รัฐบาลหวังหาเสียงล่วงหน้า ประกาศปั่นตลาดยางพารา “สุเทพ” มั่นใจราคายางพุ่งเกิน 80 บาทต่อ กก. ทั้งรักษาราคาตลาดไม่ให้ลด ด้าน “วีระชัย” พร้อมออกคุยอินโด-มาเลย์ เตรียม 8 พันล้านสต๊อกยาง ขณะที่ “ศุภชัย” เดินหน้าขยายพื้นที่ปลูกยางอีสาน-เหนือ 1-2 ล้านไร่ ทำเศรษฐกิจดีขึ้น
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ พร้อมนายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกรรมการ ร่วมกันแถลงเรื่องราคายาง
นายสุเทพกล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เราทั้ง 3 คนแก้ปัญหาราคายาง ถึงวันนี้เราขอแถลงประกาศว่ารัฐบาลจะดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ราคายางพาราขายได้ราคาเกินกิโลกรัมละ 80 บาท และขอประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราจะดูแลรักษาเสถียรภาพราคายางให้เกิน 80 บาท ตลอดไป ทั้งนี้ ที่แถลงอย่างนี้เพื่อให้ผู้ใช้ยางมีเวลาปรับตัว และเพื่อให้เกษตรกรทราบแนวโน้มราคา และผู้ประกอบการค้ายางจะได้ไม่ขายล่วงหน้าจะได้ไม่เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความต้องการยางพารามีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากน้ำมันดิบมีราคาสูงขึ้น ทำให้สัดส่วนการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้นด้วย
“รัฐบาลได้เตรียมเงิน 8 พันล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรทำสต๊อกยางพาราตั้งเป้าประมาณ 2 ตัน นอกจากนี้ยังประสานภาคเอกชนทำสต๊อกด้วย เพื่อเป็นการดูแลเสถียรภาพราคายางให้ดีขึ้น ก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 53 มาตรการทุกอย่างเราจะเดินเต็มที่และจะเริ่มทำสต๊อกยางพารา การแถลงวันนี้เพื่อบอกผู้ใช้ ผู้ค้า มั่นใจทำให้ตลาดพัฒนาขึ้น ราคาเกิน 80 บาทเป็นการถาวร”
ด้าน นายวีระชัยกล่าวว่า เราจะมีการพูดคุยกับกลุ่มประเทศผู้ซื้อ ผู้ผลิตอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยนายสุเทพได้มีแผนที่จะคุยกับอินโดนีเซียภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ สำหรับประเทศผู้ผลิตอย่างจีนและญี่ปุ่น ซึ่งจีนจะเป็นแหล่งผลิตนึ้รถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ อาจจะมีการหารือกันในการประชุมอาเซียนที่จะถึงนี้ด้วย
ขณะที่ นายศุภชัยกล่าวว่า หลังจากการปลูกยางราคาในภาคเหนือภาคอีสานเฟสแรกประสบความสำเร็จก็ได้มีการเรียกร้องให้ขยายพื้นที่การปลูกในเฟสที่ 2 เพิ่มเป็น 1-2 ล้านไร่ ส่วนจะมีการแจกกล้ายางกับประชาชนหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการยางฯจะพิจารณา แต่ทั้งนี้หากจะมีการแจกกล้ายางให้แก่เกษตรกรรายย่อยที่มีไร่ยางพาราประมาณ 5-10 ไร่ ทั้งนี้ เรื่องการขยายพื้นที่การปลูกยางเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการยางฯและจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้รับทราบอีกครั้ง เชื่อว่าการขยายการปลูกยางพาราจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น ประชาชนหันมาทำเกษตรกรมากขึ้น เพราะยางมีราคาดี ทั้งยังทำให้ลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย ตนเชื่อว่าราคา 80 บาทอาจจะได้เห็นกันในเดือนตุลาคมนี้ก็เป็นได้