xs
xsm
sm
md
lg

“นช.แม้ว” มุกฝืด พล่ามเรื่องเดิม หลอกใช้คนเสื้อแดงทวงคืน รธน.ปี 40

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ โดยไม่ยอมกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแม้จะถูกศาลตัดสินแล้ว
“นช.แม้ว” มุกฝืด วิดีโอลิงก์พล่ามแต่งเรื่องโกหกหลอกใช้คนเสื้อแดงทวงคืน รธน.ปี 40 เพื่อเปิดทางให้ตัวเองกลับมาเรืองอำนาจ แสร้งทำตัวห่วงประเทศ ทวงประชาธิปไตยคืน ปชช. ที่แท้ทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น มีหน้ากลบเหลื่อนความผิด โทษทหารทำปฏิวัติยัดเยียด รธน.ปี 50 พร้อมทำคลอด รบ.เผด็จการ โดยไม่สนใจเสียง ปชช. พร้อมทำหน้าขึงขัง วอนทุกฝ่ายปรองดองเป็นโอสถทิพย์ถวาย “ในหลวง” ให้หายประชวร

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 

 

วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยชั่วคราว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่จัดการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อรำลึกถึงรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งวิดีโอลิงก์มายังที่นี่ ขอนัดแนะให้พี่น้องคนเสื้อแดง จุดเทียนและหันหน้าไปทางโรงพยาบาลศิริราช เพื่อส่งกระแสจิตทำสมาธิเป็นพลานุภาพให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งวิดีโอลิงก์มายังเวทีเมื่อเวลา 20.37 น. โดยนำมวลชนคนเสื้อแดงกล่าวคำถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งกล่าวให้คนไทยแสดงความจงรักภักดี เพื่อเป็นพระโอสถทิพย์ที่จะทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมมายุยืนยาวเหมือนพระอานนท์ และจงทรงพระเจริญ ทั้งนี้ ได้มีการกล่าวไชโยจำนวน 3 ครั้ง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวโฟนอินต่อว่า วันนี้ที่นัดชุมนุม มีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยก่อนที่พูดอะไร ขอขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงที่มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีการประกาศให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมาเท่านั้น แต่ก็ยังมีผู้คนจากต่างจังหวัดเดินทางมาร่วม ซึ่งตนก็เข้าใจว่า เหตุผลที่ทุกคนอยากจะมา เพราะต้องการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ปี 2540 คืน ทั้งนี้ ในเวลานี้ มีหลายฝ่ายกำลังถกเถียงกันเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ใน 6 ประเด็นดีหรือไม่ โดยสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการทำอะไรไม่ปรึกษาประชาชนว่าต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือต้องการกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่มาจากเสียงประชาชน ซึ่งตนอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า ในเมื่อต้นไม้ถูกตัดกิ่งด้วยความชั่วร้ายจะทำให้กลายเป็นสิ่งดีคงไม่ได้ เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญที่มาจากทหาร ทำอย่างไรก็ถือว่าเป็นเผด็จการ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ควรกระทำ คือ เอาการรัฐธรรมนูญ ปี 40 มาเป็นตัวตั้ง เพราะมีพื้นฐานความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ซึ่งแตกต่างจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่เต็มไปด้วยเผด็จการ แสดงได้ชัดว่าไม่ได้จากความคิดเห็นของส่วนรวม หรือคนส่วนใหญ่ โดยจะเห็นความเลวร้ายได้จาก ขณะนี้บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการแข็งข้อต่อรองผลประโยชน์กับรัฐบาลมากมาย หรือจะเรียกได้ว่ามีแต่พฤติกรรมที่เกี๊ยเซียะ จนทำให้รัฐบาลไม่กล้ากระดิกไปไหน จะแก้ปัญหาแต่ครั้งก็ทำไม่ได้ ประชาชนจึงได้รับความเดือดร้อน

