“เทพไท” เซ็งทนายเพื่อแม้วฟ้อง “ป๋า” แค่เชลียร์นาย

โฆษกมาร์ค สวนทนายเพื่อแม้วฟ้อง “ป๋า” แค่เชลียร์นาย เปรียบผู้ใหญ่เตือนสติสังคมไม่เข้าข่ายหมิ่น ชำแหละแผนชั่วหวังดิสเครดิตดึงเข้าสู่เกมการเมือง ปฏิเสธนอมินีหัวหน้าพรรค ปชป.สาบส่งโฆษกพรรคสร้างราคารายวันตะเพิดกลับไปเล่นหนังตลาดมืด

วันนี้ (20 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในข้อหาหมิ่นประมาท สมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า อยากเรียนว่า พล.อ.เปรม ได้สัมภาษณ์ในลักษณะการเตือนสติ เหมือนผู้ใหญ่ให้สติคนในสังคม แต่คนเหล่านนี้กลับยกมาเป็นประเด็นทางการเมือง ในฐานะนักกฎหมาย ถ้าดูองค์ประกอบของความผิดที่ทนายความไปแจ้งความแล้ว พบว่า ไม่เข้าองค์ประกอบในการหมิ่นประมาท เพราะ พล.อ.เปรม ไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจงให้คนเสียหาย ไม่ได้ระบุชื่อ

นายเทพไท กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทนายความ ต้องการทำหน้าที่เชลียร์เพื่อเอาใจนายใหญ่ จึงอยากจะเปลี่ยนชื่อจากคำว่าทนายเป็นเชลียร์นาย น่าจะเหมาะสมก่อน ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มารกโรงรกศาล หรือสร้างเป็นประเด็นทางการเมือง เหมือนกับความพยายามเคลื่อนไหวของโฆษกพรรคเพื่อไทย แต่อย่างไรก็ตาม ที่ออกมาพูดในเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.เปรม ไม่ได้เป็นลูกป๋า หลานป๋า หรือเหลนป๋า แต่ที่ที่ออกมาพูดเพราะเห็นว่า คนระดับประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ น่าจะได้รับการปกป้องจากฝ่ายการเมือง

นายเทพไท กล่าวว่า การจาบจ้วงบนเวทีคนเสื้อแดงมีการกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการใส่ร้ายทางการเมืองและพยายามดิสเครดิต พล.อ.เปรม เพื่อทำให้สังคมเห็นว่า พล.อ.เปรม มาเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งๆ ที่ประธานองคมนตรีไม่ได้มายุ่งเกี่ยวทางตรงหรือทางอ้อมใดๆ เมื่อมีการใส่ร้ายทางการเมือง จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงปกป้องพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.เปรม โดยยืนยันว่า พล.อ.เปรมไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ใดๆ ทั้งสิ้น การที่พยายามยัดเยียดให้ พล.อ.เปรมเลือกข้างทางการเมืองก็เพียง เพื่อพยายามจะดึงสถาบันองคมนตรีให้มายุ่งเกี่ยวกับการเมืองให้ได้ เพื่อจะได้นำเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนเสื้อแดงต่อไป

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า อยากเรียกให้ทราบว่าหัวหน้าพรรคที่แท้จริงของพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนเดียวเท่านั้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยใช้นอมินีทางการมืองเหมือนพรรคเพื่อไทย ที่หัวหน้าพรรคตัวจริงเป็นนักโทษหนีคดี ยังหานอมินีที่เหมาะสมไม่ได้ ทั้งๆ ที่ได้ทาบทามนักการเมืองที่หมดสภาพคนแล้วคนเล่า ก็ได้รับการปฏิเสธ คนในพรรคทุกคนก็ยังไม่มีใครมีความสามารถที่จะเป็นได้ จึงยังคงให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทำหน้าที่เฝ้าพรรคต่อไป

นายเทพไท ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พยายามนำทุกอย่างไปเป็นประเด็นทางการเมือง ล่าสุด ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่พฤติกรรมที่ผ่านมา นายพร้อมพงศ์ ใช้กระดาษเพียงแผ่นเดียว ให้สื่อมวลถ่ายภาพและต้องการรให้เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ทั้งๆ ที่เรื่องที่ยื่นไปตรวจสอบ ยังไม่มีเรื่องที่เคลื่อนไหวแล้ว สามารถชี้มูลได้แม้แต่เรื่องเดียว อยากให้พรรคเพื่อไทยระมัดระวังการเคลื่อนไหวและบทบาทของนายพร้อมพงศ์ เพราะอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความสับสนต่อสังคมได้ ถ้าคิดว่าไม่มีประเด็นอะไรจะทำ อยากจะขอแนะนำให้กลับไปสู่อาชีพเก่า ไปแสดงเป็นเสด็จพี่ในละครจักรๆ วงศ์ๆ หรือหนังตลาดมืดจะดีกว่า

“การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่แนวทางการตลาดทางการเมือง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้สร้างภาพตนเองตั้งแต่เริ่มต้นเล่นการเมืองมาจนถึงปัจจุบัน และขณะนี้สังคมจับได้ไล่ทันหมดแล้ว จึงไม่อยากให้คนรุ่นหลังเอาพฤติกรรมแบบนี้มาเป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป” นายเทพไท กล่าว