“บิ๊กบัง” แนะแก้รัฐธรรมนูญควรโละทิ้งข้อเสีย ดึงข้อดีทั้งปี 40-52 รวมกัน ชี้ต้องทำประชามติด้วย พร้อมยังแบ่ง รับแบ่งสู้รับหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ
วันนี้ (12 ต.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีมีการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเสนอให้นำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ ว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ก็มีวิวัฒนาการมาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่กำลังใช้ในเวลานี้ทำให้เกิดมีสถานการณ์มากมาย หากจำเป็นต้องแก้ก็คงต้องแก้ เพราะอาจจะมีบางสิ่งในรัฐธรรมนูญปี 2550 ล้าสมัย แต่จะแก้ในรูปแบบใดหรือจะหยิบรัฐธรรมนูญปี 2540 มา ก็ต้องศึกษาว่ารัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับ
“หากจะแก้ ก็น่าจะเอารัฐธรรมนูญ ทั้งปี 2540 และ 2550 มาปรับแก้ให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยเอาข้อเสียทั้ง 2 ฉบับเอามาปรับแก้ และหากจะแก้รัฐธรรมนูญก็ควรต้องทำประชามติด้วย ส่วนจะทำประชามติขั้นตอนไหนนั้นผมไม่ทราบขั้นตอนวิธีการ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องถามประชาชนให้ประชาชนตัดสินใจ เรื่องการแก้หรือไม่แก้ขึ้นอยู่ที่ทางสภา และภาคประชาชนน่ามีบทบาท” พล.อ.สนธิ ระบุ
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยยื่นเงื่อนไขต้องการให้ทำประชามติ ว่า จะเอารัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ 2550 พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ 2550 ทั้ง 2 ฉบับ ยังไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด เราต้องหยิบสิ่งที่ดีที่สุดของ 2 ฉบับมารวมกัน และเอาสิ่งไม่ดีของทั้ง 2 ฉบับออกไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นที่กรรมการสมานฉันท์เสนอจะเป็นทางออกหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ 6 ประเด็น แต่อยู่ที่เนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญมีส่วนใดขัดต่อระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้หยิบรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นหลักอยู่แล้ว รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ให้เสรีภาพกับสื่อและให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และให้ตรวจสอบอำนาจรัฐ ดังนั้น ข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ยังมีดีอยู่มาก
เมื่อถามย้ำว่า เสื้อแดงคงไม่ยอมเพราะมองว่ารัฐธรรมนูญ 2550 มาจากเผด็จการ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงก็กลุ่ม เสื้อเหลืองก็กลุ่ม ประชาชนก็กลุ่ม ดังนั้น เราต้องถามประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศอยากได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่หรือไม่ การจะให้บ้านเมืองสมานฉันท์ได้ เสื้อแดงหรือเสื้อเหลืองต้องช่วยกันคิด เพื่อหาทางออก ถึงจะออกมาเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน
พล.อ.สนธิ กล่าวถึงความพร้อมในการลงเล่นการเมือง ว่า การสร้างสมานฉันท์อยู่ที่การยอมรับจากทุกฝ่ายจะเอาใคร ซึ่งคนที่จะเข้ามาสร้างสมานฉันท์ให้บ้านเมืองได้นั้นทุกสีต้องเห็นชอบ ถ้าส่วนใหญ่มองแล้วดีถึงจะเข้าไปสมานฉันท์ได้ ไม่ใช่เราเข้าไปแล้วเสื้อแดงและเสื้อเหลืองไม่เอา
พล.อ.สนธิ ยังกล่าวถึงการทาบทามให้ไปเป็นหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ว่า คงใกล้ถึงเวลาแล้ว มันก็น่าท้าทายนะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาเลยหรือไม่ ส่วนจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ยังไม่รู้