“ในสมัยที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ตนได้รับตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเวลานั้นได้มีการเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ และเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมา ซึ่งช่วงนั้น ตนได้ลาออกและไปสมัครเป็น ส.ส.ร.ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนจังหวัด แต่กลับมาถูกล็อบบี้ก่อนที่จะได้เข้าสภา เพราะมีคนกลั่นแกล้ง จึงทำให้ไม่ได้มีโอกาสร่วมร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า หลังจากเหตุการณ์ปฏิวัติ เมื่อวันที่ 19 กันยายน ปี 2549 ประเทศถือว่าใช้นายกรัฐมนตรีเปลืองที่สุด โดยเปลี่ยนผู้นำประเทศถึง 4 คน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นเวลาที่ประเทศต้องการความต่อเนื่อง และต้องการผู้นำที่แก้ปัญหาได้อย่างเด็ดขาด ตนจึงถือว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 เป็นสิ่งที่ทำร้ายประเทศ และถือว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2540 ดีที่สุด แม้ว่าจะมีบางมาตราที่สมควรจะแก้ไข แต่ก็ดีกว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ถือว่าเป็นฉบับของทหาร ที่ยัดเยียดให้แก่ประชาชน โดยเอาการทำประชามติมาบังหน้า ที่แท้ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชน มีแต่ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ต่างชาติก็มองประเทศไทยในด้านลบ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า หลายปีที่ผ่านมา เวลาที่เราร้องเพลงเพื่อรำลึกถึงวันที่ 24 มิ.ย. 2475 ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและระบอบประชาธิปไตย เรามักจะนึกถึงสิ่งดีๆ แต่วันนี้ รัฐธรรมนูญ ปี 2550 มีแต่ความเลวร้าย เพราะมาจากรัฐบาลเผด็จการ หรือรัฐบาลทหาร ดังนั้น ตนขอให้ทุกฝ่ายทำใจเป็นกลางและนั่งสมาธิ จะได้รู้เสียทีว่าพี่น้องคนเสื้อแดงไม่เคยคิดร้ายต่อบ้านเมือง แต่พวกเขาแค่อยากเห็นประชาธิปไตยเบ่งบานในประเทศไทย ตนอยากขอร้องให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ทำทุกอย่างเพื่อให้คนไทยมีความสุข ถ้าพวกเขาต้องการหรืออยากเลือกใครเป็นผู้นำ ก็ให้ตามใจ ไม่มีการปิดกั้นทางความคิด รวมทั้งอยากให้องค์กรอิสระไม่ควรเข้ามามีบทบาท ตัดสินให้ใครผิดหรือถูก

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า เวลานี้กำลังมีความพยายามจะดึงประชาธิปไตยออกจากคนไทย ทั้งที่โลกเราทุกวันนี้ เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความเฉลียวฉลาดมากขึ้น โดยประชาธิปไตยต้องกินได้ และคนเสื้อแดงก็ต้องการทวงคืนประชาธิปไตย เพื่อให้ชาวโลกได้เห็นและนับถือเรา ทั้งนี้ ทุกวันนี้ถามว่ารัฐบาลได้ทำอะไรเพื่อประชาชนบ้าง ตนตอบได้ทันทีว่าไม่เคยแก้ปัญหาให้ประชาชนเลย เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องเอาเวลาบริหารบ้านเมืองไปทำอย่างอื่น เช่น ไปใช้ศาลบี้พรรคอื่นๆ ที่ขัดแย้งกับตัวเอง จนทำให้ประเทศทุกวันนี้ เต็มไปด้วยปัญหาหวยใต้ดิน ยาเสพติด บ่อนการพนัน และกู้นอกระบบ ซึ่งคนกลุ่มดังกล่าว ได้รุมทำร้ายประชาชน ทำให้หายใจหายคอไม่ออก ตนอยากบอกว่า ทุกอย่างตนรู้ดีแก่ใจว่าประเทศไทยเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ก็ได้แต่หวังว่าในไม่ช้าประเทศไทยจะหลุดพ้นและได้รับแสงสว่างเสียที

