“มาร์ค” คิดหนักปรับ ครม.เลี่ยงหลบกระเพื่อมรุนแรง ศึกในปะทุ-ศึกนอกประชิด

ศึกใน-ศึกนอก ประชิดริมรั้วบ้านนรสิงห์ ทำเนียบรัฐบาลแบบนี้ ก็ไม่รู้นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะทรงตัวประคับประคองรัฐนาวา บริหารประเทศไทยให้เข้มแข็งไปได้ไกลสักแค่ไหน

ปมปัญหาที่ถาโถม แสดงออกเหมือนจะรับมือไหว แกะเงื่อนคลายปมไปที่ละเปลาะ แต่เอาเข้าจริง ยิ่งแก้ก็เหมือนจะยิ่งวุ่น

ไล่ที่ละปมร้อน ที่มีผลสืบเนื่องกระทบกันเป็นลูกโซ่ จากประเด็นการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ว่าก็มีชุด “ข้อมูล”ที่มีพลังพิเศษหนุนเนื่อง “อภิสิทธิ์”ถึง “กล้า ท้าลิขิต”

แต่เพราะ “สัญญาณพิเศษ” ผ่านมาหลายชั้น กว่าจะส่งผ่านลงมาถึงในต่างสายต่างฝ่าย “ภาครับ”ทำให้กระแสสัญญาณยิ่งไม่ชัดเจน และอึมครึมยิ่งนัก

“อภิสิทธิ์”จึงเลือกที่จะนิ่ง รอให้สัญญาณเสถียรยิ่งกว่านี้!

เพราะยิ่งนับวันเรื่องนี้ต้องเพิ่มหน้าตัก“เดิมพัน”เก้าอี้นายกฯทุกที โดยเฉพาะที่กลายเป็นผลกระทบต่อเนื่อง กับการลาออกของ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ จากเก้าอี้เลขาธิการนายกฯ

แม้จะคาดหมายไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ขืนอยู่ต่อไปก็คงร่วมทำงานไม่ได้ มองหน้า เข้าหน้ากันไม่ติด

มุมหนึ่งก็เห็นใจ กับ เพราะขึ้นชื่อว่า มีซูเปอร์คอนเน็กชั่น แต่เมื่อยิ่งใกล้ก็ยิ่งเจ็บ หากจ็อบที่รับมายังไม่มีวี่แววจะจบ จึงต้องรับผิดชอบ

แต่ที่น่าตำหนิ ด้วยเพราะ “ต่อเชื่อมถึง”สัญญาณพิเศษนั้น แต่แทนที่จะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ หาช่องปรับจูนแต่งสัญญาณ ช่วยคนกันเองในรัฐบาล กลับเลือกที่จะทำเพื่อคนนอกบ้าน

เกมไขก๊อกหนนี้ก็เพื่อบีบนายกฯให้เร่งตัดสินใจตามความประสงค์ ที่หากเป็นจริงก็ต้องถือว่า เผาบ้านเผาเรือนของตัวเอง

ไม่ได้ตะเพิด ไม่มีใครอัปเปหิ แต่มาถึงขั้นนี้ “ไปซะเถอะ” นั่นแหละถูกแล้ว!

จะจูงมือ หอบหิ้วเอา “น้องเขย”สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการพรรคผู้ยิ่งยงเหลือกำลังราก ไปด้วยหรือไม่ นั่นก็แล้วแต่ เพราะเห็นปล่อยข่าวรายวัน อยากจะ“ลาออก” สามเวลาหลังอาหาร

คนกันเองอาจจะยื้อไปตามมารยาท ทั้งที่รอเงื้อ “ดาบ” ทิ่มใส่คนละฉึกสองฉึก แต่คนนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตัดสินใจง่ายกว่า เมื่อ เห็นพฤติกรรม แม่บ้านพรรค ผู้จัดการรัฐบาลแล้ว

“เทือก”อย่าทนอยู่ให้เขาต้อง“โค่นลง”เลย

เสนอแนะทางให้ว่า “พี่เมีย-น้องเขย”คู่นี้ ควรหอบผ้าผ่อนไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยให้รู้แล้วรู้รอด ติดสอย“ตามห้อย” เป็นลูกกระเป๋งเนวิน ชิดชอบ เป็นลิ่วล้อ “หนูอยากเป็นราชสีห์” อนุทิน ชาญวีรกุล ที่กำลังแย่งแต้ม ชิงเป็น“สายตรงคนโปรด” กันอยู่

เพราะวันนี้ทีมขั้วสีน้ำเงินกำลังผยอง โกยได้ โกยเอา แต่ที่ลิงโลดหลังครม.ผ่านมติ อนุมัติในหลักการแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ให้เช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน 6.3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะฉลองใหญ่

