จับตา...ศึกล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ แดงดีเดย์ปลายฝนต้นหนาว

การสนธิกำลังร่วมกันของทหาร-ตำรวจ 18,000 พันนาย เพื่อรับมือกับการนัดชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง 17 ต.ค. น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ว่า

การใช้กำลังมากขนาดนี้ รวมถึงการประกาศให้พื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานครเป็น “พื้นที่มั่นคงพิเศษ” ระหว่าง 15-25 ต.ค. จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแทรกซ้อนที่คาดไม่ถึง

ทั้งจากคนเสื้อแดง และผีมือของกลุ่มมือที่สามขึ้น บนจุดนัดหมายที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งอยู่ห่างจากรั้วทำเนียบรัฐบาลไม่กี่เมตร !

ทำให้ประเมินได้ว่าวันเสื้อแดง 17 ต.ค. ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ การทวงถามความคืบหน้าต่อรัฐบาลในเรื่อง

การขอให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้กับ นช.(พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งครบ 60 วันในวันที่ 17 ต.ค.นี้

ไม่น่าจะมีเหตุอะไรรุนแรงมากนัก

ขณะที่นัดหมายครั้งต่อไปของกิจกรรม “แดงทั้งเดือน” คือเสาร์ที่ 24 ต.ค. 52 ที่แกนนำเสื้อแดง ประกาศกิจกรรมจะเปิดเวทีซักฟอกไม่ไว้วางใจ อภิสิทธิ์นอกสภา ณ ที่ทำการทีวีเสื้อแดง คือ ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ยิ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่มีเหตุอะไรในฐานทัพคนเสื้อแดงด้วยกันเอง

เพราะเป็นกิจกรรมที่เน้นการนำข้อมูลด้านลบของรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาซักฟอกเพื่อปลุกเร้าความเกลียดชังอภิสิทธิ์ ผ่านข้อมูลต่างๆ

ข้อมูลที่จะถูกนำมาปลุกระดม คงไม่พ้นเรื่องการทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ในงบโครงการไทยเข้มแข็ง 86,000 ล้านบาท

ล่าสุด ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองและฝ่ายข่าวการเมืองในซีกรัฐบาล ให้ข้อมูลยิงตรงไปยังตึกไทยคู่ฟ้าว่านัดหมายสำคัญสองวันดังกล่าวของคนเสื้อแดง ในแคมเปญแดงทั้งเดือน

“ไม่มีอะไรน่าวิตก”

เพราะเป็นแค่การวัดขุมกำลังและเช็คศักยภาพความพร้อมของคนเสื้อแดงในการทำศึกใหญ่กว่านี้ อันจะเห็นได้ว่า นัดหมายแดงทั้งเดือน ข้อมูลของหน่วยข่าวพบว่า

ไม่มีการขนคนจากพื้นที่ต่างๆ ทั้งอีสาน เหนือ กลาง เข้ามาร่วมชุมนุมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะทักษิณ ต้องการเห็นภาพความพร้อมของคนเสื้อแดง ในจุดยุทธศาสตร์ ที่สำคัญที่สุดคือกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงว่า เมื่อมีการนัดหมายกันแบบบ่ายมาค่ำกลับ

จะมีคนมาร่วมชุมนุมโดยไม่ต้องขนคนมาร่วมชุมนุมมากน้อยแค่ไหน

เพราะหากกลุ่ม ดังกล่าวมีความหนาแน่นเพียงพอ ก็ย่อมเป็นหลักประกันความมั่นใจให้กับทักษิณ และแกนนำ นปช.ได้ว่าว่าหากเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งแดงทั้งแผ่นดิน จะต้องกลับมาให้เห็นอีกคำรบ โดยใช้คนกรุงเทพฯและใกล้เคียงเป็นกำลังหลักในการปักหลักยืดเยื้อ แล้วให้คนต่างจังหวัดเป็นกองกำลังหมุนเวียนคอยเสริมและหนุนแบบผลักเวรกันมารายจังหวัด

นี่คือ สิ่งที่ฝ่ายข่าวประเมินเอาไว้สำหรับปฏิบัติการแดงทั้งเดือน ของทักษิณในครั้งนี้

ขณะทีอีกหนึ่งเหตุผล ที่เชื่อได้ว่ากลุ่มเสื้อแดง จะไม่ก่อเหตุอะไรรุนแรงก็เพราะ ทักษิณ และแกนนำเสื้อแดง รู้ดีว่า หากให้คนเสื้อแดงออกมาป่วนบ้านป่วนเมืองในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่หัวหิน ในช่วง 21-25 ต.ค. จะทำให้

