“มาร์ค” ย้ำความร่วมมือภาคประชาชนจุดสำคัญ แก้ปัญหาชุมชนในเมืองและชนบท หลังอดีตต่างคนต่างทำ ยึดประโยชน์ตัวเอง ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ พร้อมขายประชานิยมเดินหน้าโฉนดชุมชน เผย ครม.เตรียมชงอนุมัติไม่ต่ำพันล้านโครงการบ้านมั่นคง เดินหน้าเก็บภาษีที่ดินและทรัพย์สินในอนาคต และแก้ไขกฎระเบียบที่ล่าหลัง
วันนี้ (12 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. หอประชุมใหญ่ สำนักงานสหประชาชาติ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนาการจัดการที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินโดยขบวนชุมชนและท้องถิ่น โดยนายกฯ ได้กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกประจำปี 2552 ซึ่งสหประชาชาติได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ต้องขอชื่นชมสหประชาชาติที่ให้ความสนใจในสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนที่จะมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และมีศักดิ์ศรี โดยได้วางเป้าหมายให้ครอบคุมคุณภาพชีวิตและสิทธิขั้นพื้นฐานการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงของคนที่มีรายได้ในชุมชนแออัด โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคนที่อยู่อาศัยในชุมชนแออัดทั่วโลก จำนวน 100 ล้านคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2563 ปีนี้
นอกจากนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าในอนาคตอันใกล้คนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเมือง การวางแผนการจัดการพัฒนาการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพด้วยหลักการประชาธิปไตยโดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นหนทางสำคัญที่จะทำให้เรารับมือกับปัญหาเนื่องจากการเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว และการที่ผู้คนจำนวนมากหลากหลายต้องใช้ชีวิตร่วมกันได้ ซึ่งก็ต้องครอบคุมไปถึงการขาดแคลนสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ปัญหาชุมชนแออัด ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคม และอาชญากร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนในเมือง
ผมอยากเรียนว่า รัฐบาลตระหนักดีถึงปัญหาการวางแผน และการบริหาร จัดการเมืองที่ดี โดยเฉพาะอย่างยื่งเมืองใหญ่ๆ ที่จะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา และเชื่อมโยงเศรษฐกิจของประเทศ เมืองที่มีบทบาทสำคัญในการส่งต่อความรู้ ความก้าวหน้าด้านวิชาการ เทคโนโลยี สู่ชนบท เมืองที่เป็นแกนกลางของการจัดการเพื่อให้สังคมเล็กๆ ที่เชื่อมโยงกันมีการพัฒนาที่สัมพันธ์ และเป็นแกนกลางของการบริหารงานจัดการด้านต่างๆ รัฐบาลถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำ และให้เสามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการดำเนินเพื่อให้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพแข็งแรง มีระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง มีที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และมีความรู้ ความสามารถ เราถึงจะสร้างคนที่มีคุณภาพ สร้างสังคมไทยที่มั่นคง และเป็นธรรมได้ อันนำไปสู่สังคมที่มั่นคง ปลอดภัย มีการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
นายกฯ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การแก้ไขของเมืองนี้ สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลและรัฐบาลหลายยุคได้ตระหนักก็คือ จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับการพัฒนาชนบทด้วย โดยข้อเท็จจริงแล้วชนบทยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ชนบทถือเป็นแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทำหน้าที่ในการล่อเลี้ยงเมือง การพัฒนาชุมชนเมืองและชุมชนชนบทจึงเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน และไม่สามารถละเลยภาคใดภาคหนึ่งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาก็บ่งบอกชัดเจนว่า ยามใดที่เราสามารถกระจายความเจริญ กระจายความสามารถ กระจายรายได้ไปสู่ชนบทได้ แรงกดดันที่มีต่อสังคมชุมชนแออัดในเมือง หรือปัญหาต่างๆ ที่มาจากการพัฒนาเมืองก็จะลดลงไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ดังนั้น กำหนดการในการจัดการที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นในเมือง หรือชนบท เป็นสิ่งที่เราอาศัยหลักของการแก้ไขปัญหาเดียวกันของรัฐบาล และหลักที่มีความสำคัญที่สุดขณะนี้คือการยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้พี่น้องชุมชนสร้างองค์กรที่มีความเข้มแข็ง สามัคคี นำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกับภาคราชการและภาคท้องถิ่นได้ เป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญสุด
