นายกฯ ย้ำความจำป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในช่วงประชุมสุดยอดอาเซียน เพื่อไม่ต้องการให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ที่พัทยา ยืนยันจะไม่ละเว้นพวกทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์สาธารณสุข สั่ง 3 กระทรวงหลักแก้ไขปัญหามาบตาพุด ดูแลผลกระทบต่อสุขภาพ เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด แต่ไม่ต้องถึงขั้นประกาศสงครามเกรงผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ "
วันนี้ (11 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 15 ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้พื้นที่จัดประชุมเป็นพื้นที่ความมั่นคง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการประชุมเหตุนี้มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาบังคับใช้ในพื้นที่การจัดประชุม ซึ่งอาจจะกระทบต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้าง แต่ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับบรรยากาศการประชุม ต่อเนื่องไปถึงการเชื่อมั่นต่อหการลงทุนในอนาคต และไม่อยากให้มีเหตุการณ์เกิดซ้ำรอยเหมือนมเมือหมือนเมือ่ครั้งกาประชุมที่พัทยา สำหรับกฏหมายการชุมนุมในที่สาธารณะตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นว่า บางข้ออาจขัดต่อรัฐธรามนูญในกรณีการชุมนุมโดยสงบปราศาจากอาวุธ จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกากลับไปดูแลอีกครั้ง
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาโครงการมาบตาพุด ซึ่งกระทบต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้รัฐบาลกำลังบังคับใช้กฏหมายอยู่ 3 ฉบับว่าด้วย สาธารณสุข สิ่งแวดล้อมและกฎหมายโรงงาน จึงสั่งการให้ 3 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีส่วนในการรับผิดชอบดูแล เข้าไปตรวจสอบดูผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ว่า การประกอบกิจการได้ส่งผลให้ชาวบ้านมีอาการเจ็บป่วยอย่างไรบ้าง หรือทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เพื่อหาแนวทางป้องกันแก้ปัญหาผลกระทบต่อประชาชนส่วนการจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีกระแสข่าวว่ามีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น
ในช่วงที่สองของรายการ นายกฯ ได้นำเทปบันทึกภาพการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการไทยอีสายเข้มแข็ง ใน 3 จังหวัด คือ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร และได้มอบเงินเยียวยาให้ยายไฮ ขันจันทา ยังได้กล่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติดระบาดในขณะนี้ว่า ต้นตอแหล่งใหญ่มาจากเรือนจำ ทั้งหมดนี้หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การปราบปรามและป้องกันคงจะไม่สลับซับซ้อนเช่นนี้ แต่คงไม่ต้องถึงกับประกาศสงครามอย่างในอดีต เพราะจะไม่การสูญเสียโดยคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย ซึ่งทุกอย่างจะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย
