xs
xsm
sm
md
lg

สสช.เผยหนี้ครัวเรือนยุค “รบ.อภิสิทธิ์” แค่ 6 เดือนหนี้ทะลุ 1.33 แสนต่อครอบครัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสช.เผยหนี้ครัวเรือนยุครัฐบาล “อภิสิทธิ์” แค่ 6 เดือนหนี้ทะลุ 1.33 แสนต่อครอบครัว โดยหนี้สินครัวเรือนเกิดจากการซื้ออสังหาฯ 36.3% รองลงมาใช้ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค 29.7% ขณะที่ใช้จ่ายเพื่อการศึกษา 2.8% เท่านั้น

วันนี้ (4 ต.ค.) นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า สสช.ได้ออกสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2552 ทั้งรายได้ ค่าใช้จ่ายเพื่อยังชีพไม่รวมเงินออม เงินสะสมและซื้อที่อยู่อาศัย หนี้สินและทรัพย์สินของครัวเรือน โดยสุ่มตัวอย่างจากครัวเรือนทั่วประเทศ 26,000 ครัวเรือน พบว่าในครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 52) ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 21,135 บาท มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 16,255 บาท

นางธนนุชกล่าวต่อถึงผลสำรวจว่า ครัวเรือนที่มีหนี้สินมากคิดเป็น 61.8% ของครัวเรือนทั้งหมด โดยมีหนี้สินเฉลี่ยครัวเรือนละ 133,293 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากขึ้นมาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 43 ที่มีหนี้เพียง 68,405 บาท และส่วนใหญ่ครัวเรือนเป็นหนี้สินในระบบ แยกเป็นครัวเรือนที่มีหนี้ในระบบอย่างเดียว 82.9% และเป็นครัวเรือนที่เป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ 9.7 % ส่วนครัวเรือนที่มีหนี้นอกระบบอย่างเดียว มีเพียง 7.4% ขณะที่หนี้ในระบบมีประมาณครัวเรือนละ 127,152 บาท หนี้นอกระบบ จำนวน 6,140 บาท หรือเป็นหนี้ในระบบสูงกว่านอกระบบ 21 เท่า โดยหนี้สินของครัวเรือนเป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในครัวเรือนคือซื้อบ้านหรือที่ดิน 36.3% รองลงมาได้แก่การบริโภคอุปโภค 29.7 % ส่วนหนี้เพื่อใช้ในการศึกษามีเพียง 2.8% เท่านั้น สำหรับหนี้เพื่อทำการเกษตร และทำธุรกิจมีใกล้เคียงกันประมาณ 14.8%

นางธนนุชกล่าวอีกว่า ครัวเรือนลูกจ้างที่ปฏิบัติงานวิชาชีพ นักวิชาการ นักบริหาร มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดถึง 48,838 บาท ส่วนที่มีรายได้ต่ำสุด คือครัวเรือนผู้ทำประมง ป่าไม้ ล่าสัตว์ หาของป่า เฉลี่ย 9,073 บาท และพบว่าครัวเรือนอาชีพใดมีรายได้สูง ส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายและจำนวนเงินที่เป็นหนี้สูงเช่นเดียวกัน และรายได้ของครัวเรือนส่วนใหญ่มาจากการทำงานมากถึง 72.2% ทั้งค่าจ้างเงินเดือน, ทำธุรกิจ, รายได้จากการทำการเกษตร ส่วนรายจ่ายส่วนใหญ่ 33.5% เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม รองลงมาเป็นค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน 20.5% ค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและยานพาหนะ 17.5% เป็นต้น และยังพบว่าครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ด้านอุปโภคบริโภค ค่าภาษี ของขวัญ เบี้ยประกัน ซื้อล็อตเตอรี่และหวย สูงถึง 12.1%

“เมื่อเปรียบเทียบรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินต่อรายได้ พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศตั้งแต่ปี 43-52 มีรายได้เฉลี่ยมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการยังชีพ และพบว่าทั้งรายได้และค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยรายได้เพิ่มจากเดือนละ 12,150 บาท ในปี 43 เป็น 21,135 บาท ในปี 52 เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจาก 9,848 เป็น 16,255 บาท โดยส่วนใหญ่มีรายได้สูงกว่ารายจ่ายประมาณคนละ 1,476 บาท แต่ถูกนำไปชำระหนี้ ทั้งค่าผ่อนบ้าน ค่าที่ดิน ส่วนหนี้สินต่อรายได้ครัวเรือนในปี 47 จะสูงที่สุด และมีแนวโน้มลดลงจาก 7 เท่า ในปี 43 เป็น 6.3 เท่า ในปี 50 และเริ่มทรงตัวในปี 52 ขณะที่จำนวนเงินที่เป็นหนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 43 ที่มีหนี้สินเฉลี่ย ครัวเรือนละ 68,405 บาทเป็น 133,239 บาท ในปี 52” นางธนนุช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น