“เวลานี้ผมเป็นห่วงบ้านเมืองจริงๆ เพราะเห็นแล้วว่ามีแต่ปัญหา แต่วันนี้ยังดีที่เราใจตรงกันที่อยากทวงคืนประชาธิปไตยให้กับประเทศ ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้ ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษ แต่ต้องการเตือนรัฐบาลชุดนี้ ว่าเลิกคิดได้แล้วว่า พวกเราถูกจ้างมา หรือมีการจูงจมูกคนมานั่งฟัง เพราะสมัยนี้คนเขาฉลาดกันหมดแล้ว ดังนั้น อยากให้รัฐบาลให้สิทธิ์ทางความคิดผู้อื่น อย่ามาดูถูกคนเสื้อแดงให้มากนัก และอย่าไปหลอกลวงประชาชนว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ มันจะทำให้บ้านเมืองยิ่งไม่เจริญขึ้น” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การชุมนุมวันนี้ตนอยากส่งเสียงสะท้อนไปถึงผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ให้คืนประชาธิปไตยและความยุติธรรมให้แก่ประชาชน และเลิกพฤติกรรม 2 มาตรฐานเสียที เพราะทำให้ประเทศตกอยู่ในวังวนปัญหาเดิมๆ

“วันนี้พี่น้องเห็นผมพูดรุนแรง ดุเด็ดเผ็ดมัน ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไปแก้แค้นใคร เพราะผมอโหสิกรรมให้ทุกฝ่ายหมดแล้ว อย่าได้ห่วงเรื่องนี้ เมื่อวานก่อน ผมเห็น นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ภาคอีสาน ก็ต้องใช้กำลังคุ้มกันมากมาย สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยนะครับ การที่ผู้นำประเทศจะเดินทางไปไหนก็ไม่สะดวก เพราะมีคนมาต่อต้าน ดังนั้น ผมอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาปรองดองกัน อย่าให้อีกฝ่ายทำอยู่ฝ่ายเดียว ผมขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าพระโอสถที่ดีที่สุด ที่จะให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระชนมมายุอายุยืนนาน คือ คนในชาติต้องรู้จักปรองดองกัน ดังนั้น ผมขอให้ใครที่มีอำนาจในบ้านเมือง จงรู้ว่า หากมีความจงรักภักดีต่อสถาบันจริง ต้องสร้างความปรองดองและคืนประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่ที่มีการกล่าวไชโย 3 ครั้ง หลังจากที่ได้ร่วมกันร้องเพลงถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนอยากย้อนเวลาไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปี 2549 ที่ตอนนั้นตนเป็นนายกรัฐมนตรี นำประชาชนจำนวนมากกล่าวไชโย ในโอกาสเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และต่อจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ และกล่าวหาว่าตนไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน อีกทั้งมีการตัดเสียงตอนตนกล่าวนำไชโย เมื่อวันนั้นออก ซึ่งตนอยากถามว่า สิ่งที่ทำดังกล่าว ถือว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีหรือไม่ หากรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ควรทำอย่างอื่นที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปิดท้ายว่า วันนี้ตนเห็นผู้คนมามากมาย ก็รู้สึกขอบคุณที่ยังคิดถึงตน โดยเวลานี้ ตนขอเดินทางไปเรื่อยๆ แต่ไม่แน่อีกไม่นานนี้ จะกลับไปแวะเยี่ยมเยียนพี่น้องใกล้ๆบ้าน แต่เวลานั้นอาจยังมาไม่ถึง ดังนั้น ต้องขอบคุณการรวมตัวนัดพบกันวันนี้ก่อน แม้เศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ก็ยังมากันเยอะ วันนี้ก็มีนักธุรกิจที่สนับสนุนกิจกรรมคนเสื้อแดงมาหาตน และส่งความช่วยเหลือด้วยการอุปการะด้านอาหารและรถขนส่ง ซึ่งตนก็ขอขอบคุณกับน้ำใจดังกล่าวที่ช่วยกันคนละไม้คนมือ เพราะม็อบคนเสื้อแดงไม่มีเส้น ไม่มีคนส่งเงินก้อนโตช่วยเหลือ ทั้งนี้ ตนขอให้คนเสื้อแดงอดทนรอต่อไป เพราะที่สุดแล้วเชื่อว่าความจริงจะปรากฏ เนื่องจากความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

