“ยะใส”ชี้หางแดงชุมนุมแค่ใบเบิกทาง แนะจับตาเปลี่ยนมือป่วน

“ยะใส”ชี้เสื้อแดงชุมนุมแค่หยั่งเชิง แต่อาจส่งไม้ต่อทำยืดเยื้อ ติง “มาร์ค” เลือก ผบ.ตร. อย่าปล่อยให้อ้างคนพิเศษ ดึงสถาบันมัวหมอง แนะนักประชาธิปไตยอย่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ ควรนำเหตุ 19 ก.ย.เป็นบทเรียน มากว่าที่จะประณาม ขณะที่“เทิดภูมิ” คาด19 ก.ย.จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ไม่จะถึงขั้นทำให้ รบ. เปลี่ยนขั้ว ระบุ “หางแดง”ออกตัวไม่เกี่ยวเหตุรุนแรง ส่อเค้าวางแผนป่วน



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนในข่าว”

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 17 กันยายน 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายเทิดภูมิ ใจดี อดีตผู้นำแรงงาน มาร่วมประเมินสถานการณ์ 19 ก.ย.

นายสุริยะใส กล่าวว่าตำรวจขู่ออกหมายจับเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมาย เพราะการเปลี่ยนตัว พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผบ.ตร. มาเป็น พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผู้ผบ.ตร. ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มเนวิน เจตนาชัดเจนต้องการลากพันธมิตรฯ มาอยู่ในเกมความขัดแย้งทางการเมือง อาจถึงขั้นบีบให้ยอมจำนนต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามแนวทางการต่อสู้หากไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียก เราจะใช้สิทธิอุทธรณ์ ว่าเป็นข้อกล่าวหาเท็จ แล้วไปสู้กันในชั้นศาล

นายสุริยะใส กล่าวถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ที่ต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด เพราะเหตุข้อมูลพิเศษ ของบุคคลพิเศษ ตรงนี้นายกฯ ต้องหาข้อยุติให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้มีการอ้างสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสถาบันเบื้องสูง อย่างไรก็ตามเลือก ผบ.ตร. พันธมิตรฯก็ไม่ได้ตั้งธงว่าจะต้องเป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เพียงแต่รู้สึกว่า พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ไปเกี่ยวโยงพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น

นายสุริยะใส กล่าวว่าการออกตัวของ นายณัฐวุฒิ เป็นแค่ขบวนการสร้างข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างประเด็นเพื่อล่อรัฐบาลให้มาอยู่ในกับดัก และเป็นการป้องกันตัวเองหากเพลี่ยงพล้ำ ดังนั้นตนเชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้ ไม่น่าจะใช้เวลาแค่วันเดียว อาจส่งไม้ต่อให้คนอื่นด้วยเหตุติดเงื่อนไขที่ให้ไว้ต่อศาล ดังนั้นการชุมนุมช่วงแรก จึงเป็นแค่การเปิดประเด็น แต่ที่น่าจับตาน่าจะเป็นช่วงต่อๆไป ตอนนี้ทางเลือกของทักษิณ ต้องม้วนเดียวจบเท่านั้น เพราะยิ่งช้าย่อมไม่เป็นผลดี คดีความต่างๆ มีโอกาสแพ้และล่มสลายได้ จึงต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมด แล้วป่วนรัฐบาลให้มากที่สุด เพื่อให้ง่ายต่อการโค่น ด้วยวิธีรัฐประหาร ยุบสภาหรือถอนตัวของพรรคร่วม อย่างไรก็ตามการชุมนุมครั้งนี้ไม่จำต้องปิดเกมในวันที่ 19 โดยสถานการณ์ยังลากยาวได้ อาจยาวไปถึงเดือนตุลาคม

ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงพูดว่าการเคลื่อนไหวแค่ประณาม 19 ก.ย. หรืออำมาตย์เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสถาบัน คนเหล่านี้แค่แกล้งโง่ เพราะคนอย่างนพ.เหวง โตจิลาการ กับ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย เป็นพวกซุ่มซ่อนเก่ง ไม่เปลือยตัวจนเห็นธาตุแท้ จะวิเคราะห์คนเหล่านี้ต้องทบทวนหลายชั้น ดังนั้นที่บอกว่าโฟกัสของคนพวกนี้แค่ พล.อ.เปรม หรือองค์มนตรี เป็นการคาดการณ์ที่ผิด คนที่มีเป้าหมายเดียวกันกับกลุ่มคนพวกนี้ที่เปิดเผยธาตุแท้ชัดเจนที่สุดมี จักรภพ เพ็ญแข กับ สุรชัย แซ่ด่าน

“การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้ เป็นแค่เชิงสัญลักษณ์ ปัจจัยชี้ขาดไม่ได้อยู่ที่การชุมนุมหรืออยู่ที่บ้าน พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ แต่เป็นเกม ลับ ลวง พราง ที่ฝ่ายความมั่นคงต้องจับตาเป็นพิเศษ และอย่าไว้วางใจให้หน่วยใดหน่วยหนึ่งกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวนักประชาธิปไตยไม่ควรนับหนึ่งในวันรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 เพราะจะทำให้ดูเหมือนมีอคติทางวิชาการ พยายามตัดตอนเหตุการณ์ ซึ่งหากไปนับหนึ่งวันที่พ.ต.ท.ทักษิณ แทรกแซงรัฐธรรมนูญ จะเห็นว่ารัฐประหาร19 ก.ย. มีลักษณะพิเศษ ไม่ควรถูกประณามแต่ควรเอาเป็นบทเรียน เพราะปัญหาการเมืองที่ล้มเหลว เปิดอภิปรายก็ค้านได้ยากเพราะเสียงไม่ถึง ทำให้เกิดอำนาจนอกระบบ ไม่มีความชอบธรรม

นายสุริยะใส กล่าวว่าเดิมทีตั้งใจจะแสดงจุดยืนในช่วงเที่ยง ที่บ้านพระอาทิตย์ แต่เนื่องจากเกิดเหตุฉุกเฉิน และแกนนำหลายท่านไปต่างจังหวัด จึงไม่พร้อมที่จะแถลงข่าว อย่างไรก็ตามจะมีการหารือกันภายใน ในเรื่องเขาวิหารที่พี่น้องพันธมิตรฯไปชุมนุม กับสถานการณ์การชุมนุมเสื้อแดง ทั้งนี้เรื่องเขาวิหารมีสัญญาณที่ออกมาน่าเป็นห่วง แต่ทางแกนนำทำได้เพียงคุยกับผู้ใหญ่บางท่าน เพื่อขอความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ให้กับประชาชนที่ไปประกาศสิทธิทวงคืนอธิปไตย ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหายที่รัฐบาลจะไปกังวลจนเกิดเหตุ ส่วนที่หลายคนมองว่า ทำไมห้าแกนนำพันธมิตรฯไม่ไป เป็นเพราะเราแบ่งงานกันทำ และพุ่งเป้าไปที่การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเป็นหลัก และตนก็ถูกจัดให้ดูแลพื้นที่ในกรุงเทพฯ

“สิ่งที่ นายวีระ รวมพลประชาชนกดดันเพราะต้องการความชัดเจนของรัฐบาลที่จะผลักดันให้กัมพูชาออกไป รัฐบาลต้องบอกแนวทางให้ชัดเจน พร้อมกับเสนอให้จัดหน่วยงานอิสระ นักข่าวทุกแขนง ลงไปสำรวจพื้นที่ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากรัฐบาลไม่เชื่อสิ่งที่ นายวีระ พูด” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวว่าเขาวิหาร เป็นข้อพิพาทที่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะโครงสร้างอำนาจรัฐอยู่ในฐานะที่จัดการเสร็จเด็ดขาดไม่ได้ ดังนั้นเราจะปล่อยให้รัฐบาลทำงานตามลำพังไม่ได้ ต้องสร้างภาคประชาชนขึ้นมาเป็นเจ้าภาพ การเคลื่อนไหวใดหากเปิดช่องให้ถูกตีกลับ อาจทำให้ข้อมูลดีๆของเราอาจถูกอีกฝ่ายนำมาบิดเบือน ตรงนี้คือสิ่งที่เราเป็นห่วง ไม่ใช่การเบรก แต่ด้วยความห่วงใยเราเลยท้วงติงไป

