“โฆษกมาร์ค” เปรีบแม้วโฟนอินฝากฝังบิ๊กจิ๋วกลางที่ประชุมพรรคเพื่อไทย หวังสยบคลื่นใต้น้ำเตือนโซ่ข้อกลาง ระวังเสียคนตอนแก่ เย้ยแม้วเป่าหูลูกพรรคมานั่งบัญชาเกมในสภากลางปีหน้า แนะให้มานั่งในคุกก่อน จวก “เป็ดเหลิม” เอาตัวรอดไม่กล้าลงชื่อแก้ รธน.แค่นายว่าขี้ข้าพลอย
วันนี้ (7 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินมายังที่ประชุมพรรคเพื่อไทย โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมยอมรับว่า เป็นคนจัดการให้ พล.อ.ชวลิต เข้าร่วมพรรคเพื่อไทย และคิดว่า จะมีแรงกระเพื่อมในพรรค จึงต้องโฟนอินมาสั่งการให้ลูกพรรคร่วมมือกับพล.อ.ชวลิต โดยไม่ต้องห่วงเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี โดยรับรองว่า พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่เมตตาสูงเหมือนเบิร์ด ที่รักทุกคนนั้น แสดงให้เห็นว่า ในพรรคเพื่อไทยยังมีคลื่นใต้น้ำที่ไม่ยอมรับ พล.อ.ชวลิต และอาจเป็นปัญหาในการทำงานในอนาคตได้ที่ พล.อ.ชวลิต จะเปลี่ยนจาก “เบิร์ด” มาเป็น “บิลลี่ ออร์แกน” ที่ต้องออกมาร้องเพลง “อย่างนี้ต้องลาออก” โดยต้องลาออกจากพรรคเพื่อไทยในที่สุด
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แนะนำให้ ส.ส.เก็บข้อมูลการทุจริตในกระทรวงต่างๆ ไว้ซักฟอกนั้น ถือว่าเป็นข้อแนะนำที่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย ที่พรรคฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร และพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำรัฐบาล ก็พร้อมให้ตรวจสอบเต็มที่ ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ควรกำชับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนที่ยังเคลื่อนไหวข้างถนน ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ในสภา ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่า ตนเองยังเป็นผู้นำกลุ่มคนเหล่านี้จริง ก็ควรที่จะสั่งให้ลูกพรรคตัวเองยุติการเคลื่อนไหวป่วนทางการเมือง โดยเฉพาะปฏิบัติการแดงทั้งเดือนของกลุ่ม นปช.ร่วมกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในเดือน ต.ค.นี้ก่อน สำหรับกรณีที่ ร.ต.อ.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า มี ส.ส.ถามถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า “ผมจะมานั่งในสภาเอง ปีหน้า” นั้น ซึ่งหมายความว่า หัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคเพื่อไทย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงอยากถามว่าคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จะมานั่งในตำแหน่งทางการเมืองได้อย่างไร และก่อนที่จะเข้ามานั่งในสภาปีหน้า ก็อยากให้ปีหน้ามานั่งในคุกก่อนที่จะมานั่งในสภา
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยเล่นตามเกมของรัฐบาลนั้น ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 กับวิป 3 ฝ่ายนั้น ถือเป็นการตอบรับการส่งสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ในทันที เข้าลักษณะ “นายว่าขี้ข้าพลอย” โดยอ้างว่า เป็นการซื้อเวลาบ้าง สิ้นเปลืองงบประมาณ 2 พันล้านบาทบ้าง ล้วนแล้วเป็นข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผล ทั้งที่ พรรคเพื่อไทย เอง ก็ต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญนี้เช่นกัน แต่เบนประเด็นเคลื่อนไหว ต้องการให้มีการชูเอารัฐธรรมนูญ 40 คืนมา ทั้งที่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่า การทำประชามติเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ถ้าพรรคเพื่อไทยจะต่อต้านก็ต้องตอบคำถามทางสังคมให้ได้ว่า กำลังเล่นเกมการเมืองอยู่หรือเปล่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยังเชื่อมั่นและศรัทธาเสียงของประชาชน ผลการทำประชามติออกมาอย่างไร ก็เคารพและยึดมั่นในผลประชามตินั้น