“แดงติดลบ”หนักขึ้นไปอีก

และจะกลายเป็นชนักติดหลังทางการเมืองให้กับคนเสื้อแดงไปตลอดว่า เป็นพวกสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง หลังจากก่อนหน้านี้เสื้อแดงได้พลาดอย่างจังกับเหตุการณ์ออกมาสร้างความจลาจลให้กับชาติบ้านเมือง จนทำให้ต้องล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยาเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา

และบทเรียนครั้งนั้น ทักษิณ รู้ดีว่ามันคือก้าวที่พลาดอย่างมหันต์

ทักษิณและแกนนำจึงต้องการลบล้างความรู้สึกที่ติดลบในครั้งนั้นออกไป โดยจะไม่ออกมาก่อกวนทางการเมืองจนกว่าการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะผ่านพ้นไป แต่อาจมีกิจกรรมยืดเส้นยืนสายบางอย่างเพื่อหวังทำให้ภาพลักษณ์ของทักษิณ-คนเสื้อแดงที่ติดลบอย่างหนักในสายตาสื่อมวลชนต่างประเทศที่พร้อมใจกันเสนอข่าวว่าทักษิณ

คือตัวการสำคัญในการปลุกระดมให้คนเสื้อแดงออกมาก่อเหตุล้มการประชุมผู้นำอาเซียน และสร้างความวุ่นวายในเหตุการณ์สงกรานต์เลือด

โดยมีข่าวว่า ทักษิณจะให้ทีมงานที่สื่อสารภาษาต่างประเทศได้ นัดหมายสื่อมวลชนต่างประเทศที่จะเดินทางมาทำข่าวในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เพื่อให้มาทำข่าวคนเสื้อแดง บนแผนการที่วางไว้ว่า นี่จะเป็นโอกาสอันดีในการชี้แจงเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงบุกเข้าไปในโรงแรมสถานที่จัดการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา เพื่อหวังให้ภาพลักษณ์ของคนเสื้อแดง และทักษิณ ดีขึ้นในสายตาสื่อมวลชน

รวมทั้งจะใช้โอกาสนี้พยายามให้ข้อมูลว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะมีการออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาควบคุมการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง

อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าว ยังไม่มีการยืนยันว่าจะสำเร็จหรือไม่ และสื่อต่างประเทศจะสนใจทำข่าวคนเสื้อแดงในรูปแบบนี้หรือไม่

และเมื่อผ่านพ้นเดือนตุลาคมนี้ไป ก็น่าจับตาดูการเคลื่อนไหวของ ทักษิณ-เสื้อแดง ที่กำลังคิด

เปิด”ศึกแดงเดือด” ถล่ม อภิสิทธิ์ และสิ่งที่เสื้อแดงเรียกว่า ”อำมาตยาธิปไตย”อีกรอบ โดยคาดว่า

สงครามรอบใหม่น่าจะก่อตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้

จะเริ่มเห็นเค้าลางในช่วงปลายเดือนพ.ย. และอาจเร่งเร้าหนักขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งเป้าหมายแม้จะไม่ได้ต้องการชัยชนะแบบแตกหักกับอภิสิทธิ์ แต่ก็หวัง “ทุบให้น่วม”โดยรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งเป็นเสาค้ำยันที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลในการต่อสู้กับกองกำลังเสื้อแดง ให้อยู่ในสภาพสั่นคลอนอย่างมาก บริหารประเทศไม่ได้สะดวก

แต่แผนก่อศึกรอบใหม่ของเสื้อแดง บนปฏิทินการขับเคลื่อนในช่วง “ปลายฝน ต้นหนาว” จะเกิดขึ้นได้ต้องมีความพร้อมและปัจจัยเกื้อหนุนสำคัญคือ เป็นการศึกที่พร้อมทั้ง เงินทุน มวลชน การสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ

จนถึงขณะนี้ตรวจสอบรอบด้านแล้ว ปัจจัยข้างต้นอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมของทักษิณ-แกนนำเสื้อแดง

อาทิการจัดงานระดมทุนคนเสื้อแดงด้วยรูปแบบคอนเสิร์ต “เพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ" ที่ เขาใหญ่ วันที่ 14 พ.ย. ที่คาดว่านี่จะเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ของกลุ่มผู้หนุนหลังทักษิณ และคนเสื้อแดง เพื่อหาทุนก้อนใหญ่ก่อนเสื้อแดงรวมพลขับไล่รัฐบาลในปลายปีนี้

“แดงทั้งเดือน” ครั้งนี้ จึงเป็นแค่ปฏิบัติการ”วอร์มอัพ” ของทักษิณ-แกนนำเสื้อแดงเท่านั้น

แต่ของจริงที่จะทำให้อภิสิทธิ์ เหนื่อยหนักกว่านี้ คาดว่า ปลายฝน ต้นหนาว คงได้เห็นกันแน่นอน