป็นของตัวเอง ยังควบคุมไม่ได้ แต่นี่มันพรรคของคนอื่นเขา แล้วท่านจะควบคุมอยู่ได้อย่างไร

“พล.อ.ชวลิต เปรียบตัวเองว่าเป็นหนุมาน เวลาทำเสื้อแจกจะมีโลโกหนุมานอาสา ติดที่อก หนุมานอาสาตัวนี้จะทำหน้าที่รับใช้ ระนาราย พระราม หรือพูดได้ว่าเป็นทหารเอกของพระเจ้าแผ่นดิน ดังนั้นเมื่อเอาตราหนุมานอาสา มาแทนตัวเอง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การไปกัมพูชาครังนี้ หนุมานจิ๋วตัวนี้ จะเหมือนในรามเกียรติ์หรือไม่ ที่ไปแสร้งสวามิภักดิ์ทศกัณฑ์ แล้วล้วงความลับกล่องด้วงใจมาทำลาย หรือหนุมานตัวนี้ได้แปลพรรคไปอยู่ฝ่ายทศกัณฑ์เสียแล้ว” นายคำนูณ กล่าว

นายสนธิณาณ กล่าวว่าการเดินทางไปพบ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ น่าจะมีการเตี๊ยมกันมาก่อน เพราะนักข่าวจากวงใน บอกว่าระหว่างที่ พล.อ.ชวลิตกับ ฮุนเซน คุยกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับ ฮุนเซน ทำให้ฮุนเซน แสดงความเห็นอกเห็นใจว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีประเด็นอยู่ที่ว่า คนที่นำข่าวนี้มาเปิดเผยคือ พล.อ.ชวลิต ผู้ซึ่งเคยดำรงค์ตำแหน่งขั้นสูงสุดมาแล้วทั้งในทางการเมืองและการทหาร ย่อมคิดได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่ยังเอาเรื่องผู้นำประเทศกัมพูชา ที่พูดกับอดีตผู้นำประเทศไทย ที่มีคดีติดตัวอยู่ในขณะนี้ มีวัตถประสงค์เพื่ออะไร หากจะบอกว่า เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ในประเด็นเขาวิหาร เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นควมขัดแย้งส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งในหลัการที่ต่างฝ่ายต่างอ้างแผนที่คนละฉบับ เมื่อเป็นอย่างนี้ต่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ก็ไม่มีทางที่กัมพูชาจะหยุดเดินหน้ายึดพื้นที่รอบเขาวิหาร

นายสนธิญาณ กล่าวต่อว่า สมเด็จ ฮุนเซน จะสร้างบ้านให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่อย่างเปิดเผยในประเทศกัมพูชาไม่ได้ เพราะมีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นหาก พ.ต.ท.ทักษิณ มาอยู่จริง เราทำเรื่องขอส่งผู้ร้ายช้ามแดน ถ้าหากกัมพูชาไม่ส่ง จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหยุดลงทันที เอาล่ะเมื่อเป็นอย่างนี้ก็พออุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังกังวลกับความรู้สึกของคนไทย กับประชาชนชาวกัมพูชา ในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านกัน ยามที่ผู้นำประเทศเป็นทรราช และทรราชกับทรราชจับมือกัน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ที่เป็นสมบัติของประชาชนทั้งประเทศ