“สมัยที่ผมตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ นายวีระเคยสอนผมว่า หัวหน้าต้องพูดบ่อยๆ อย่าเบื่อตัวเองที่จะพูดให้คนอื่นฟัง คนอื่นๆจะได้เข้าใจในตัวเรา ผมนำคำพูดดังกล่าวมาใช้จนถึงวันนี้ ผมจึงต้องพูดความจริงอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น อยากฝากถึงสื่อพีทีวีด้วยว่า ควรนำเสนอแต่ความจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้สิ่งดังกล่าวว่าที่รัฐบาลพูดมาโกหกแค่ไหน และจะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

อนึ่ง สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์พูดวันนี้ ล้วนมีความขัดแย้งกันเองหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่พูดถึงเรื่อง ตัวเองไปสมัครเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จ.เชียงใหม่ และได้รับคัดเลือก แต่มาถูกกลั่นแกล้งก่อนที่จะได้เข้าทำหน้าที่ในสภา เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540 โดยสิ่งที่พูดถือว่า ขัดแย้งกับสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงสู้ เพื่อทวงคืนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ทั้งๆที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเปิดเผยเองว่า มีการล็อบบี้ และกลั่นแกล้งทำให้ไม่ได้เป็น ส.ส.ร. นั่นก็แสดงว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2540 ไม่ได้ดีจริงอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูด เพราะถ้าเป็นประชาธิปไตยจริง คงไม่มีการล็อบบี้ แต่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเรียกร้องให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 เพราะรู้ว่ามีช่องทางช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นจากความผิด และได้กลับประเทศมาเรืองอำนาจ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มีหลายมาตราที่เป็นช่องโหว่ทำให้นักการเมืองคอร์รัปชันหนีเอาตัวรอด ไม่ยอมรับผิดที่ก่อไว้ จนทำให้ต้องการมีการร่างและประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ซึ่งมีการทำประชามติ รับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างถูกต้อง

ต่อมา ประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นายวีระ เคยแนะนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดบ่อยๆ ทุกฝ่ายจะได้เข้าใจความจริง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นายวีระ พูดในสมัยที่เพิ่งตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ ซึ่งเวลานั้น นายวีระ ยังทำงานอยู่กับพรรคความหวังใหม่ นั่นก็แสดงว่า การที่ นายวีระ เรียก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าหัวหน้า ก็หมายความว่า มีความสนิทชิดเชื้อกัน เสมือนว่าทำงานให้แก่ทั้ง 2 พรรค โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้านายตัวจริง

ต่อจากนั้น บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงได้ทยอยตบเท้าขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวโจมตีเรื่องเดิมๆ อาทิ การเรียกร้องให้ล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงป้ายสี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมทั้งด่าทอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งบุคคลในรัฐบาล นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวโจมตี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ทั้งๆที่ก่อนหน้าพรรคพวกตัวเองก็เคยออกมาประกาศว่าพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หลังจากที่มีการเปิดเผยว่าจะแก้ไขใน 6 ประเด็น ซึ่งทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทางอดีตนายกรัฐมนตรีขายชาติ จึงส่งสัญญาณกลับมาให้ลิ่วล้อเร่งออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสั่งให้เดินหน้าทวงคืนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 คืน เพราะเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่อ่อนในด้านการเอาผิดกับนักการเมืองชั่ว คอรัปชัน และที่สำคัญจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อคดีความที่คั่งค้างอยู่ได้มากกว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550

การปราศรัยเรื่อยมาถึงเวลา 01.50 น. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ได้เป็นคนนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อปิดการชุมนุม หลังจากนั้นได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในโอกาสครบรอบ 60 วันของการล่ารายชื่อประชาชนถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงอ้างว่า รัฐบาลพยายามเตะถ่วงเรื่องดังกล่าว ไม่ยอมดำเนินการตามขั้นตอน จึงต้องนัดชุมนุมเพื่อไปทวงถามความคืบหน้าเรื่องนี้ ซึ่งอาจมีการเดินทางไปกดดัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
ไม่เคยพลาดชูรูป นช.แม้ว ยกย่องอดีตนายกฯ คอรัปชัน
กำลังโหลดความคิดเห็น