“มาตุภูมิ” ได้ฤกษ์เทียบเชิญ “บิ๊กบัง” นั่งหัวหน้าพรรค ไม่หวั่นติดภาพรัฐประหาร

“มั่น” เผย พรรคได้ฤกษ์ส่งเทียบเชิญ “บิ๊กบัง” นั่งหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ หลังเดือนรอมฎอน ตุลาฯนี้ ไม่หวั่นภาพลักษณ์เคยนำรัฐประหาร ชี้ ธรรมดาย่อมต้องมีต่อต้านและเสียงเชียร์คู่กัน พร้อมเตรียมเทียบสำรองเล็ง “บิ๊กจิ๋ว” อีกหนึ่งแคนดิเดต

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่ทำการพรรคมาตุภูมิ เมื่อเวลา 11.00 น.ดร.มั่น พัธโนทัย ประธานที่ปรึกษาพรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วย นายนัจมุดิน อูมา ส.ส.นราธิวาส นายมุข สุไลมาน โฆษกพรรคมาตุภูมิ นายภูวเดช อินทวงศ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย ดร.มั่น แถลงว่า พรรคได้ดำเนินการอีกขั้นหนึ่งของพรรค คือ การเฟ้นหาบุคคลที่จะมานำพรรคให้ได้ดี และเป็นประโยชน์กับชาติในภาวะที่ประชาชนมีความเป็นห่วงสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในขณะนี้ ซึ่งพรรคก็ต้องเตรียมตัวหากจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ และจากการพูดคุยกับกรรมการบริหาร ส.ส.พรรค และสมาชิกพรรคถึงสถานการณ์การเมืองประมวลเหตุการณ์แล้วว่า ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่เคยทำงานใหญ่ๆ มาแล้ว ผู้ที่น่าจะนำพรรคมาตุภูมิไปสู่การเลือกตั้ง ทุกคนเห็นว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้คลุกคลีและร่มกิจกรรมของพรรคมาได้ระยะหนึ่ง ให้คำปรึกษาพรรค และการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุคนเรียกร้องให้มาแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะเป็นปัญหาของคนไทยทั้งช่าติที่ยังกังวลอยู่ จึงตัดสินใจไปขอเชิญ พล.อ.สนธิ มาเป็นหัวหน้าพรรค

“ทันทีที่พ้นการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนในต้นเดือนตุลาคมก็จะไปเชิญ พล.อ.สนธิ อย่างเป็นทางการ ก็อยากกราบขอร้องท่านว่าอย่าได้ปฏิเสธคำขอของเราเลย จะทำให้พรรคมาตุภูมิมีความหมายมากขึ้น” ดร.มั่น กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.สนธิ ก่อนหน้านี้หรือไม่ และมีท่าทีอย่างไร ดร.มั่น กล่าวว่า พล.อ.สนธิ มีแนวโน้มสนใจพรรคมาตุภูมิอยู่พอสมควร เมื่อถามต่อว่า มีการมองผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค นอกจาก พล.อ.สนธิ ไว้อีกหรือไม่ ดร.มั่น กล่าวว่า เท่าที่คุยกันก็มีหลายท่าน เราอาจจะไปเชิญผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตอบรับที่จะมาเป็นที่ปรึกษา และได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตหัวหน้าพรรคเพือแผ่นดิน ไว้เหมือนกัน แต่ยังพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะ พล.ต.อ.ประชา ยังอยู่ในพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง สมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมถึง พล.ต.อ.ประชา ก็อาจจะเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า นอกจาก พล.อ.สนธิ แล้ว ยังมีชื่อของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ด้วย ดร.มั่น กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต คงยังไม่หมดไฟ ที่ผ่านมา ก็ทำประโยชน์ชาติมากมาย หากท่านสนใจก็จะรีบไปเชิญทันที ที่ผ่านมา ก็มีการพูดคุยกันภายในมาบ้าง เมื่อถามต่อว่า กลัวภาพลักษณ์หรือไม่เพราะ พล.อ.สนธิ เองเป็นผู้นำรัฐประหาร ดร.มั่น กล่าวว่า เป็นธรรมดาท่านอยู่ในฐานะอย่างนั้น ก็ต้องมีเสียงเชียร์และเสียงต่อต้าน หากเรากังวลตรงนี้คงไม่ไปเชิญท่าน แต่เราวิเคราะห์กันทุกด้านแล้ว เห็นว่า อย่างน้อย พล.อ.สนธิ ก็มีความเป็นผู้นำ มีความคิดในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะความต้องการที่อยากจะเห็นความสามัคคี และท่านอาจจะเป็นคนกลางในการที่จะแก้ไขวิกฤตของบ้านเมืองไปได้

เมื่อถามว่า ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์กี่เปอร์เซ็นต์ที่ พล.อ.สนธิ ตอบรับแล้ว ดร.มั่น กล่าวว่า คงต้องไปถามท่าน แต่ตอนนี้ถือว่าตอนนี้พรรคยกขันหมากมาแล้ว ก็น่าจะมีการตอบรับที่ดีกลับมา เมื่อถามว่า กลัวจะเป็นหม้ายขันหมากหรือไม่ ดร.มั่น หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ถ้าไปกราบท่านแล้วท่านก็คงยอม เมื่อถามต่อว่า การแถลงข่าวก่อนโดยที่ยังไม่มีการตอบรับเป็นการหมัดมือชกหรือไม ดร.มั่น กล่าวว่า เชื่อว่า พล.อ.สนธิ จะเห็นแก่ประเทศ

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจแค่ไหนว่า ทาบทาม พล.อ.สนธิ แล้วจะไม่ถูกปฏิเสธ ดร.มั่น กล่าวว่า เราอยากจะทำให้เกิดความเรียบร้อยเกิดความสงบ และคิดว่า ท่านเป็นคนหนึ่งที่จะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้ ท่าทีเมื่อ 3 ปีที่แล้วกับวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เราควรลืมสิ่งที่ไม่ดีแล้วตั้งต้นใหม่ ซึ่งก็ยังคิดว่า พล.อ.สนธิ รับที่จะเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อถามต่อว่า พรรคมาตุภูมิจะเน้นเฉพาะภาคใต้หรือไม่ ดร.มั่น กล่าวว่า ตอนนี้เรามี ส.ส.ภาคใต้ 2 คน การเป็นพรรคการเมืองคงไม่ได้ทำเฉพาะภาคใดภาคหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็มีฐานที่มั่นภาคใต้จะทำให้ปัญหากับพรรคประชาธิปัตยหรือไม่ ดร.มั่น กล่าวว่า ไว้หลังเลือกตั้งค่อยมาดูตัวเลขกันว่าพรรคใดเป็นยังไง

ขณะที่ นายนัจมุดิน กล่าวว่า สำหรับ พล.อ.สนธิ แล้ว กับการทำรัฐประหาร และมาเล่นการเมืองเองในภายหลัง ซึ่งผู้สื่อข่าวมาเลเซียเคยถาม พล.อ.สนธิ มาแล้ว ซึ่ง พล.อ.สนธิ ตอบว่า การทำรัฐประหารครั้งนั้น ทำในฐานะผู้บัญชาการทหารบก