“การแก้ไขที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะในเมืองหรือชนบท ที่เราล้มลุกคุกคลาน และไม่สามารถทำให้สำเร็จเด็ดขาดได้ในอดีต เพราะว่าต่างคนต่างทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคราชการก็ยึดถือเอาเรื่องข้อกฎหมาย ระเบียบราชการ และกรอบความคิดของตัวเอง ในขณะที่ประชาชนแต่ละคนก็มีความเดือดร้อน พยายมเรียกร้องในสิ่งที่เป็นประโยชน์ของตัวเอง 2 ส่วนนี้มักจะเกิดความขัดแย้งกัน และในที่สุดทำการแก้ไขปัญหาด้วยยาก หรือแก้ได้นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ มากมาย แนวคิดที่สำคัญสุด คือ การทำงานร่วมกัน เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักว่า เราคงขาดกันและกันไม่ได้ หมายความว่าภาคราชการเองต้องยอมรับการมีส่วนร่วมของชุมชนต้องเข้าใจว่า ผู้ที่สัมผัสข้อเท็จจริงในพื้นที่ไม่มีใครรู้ดีกว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่เอง และพยายามอำนวยความสะดวกและเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาโดยอาจมีความจำเป็นจะต้องปรับทั้งเรื่องแผนการพัฒนา และกฎระเบียบต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จจริงให้มากยิ่งขึ้น” นายกฯ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางกลับกันความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาอย่างที่หลายชุมชนและหลายภาคส่วนได้รับรางวัลคือการตระหนักส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เพราะว่าในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดโฉนดชุมชน บ้านมั่นคง ตั้งต้นที่ผลแต่ละคนเราจะไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ถ้าเราตั้งต้นด้วยการวางแนวประโยชน์ของส่วนรวมและชุมชน เห็นภาพที่เป็นภาพใหญ่ ภาพรวม เดินหน้าไปสู่เป้าหมายใหญ่ได้ก่อน แล้วถึงลงไปในรายละเอียดแบ่งปันทั้งในเรื่องประโยชน์ การแบ่งปันทั้งชุมชน แนวทางนั้นเท่านั้นจึงจะเป็นแนวทางที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ แนวทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย แต่เป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย ที่มีความเข็งแข็ง การรวมตัวสามารถนำไปสู่การคิดริเริ่มแก้ไขปัญหาชุมชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งเสริมอาชีพ ระบบสวัสดิการชุมชน ส่งเสริมการออม และครอบคุมการดูแลประโยชน์ลูก หลาน ในชุมชน ในที่สุดความมั่นคงนี้จะลดปัญหาสังคมด้านต่างๆ เป็นแนวทางที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการแก้ปัญหาชุมชนในเมือง และชนบท ขยายผลให้ครอบคุมทุกพื้นที่
นายกฯ กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลขอยืนยันว่าจะทำร่วมกับท้องถิ่น ภาคราชการ ชุมชน ในส่วนของกฎระเบียบรัฐบาลกำลังเดินหน้าคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น การผลักดันระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องของโฉนดชุมชนไปสู่การแก้ไขกฎหมาย เปิดช่องทางที่ทำกิน ข้อติดขัดข้อกฎหมายในเขตป่าอุทยาน และเขตเมืองบ้านมั่นคงได้เร่งสะสางกฎระเบียบต่อไป วันอังคารที่ 13 ต.ค.ในการประชุมคณะรัฐมนตรีรัฐบาลจะได้มีการอนุมัติเงินในส่วนที่จะมาสนับสนุนบ้านมั่นคงของการปฏิบัติการไทยเข้มแข็งที่ได้จากการระดมทุนตามพระราชกำหนด ในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และกำลังวางแผนเพิ่มงบประมาณฯ อาจจะเป็นช่วงของการระดมทุนในพระราชบัญญัติในปฏิบัติการไทยเข็มแข็งหรืองบประมาณปีต่อไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าภาษีที่ดินและทรัพย์สิน ซึ่งถือว่าเป็นภาษีสำคัญในการถือครองกระจายในอนาคต และได้หารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประชาชนภาคต่างๆ ว่า การเก็บภาษีนี้จะได้สมทบกองทุนที่จะมีการพัฒนาธนาคารที่ดินต่อไป โดยผ่านกลไกต่างๆ ทั้งกฎหมาย และงบประมาณ ขอยืนยันอีกครั้งเป้าหมายของรัฐบาลคือ คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เป็นไปไม่ได้ถ้าคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ขาดปัจจัยสี่ และที่อยู่อาศัยมีหลักประกันที่มั่นคง ถือเป็นส่วนสำคัญในคุณภาพชีวิต และต้องย้ำอีกว่า ความสำเร็จของปัญหานี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้ากระบวนการชุมชนขาดความแข็งแข็ง และความสามัคคีของประชาชน และการทุ่มเทที่ต้องอาศัยเวลา