พล.อ.ชวลิต ต้องตอบคำถามสังคม ที่เอาเรื่องนี้มาพูด ทั้งๆ ที่โดยฐานะในอดีตเป็นถึงนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ย่อมคิดได้ว่าจะเกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวง ทั้งนี้ตนอยากให้ย้อนดู ความเจ็บปวดจากการลดค่าเงินบาท ที่ทำให้ประเทศเสียหายยับเยิน หลายคนต้องล้มละลาย แต่มีคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบ กลับได้รับผลประโยชน์จากการลดค่าเงินบาง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีรัฐมนตรีใกล้ตัว พล.อ.ชวลิต นำข้อมูลไปเปิดเผย และประเด็นต่อมา ตอนที่ พล.อ.ชวลิต เป็นรองนายก ในสมัยรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในดคี 7 ต.ค. พล.อ.ชวลิต ย่อมรู้ดี ในที่เป็นประธานการประชุม ว่าในสถานการที่ประชุมเจ้าหน้าที่ทำรวจในการที่จะออกมาตราการปราบปรามประชาชน ปรากฎว่า ผบ.ตร.ขณะนั้นรับโทรศัพท์จากบุคคลลึกลับคนหนึ่ง ด้วยท่าทีผงกหัวตอบรับอย่างเดียว โดยไม่สนใจประธานที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ จึงเป็นคำถามว่า ใครที่มีอำนาจมากกว่า พล.อ.ชวลิต ที่ทำหน้าที่ประธานในขณะนั้น เมื่อมีบทเรียนตรงนี้แล้ว อยากให้ย้อนดูกรณี นายสมัคร สุนทรเวช ที่หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ผู้ที่มักถูกเครือข่ายทักษิณ พูดอยู่เสมอว่า เพราะห่วงทำกับข้าว ทำให้ไม่ได้เป็นนายกฯ ตรงนี้ความจริงแม้จะพ้นตำแหน่งนายกฯ ไปแล้ว แต่สภามีสิทธิโหวตให้กลับเข้ามาใหม่ได้

นายสมัคร ได้เป็นนายกฯ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้นิ้วสั่ง ถ้า พล.อ.ชวลิต จะเป็นนายกฯ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้นิ้วสั่งอีกคนล่ะก็ ต้องรู้ทันความคิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ครั้งหนึ่งเคยให้คำรับรองว่าจะให้ นายสมัครเป็นนายกฯ ต่อ แต่กลับมีการเคลื่อนไหวไม่ให้คนในพรรคมาร่วมเข้าประชุมสภาฯ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโหวตให้นายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อย่างไรก็ตามนายสมัคร ได้เชื่อคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้ามานั่งรอในสภาเพื่อประชุม แต่ไม่สามารถเปิดประชุมได้ มีส.ส.ไม่ครบตามกำหนด และตั้งแต่วันนั้นมา พ.ต.ท.ทักษิณ มีเวลา โฟนอิน เล่นทวิตเตอร์ แต่กลับไม่มีเวลาโทรไปหา นายสมัคร เลย เพราะนายสมัคร เป็นเพียงบันได เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ไม่ได้ดั่งใจ

“คนไทยต้องเข้าใจ สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการคือการกลับมาประเทศไทยโดยไม่ถูกดำเนินคดี และขอทรัพย์ 7.6 หมือนล้านคืน โดยโอกาสที่จะเกิดขึนได้มี 1. เข้าต่อสู้ตามกระบวนการตามกฎหมาย ประเด็นนี้คงต้องตัดทิ้งไป 2.ทำให้พรรคตัวเองมีเสียงข้างมากในสภาฯ แล้วออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือ 3. ต้องเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศ” นายสนธิญาณ กล่าว

นายสนธิญาณ กล่าวว่าใครที่คิดว่าพรรคเพื่อไทยกำลัง เติบโต ขอให้กลับมามองตรงนี้สักนิด การที่เตรียมทหารรุ่น 10 เข้าไปอยู่ในสังกัดพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ช่วยอะไรให้ชนะการเลือกตั้ง เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่เป็นนักการเมืองมืออาชีพ อย่างดีก็สร้างกระแส สร้างภาพ เพื่อให้ประชาชนมองว่า ใครๆก็อยากเข้าพรรคเพื่อไทย นายคำนูณ กล่าวเสริมว่าเป็นเรื่องที่น่าตลกที่สุด เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อย 50 คน แล้วจะไปลงสมัครเลือกตั้งที่ไหนหากจะลงแบบบัญชีรายชื่อมีหวังตีกันตาย ที่สำคัญปากบอกว่าต่อต้านอำมาตย์ แต่ดันเอาอำมาตย์เข้ามาทั้งขบวน อีกอย่างทหารเหล่านี้เวลาไปไหนชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว โดยมีลูกน้องคอยรับใช้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเข้ามาจะทำอะไรเป็น
กำลังโหลดความคิดเห็น