แต่เปิดกล่องเค้กแล้ว งานนี้ชักไม่อร่อย

เริ่มมีเสียงบ่น แสดงอาการไม่พอใจ “เมล์อเวจี”ที่อยากได้ เงื่อนไขทั้งหลายแหล่ที่ซ่อนไว้ยากที่จะปฏิบัติ ทั้งการลดกำลังคน ขสมก.7,000 คน จัดหาอู่จอดรถ ปั๊มเติมก๊าซ การประมูลที่ต้องเปิดกว้างให้ผู้ผลิตในประเทศเป็นหลัก

รวมทั้งเรื่องราคากลางต้องเหมาะสม โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ไม่ใช่ชงกันเองใน ขสมก.หรือกระทรวงคมนาคม และน่าจะลดวงเงินโครงการได้ จาก6.3หมื่นล้าน ต่ำๆน่าจะ2-3หมื่นล้าน

หากราคาลดลงเหมาะสม ประมูลโปร่งใส เป็นไปอย่างที่นายกฯประกาศต่อสาธารณะให้รับรู้ งานนี้อาจเข้าทาง “เด็กดื้อ” สอยเป็นผลงาน แย่งซีนพระเอก

“อภิสิทธิ์”เขี้ยวแค่ไหน “เนวิน”รู้

โดยเฉพาะหลังแกล้งปล่อยผ่าน ไฟเขียวรถเมล์เอ็นจีวี ถัดมาไม่กี่วัน การปัดฝุ่นโครงการ2สนามบินขึ้นมาทันที โดยมอบหมายให้ “สภาพัฒน์”ไปศึกษาการใช้สนามบินดอนเมือง ควบคู่ไปกับสนามบินสุวรรณภูมิ

ขวางทางแผนขยับขยายสนามบินเดี่ยว ซิงเกิ้ลแอร์พอร์ต ที่“เนวิน”บงการแบบ วิน-วิน กับ“เจ้าสัวคิงเพาเวอร์”วิชัย รักศรีอักษร

และเพราะมองนายกฯ เป็นแค่เด็ก แถมดื้อ ขวางแผนผู้ใหญ่ กันอยู่เรื่อย “เนวิน”และ เสือสิงห์กระทิงแรด ที่ถูกจองจำคุมขังหาทางดิ้น ไม่รวมกับ “เสือใหญ่บูรพา”ที่บาดเจ็บ เก็บงำอาการรอขย้ำเอาคืนอยู่

“พวกเดียวกัน”ในวงรัฐบาล แต่นอกพรรคประชาธิปัตย์ จะสร้างปัญหาให้อภิสิทธิ์กันไม่รู้จบนับจากนี้ไป

แต่ที่แน่นอน รอโค่นกันอยู่ พรรคเพื่อไทยและพลพรรคเสื้อแดง ของทรราชหน้าเหลี่ยมที่ยังไม่สิ้นฤทธิ์พิษสง นอกจากขุมกำลังรากหญ้า นปช. ที่นัด “แดงทั้งเดือน” มีช่องให้รับคอมมิชชั่นอิ่มกันยาวๆ

แก๊งปากมัน ลุยกันให้บ้านเมืองบรรลัยกันไปข้าง!

ที่ต้องเตือนให้ระวัง การขยับปรับทัพในพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแนวร่วมเสื้อแดง หลังจากที่ “ตัวเป้ง” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่หวานพร่ำเพรื่อ จะประสานโน่นประสานนี่ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ สุดท้ายก็แสดงธาตุแท้

ทิ้งโซ่ขึ้นสนิมเขรอะ เแก้ผ้าโทงๆ เข้าคอกเพื่อไทย เป็นลูกจ๊อกนักโทษหน้าเหลี่ยม ให้เป็นที่อุจาดตา

เพราะฝันโคตรๆ ถึงเก้าอี้นายกฯดับเบิ้ล!

ทั้งที่ชักเข้าชักออกหลายรอบ ถูกทักษิณเขี่ยทิ้งหลายหน มีรัฐประหารก็ส่ง“มือขวา” ไปร่วมโค่นทรราช ล่าสุดเพิ่งโดดหนีเหตุสลายม็อบ7ตุลาฯ แล้วหนีไม่รอด ก็คลานมาสยบแทบเท้านักโทษ แถมเคยวิพากษ์เสื้อแดง“ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า” ยังจำกันได้

แต่บางคนอัลไซเมอร์ ความจำสั้น ความฝัน กระสันยาว!

