xs
xsm
sm
md
lg

ครป.ชี้ รธน.ปี 50 ไม่ใช่ปัญหาชาติ ติงนายกฯ อย่ามัดมือชก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์จี้นายกฯ อย่ามัดมือชกประชาชน เรียกร้องให้จัดทำประชามติ ก่อนดันทุรังแก้ไข รธน. ชี้ปัญหาชาติไม่ได้อยู่ที่ รธน. แต่อุปสรรคที่แท้จริงคือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และความลักลั่นในกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ (4 ต.ค.) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ออกแถลงการณ์เรื่องท่าทีและข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและสาธารณชนในสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาระบุว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่มีการต่อรองกดดันทางอำนาจ เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน มาเป็นของตนเอง โดยกลุ่มการเมืองฝ่ายต่างๆ ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และนักการเมืองฝ่ายค้านที่แฝงไปด้วยเจตนาเพื่อโค่นล้มอำนาจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือให้มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือกดันให้เกิดยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ อันไม่เป็นไปตามวิถีแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวได้แสดงให้สาธารณชนรับรู้และรับทราบอย่างชัดเจนแล้วนั้น ครป.ขอแถลงข้อเรียกร้องและท่าทีต่อนายกรัฐมนตรีและสาธารณชนต่อกรณีดังกล่าว ดังต่อไปนี้

1.แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระนักเลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องไร้สาระของประชาชน เราขอยืนยันว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2550 ไม่ใช่ปัญหาของประเทศ และเป็นเรื่องไร้สาระของประชาชน และจากผลการสำรวจของสำนักโพลต่างๆ ทั้ง 6 ประเด็นก็เห็นตรงกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 มีความก้าวหน้าต่อการเมืองภาคประชาชน ทั้งการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างกว้างขวาง ทั้งเรื่องสิทธิของชุมชนและบุคคลในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิทธิในที่อยู่อาศัยของคนจน เป็นต้น หากแต่ตลอดการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกไม่ได้แก้ กฎหมายแม่ไม่ได้ใช้ ทำให้เสรีภาพของประชาชนไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง อันเป็นอุปสรรคที่เกิดจากการไม่ทำหน้าที่ของบริหาร นิติบัญญัติ และความลักลั่นของกระบวนการยุติธรรม อันเป็นหลักปัญหาของชาติขณะนี้ โดยเฉพาะวิกฤตที่เกิดจากนักการเมืองที่ไม่เคารพรัฐธรรมนูญและไม่ยอมรับการบังคับใช้กฎหมาย และไม่ยอมรับการตรวจสอบจากภาคประชาชนและกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนต้องติดตามในกระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญอันวาระของนักเลือกตั้งขณะนี้ คือ เกมแย่งชิงอำนาจเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เพื่อการผูกขาดการเป็น ส.ส. ของพรรคการเมือง ผ่านการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อปิดบังปัญหาของประเทศและความเดือดร้อนของประชาชน

เราเห็นว่า การแก้รัฐธรรมนูญทั้งที่ผ่านมาในอดีตและที่กำลังจะแก้อยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักการเมืองชั่ว วงจรอุบาทว์ในวังวนของระบบรัฐสภา และการไม่เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย “หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546” ดังนั้น ข้อเสนอการแก้รัฐธรรมนูญโดยนักการเมือง ยิ่งจะทำประเทศเร่งก็เข้าสู่วงจรวิกฤตอันเลวร้ายที่ไม่มีจุดสิ้นสุดแบบเดิม เพราะเมื่อนักการเมืองโกง ก็นำไปสู่เหตุผลของการรัฐประหาร และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนเดิม ดังนั้น เราขอเรียกร้องต่อนักการเมืองให้หยุดความพยายามสร้างกระแสแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเบี่ยงเบนปัญหาของชาติบนประโยชน์ของตน

ครป.เห็นว่า หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องทำเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงประชามติก่อนว่า ประชาชนต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากจะแก้รัฐธรรมนูญจริง ควรทำประชาชมติว่า จะแก้ประเด็นอะไรบ้าง ไม่ใช่แก้ก่อนแล้วมัดมือชกประชาชนให้ทำประชามติตามข้อเสนอของนักการเมือง

