“หมอน้อย-ปลัด สธ.” และพวก 12 คน งานเข้า เจอ บริษัทแบตเตอรี่ ฟ้องฐานละเว้นหน้าที่ ส่งข้อมูลเท็จ เรื่องบ่อกำจัดขยะให้ นายกฯ หวั่นถูกบางกลุ่มใช้เป็นข้ออ้างขอ งบกว่า 200 ล.จาก ก.สาธารณสุข
วันนี้ (7 ต.ค.) นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบตเตอร์เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา บริษัทได้ยื่นเรื่องฟ้องนายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข นายไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพวกรวม 12 คน ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ฐานละเว้นการปฏิบัหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ของกฎหมายอาญา เนื่องจากกรณีที่ นายวิทยา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงแก้ไขปัญหาสุขภาพผู้ได้รับกระทบกรณี บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน ที่ จ.สระบุรี โดยกระทรวงสาธารณสุขได้นำข้อสรุปของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งเขียนโดย พญ.อรพรรณ เมธาดิลกกุล หนึ่งในคณะกรรมการเพียงคนเดียว ที่ระบุว่า บริษัทได้สร้างผลกระทบด้านสุขภาพให้แก่ประชาชน ไปเป็นผลสรุปยื่นเสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และผลสรุปดังกล่าวส่งผลให้ผู้ทรงคุณวุฒิหลายคนร่วมเป็นคณะกรรมการ ต้องลาออก
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ผลสรุปที่ออกมาเห็นชัดว่ามีการบิดเบือนข้อมูล เช่น กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานว่า การประกอบกิจการโรงงานของบริษัท ไม่ได้สร้างผลกระทบมลพิษทางอากาศ แต่กลับนำไปประกอบไว้ในรายงานโดยให้ความเห็นที่แตกต่าง หรือผลการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี ที่มีความเห็นว่า ผู้ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพส่วนใหญ่มีโรคที่เกิดจากพยาธิสภาพของผู้ป่วยเองไม่มีหลักฐานที่เกิดจากสารเคมี แต่กลับนำข้อมูลประกอบในรายงานว่าเกิดจากสารละลายบางชนิด ทำให้ข้อสรุปที่มีการรายงานไม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการในชุดดังกล่าว อีกทั้ง ประธาน และรองประธานคณะกรรมการในชุดดังกล่าว ยังมีการเสนอรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทั้งที่รู้มาตลอดว่า ข้อสรุปดังกล่าวไม่มีการรับรองจากกรรมการทั้งคณะ เพราะข้อเท็จจริงที่สืบหามาเกิดจากข้อมูลที่เป็นเท็จ แต่ก็ยังได้เสนอรายงานโดยส่วนตัวไปโดยอ้างว่าเป็นข้อสรุปของคณะกรรมการทั้งคณะ
“ที่ผ่านมา หน่วยงานที่กำกับดูแลโรงงานทั้งกระทรวงทรัพยากรฯ และกระทรวงอุตฯ จะมีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบว่าโรงงานไม่ได้เป็นผู้ก่อ ให้เกิดผลกระทบใดๆ และยังได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด แต่ ก็ยังเอาผลงานที่เป็นเท็จไปรายงานต่อรัฐมนตรี และนายกฯ ว่า โรงงานเป็นผู้ก่อมลพิษ จึงต้องฟ้องร้องเพื่อขอความเป็นธรรม”
นอกจากนี้ ยังต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขกลับมาพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพราะหากกระทรวงสาธารณสุขได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจ จะทำให้ผลประโยชน์ทั้งหมดไปตกอยู่กับบุคคลบางกลุ่ม ที่ต้องการของบสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขกว่า 200 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะนำไปจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อดูแลและรักษาสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากศูนย์กำจัดกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ทั้งที่แพทย์ในพื้นที่ และจากคณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ประชนชนไม่ได้รับผลกระทบ อย่างที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