และขึ้นชื่อว่า “บิ๊กจิ๋ว”ก็ต้องมาพร้อมกับ“แผน” แต่จะมาไม้ไหนต้องรอดู แม้คาดเดากันได้ไม่ยาก แต่ที่น่าหวั่นเกรง วันนี้ ในพรรคเพื่อไทย “คนมีสี”สายผู้กว้างขวางทั้งสีเขียว-สีกากี กระเดื่องนามในวงการตบเท้าพรึ่บพรั่บ

พล.ต.อ.ชัชจ์ กุลดิลก พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ หรือพล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่เริ่มคัมแบ็ก แตะมือกับน้องรัก ตท.10 พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต

รวมมาเฟียมากินฟรี เครือข่าย“แม้ว-จิ๋ว”ชุดนี้ดรีมทีม“สยองขวัญ” วี้ดบึ้ม!

แค่“ศึกนอก” ทั้งจากแรงกดดันจากพรรคร่วม พรรคเพื่อไทย กลุ่มม็อบเสื้อแดง ก็ว่าหนักหนาแล้ว นั่นยังไม่เท่า “ศึกใน” ที่เริ่มมีสัญญาณกระเพื่อม ภายหลังการไขก๊อกของนิพนธ์จากเลขาธิการนายกฯ

สูตรตั้งเลขานายกฯ หรือ “นายกฯ น้อย”คนใหม่ เริ่มปรากฏเป็นข่าว ทั้งจากการปล่อยเพื่อผลักดันและเพื่อตีกัน ไล่ตั้งแต่สูตรที่ว่า ปรับ ครม.เอากอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่ช้ำจากโครงการชุมชนพอเพียง มาเป็นเลขาธิการนายกฯ

และให้ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ดีกรีอดีต รมช.คลัง และครบเครื่องเรื่องลูกล่อลูกชน มาเป็นรองนายกฯ แทน

โดยอาจมีการปรับครม.ใหญ่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ แม้ “อภิสิทธิ์”เคยประกาศไว้ว่า จะมีการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคหลังผ่านการบริหารงานครบ1ปี แต่เมื่อจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนก็อาจต้องเลื่อนร่นกำหนดเวลามา

แต่ก็เป็นปัญหาที่ว่า หากใช้สูตรนี้ จะเกิดแรงกระเพื่อมในการปรับครม. ที่บัญชีคนอกหัก รอเข้าแถวชิงเก้าอี้ยาวเหยียด นายกฯอาจไม่พร้อมเคลียร์ศึกในหากปะทุพร้อมศึกนอก ที่สำคัญ “กอร์ปศักดิ์”ยังวางใจได้ ในการเป็น“ตัวชน” ปาหินใส่ รมต.หิวโหย

จึงเป็นอีกสูตรทางเลือก ตั้งคนเข้าไปแทนที่

โดยมีแคนดิเดต ทั้งอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่เก่งในเรื่องบริหารจัดการ แต่ยังด้อยเรื่องประสานงาน โดยเฉพาะในสายงานการเมือง ที่สำคัญมีชนักรถดับเพลิงปักกลางหลังอยู่

ชื่อต่อมา จุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขานุการนายอภิสิทธิ์ สมัยนั่งเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน สนิทสนมและเข้าขากันดี แต่อกหักหลุดโผรัฐมนตรีงวดก่อน ก็น่าจะถึงเวลาเหมาะเอาคนใกล้ตัวมาใช้งาน

นอกจากนี้เชื่อว่าจะมีชื่ออื่นๆ เข้าชิงตำแหน่งทยอยเปิดออกมาให้นายกฯพิจารณาอีกหลายราย เมื่อเกมเก้าอี้ดนตรีการเมืองเปิดฉาก

จะเป็นสูตรไหน ขึ้นอยู่กับแต่ละความต้องการ สำหรับคนในพรรค โดยเฉพาะบรรดาแถวสองอาวุโสถึง รอคั่วเก้าอี้ หลังหลุดโผงวดก่อน นอกจากจุติ ยังมี นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ องอาจ คล้ามไพบูลย์ นิพนธ์ บุญญมณี เฉลิมชัย ศรีอ่อน ฯลฯ

5 เก้าอี้ที่เป็นสัญญาใจ บัญชีสองกลุ่มนี้ อยากเร่งรัดปรับเปลี่ยนกันในคราวนี้เลย!

แต่สำหรับ อภิสิทธิ์ น่าจะเป็นสูตรปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เพราะในยามที่มีศึกนอกประชิด เคลียร์เกมยื้อตั้ง ผบ.ตร.ไม่จบ พรรคเพื่อไทยเตรียมป่วน กลุ่มเสื้อแดงจ้องล้มล้าง อีกทั้งมีงานสำคัญประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนรออยู่กลางเดือนนี้

การทอดเวลาไปถึงปลายปี รอสถานการณ์เข้าที่เข้าทาง ถึงจะจัดการยกเครื่องใหญ่ตามสัญญาใจที่ให้ไว้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของอภิสิทธิ์!