2.การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ ต้องยึดถือระบบคุณธรรม ผลงานและความอาวุโสปัญหาของการบริหารราชการในการแต่งตั้งข้าราชการชั้นสูงในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การแต่งตั้งไม่ได้ยึดถือคุณธรรมคุณงามความดี หรือผลงานหรือความเป็นอาวุโส ประการสำคัญทั้งหมดทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องการสนองตอบต่อนักการเมือง ไม่ได้สะท้อนถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเช่นนี้ ก็ยิ่งจะทำให้อำนาจของนักการเมืองเข้าไปครอบงำการทำงานของข้าราชการประจำจนไม่สามารถสนองตอบต่อการแก้ไขปัญหาประเทศ ชาติ ประชาชน และจะเป็นการรุกคืบอำนาจของฝ่ายการเมืองเข้ายึดครองระบบราชการอย่างเบ็ดเสร็จ ดังนั้น เราขอเรียกร้องต่อข้าราชการโดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องแสดงความกล้าหาญที่จะโต้แย้ง คัดค้านและปฏิเสธในการใช้สิทธิปกป้องตนเอง โดย ครป.พร้อมที่สนับสนุนและยืดเคียงข้างกับข้าราชการทุกคนที่ยึดในหลักคุณธรรมในการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ เราขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีให้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า อะไรคือปัญหาของการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงที่ผ่านมา โดยเฉพาะตำแหน่ง ผบ.ตร. เพราะประชาชนยังไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงบริหารอำนาจไม่ได้ ดังนั้น หากนายกรัฐมนตรีต้องการปฏิรูปสถาบันตำรวจ ซึ่งเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องให้ประชาชนมีส่วนในการสร้างธรรมภิบาลในองค์กรของรัฐ

3.นายกรัฐมนตรีต้องใช้อำนาจเพื่อตรวจสอบและยับยั้งโครงการที่ไม่โปร่งใสโดยเร่งด่วนนับจากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข้ง ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ที่ได้รับอนุมัติมีมูลค่าทั้งหมด 1,431,330 ล้านบาท ที่ผ่านมานั้น พบมีความไม่โปร่งใส ไม่คุ้มทุนและไม่เหมาะสมกับเป้าหมายหลายๆ โครงการ ซึ่งบริษัทสัมปทานและบริวารนักการเมืองได้ประโยชนมากกว่าเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับครัวเรือน อีกทั้งหลายโครงการส่อว่าจะมีการทุจริตคอรัปชั่น ดังนั้น เราขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจเพื่อตรวจสอบและยับยั้งโครงการไทยเข้มแข็งที่มีพฤติการณ์ทุจริตไม่โปร่งใสเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดย ครป.จะเปิดศูนย์ประสานเพื่อรับเรื่องราวและข้อมูลเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในทุกโครงการ

4.ต้องหยุดหนอนบ่อนไส้ หยุดขบวนการทำลายศรัทธาสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ กรณีที่ร้ายแรงที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งได้ปรากฏเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง คือขบวนการมุ่งร้ายทำลายความศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะนักการเมืองบางคนที่ใช้อำนาจหน้าที่และสถานะแห่งตนกระทำตัว เสมือน “ไส้ศึก” เช่น กรณีเขาพระวิหาร อันจะมีผลให้ประเทศไทยต้องสูญเสียอาณาเขตดินแดน สถานะทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงและเอกราชอธิปไตย เราขอเรียกร้องต่อประชาชนและนายกรัฐมนตรีให้ออกมาหยุดกระบวนการดังกล่าวโดยผ่านการยุติธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาทั้งหมดย่อมอยู่ที่ปากของนายกรัฐมนตรี จะต้องบอกกับประชาชนอย่างไม่เกรงกลัวกับการต่อรอง และสถานะอำนาจแห่งตน ว่าจะสามารถบริหารประเทศได้ต่อหรือไม่ เพื่อบอกกล่าวกับประชาชนถึงปัญหา ข้อเท็จจริง กระบวนการของนักการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่ง ครป.เชื่อมั่นโดยสุจริต หากนายกรัฐมนตรีโดยยึดหลักคุณธรรมแล้ว ประชานก็พร้อมที่สนับสนุนและปกป้องถึงที่สุด
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
กำลังโหลดความคิดเห็น