นายเทิดภูมิ กล่าวถึงกรณีตำรวจขู่ออกหมายจับ ว่า เรายอมให้ตำรวจดำเนินคดี ไม่คิดหนี เพราะเราชุมนุมอย่างสงบไม่ได้ทำอย่างที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุที่ต้องไปที่สนามบิน ก็เพราะว่าชุมนุมที่ทำเนียบฯ ถูกลอบยิงด้วยอาวุธปีนสงคราม M79 และที่ไปก็ไม่ได้ไปปิดสนามบิน แค่ปะท้วงรัฐบาลขณะนั้น ที่ไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ

นายเทิดภูมิ กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ออกตัวว่า “การชุมนุมจะเป็นไปด้วยความสงบ แต่ถ้ารัฐบาลปล่อยให้มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างความรุนแรง การชุมนุมจะขยายเวลา...ตอนนี้มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับรัฐบาล พรรคร่วม ระบอบอำมาตย์ เตรียมชายฉกรรจ์สวมเสื้อแดง...ก่อเหตุที่สำนักงาน ป.ป.ช.และภายในบ้านสี่เสาร์ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นไม่ใช่คนเสื้อแดงทำ” ตรงนี้เป็นแค่เงื่อนไขที่จะสร้างสถานการณ์ เพื่อต้องการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และการชุมนุมในวันที่ 19 นี้ตนคาดว่าน่าจะเกิดความรุนแรง ต้องไม่ลืมว่าตำรวจส่วนมากยังติดอยู่กับระบอบทักษิณ ที่ผ่านมาตำรวจยังเคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง ดังนั้นเมื่อร่วมมือกันแล้ว อาจทำให้ตำรวจใส่เกียร์ว่าง ปล่อยให้ม็อบที่ชุมนุมทำอะไรได้ตามอำเภอใจ อย่างไรก็ตามหากเกิดความรุนแรงขึ้นจริง แต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เพราะกระแสสังคมไม่เอื้อ

ส่วนคำถามที่ว่าไทยได้อะไรจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. นายเทิดภูมิ กล่าวว่า ข้อดีหากไม่มีการรัฐประหารป่านนี้ไม่รู้ว่าบ้านเมืองจะถูกพ.ต.ท.โกงกินไม่รู้เท่าใดแล้ว ส่วนข้อเสียเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย เพราะคนไม่ชอบการปฎิวัติรัฐประหารซึ่งดูเป็นการล้าหลัง แต่ที่น่าเสียดายเมื่อรัฐประหารแล้ว บ้านเมืองบอบช้ำแล้วแทนที่จะได้อะไรกลับมาบ้าง แต่รัฐบาลกลับทำงานไม่เป็น ไม่กำจัดระบอบทักษิณให้สิ้นซาก จนเกิดการเคลื่อนไหวต่อลองทางการเมืองอยู่อย่างต่อเนื่อง

“กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างกระเสผ่านทวิสเตอร์ บอกว่า สงบศึกหันหน้ามาเจรจากัน เสื้อแดงต้องชุมนุมอย่างสันติ เอาแค่รำลึกถึง 19 ก.ย.ก็พอ ตรงนี้เป็นแค่การพูดให้ดูดี น่าเชื่อถือ ที่จริงลึกๆต้องการสร้างความปั่นป่วน สังคมต้องดูว่าที่ผ่านมา พ.ต.ท.เคยพูดอะไรจริงบ้าง” นายเทิดภูมิ กล่าว