คนเบี้ยวฟังศาลคดีหวยบนดิน “เสี่ยแป๋ง”ล่องหน “สุชาติ”ป่วยจริง

รายงาน โดย แสงตะวัน

แม้ทั้ง 3 จำเลยสำคัญในคดีทุจริตหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว คือ วราเทพ รัตนากร อดีตรมช.คลังในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ,สมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และ ชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีต ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี

แต่ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งสามคน ที่ศาลท่านยังเมตตาโดยโทษจำคุกให้ “รอการลงโทษ”

สามคนดังเฉียดคุกอย่างหวุดหวิด

รถขนนักโทษที่กรมราชทัณฑ์ส่งมาจอดรอไว้ที่ด้านหลังศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ก็เลยต้องแล่นออกไปจากศาลฎีกาโดย”ไร้ผู้โดยสาร”อีกครั้งหนึ่งหลังจากก่อนหน้านี้ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครได้ใช้บริการรถดังกล่าวของกรมราชทัณฑ์ในคดีทุจริตกล้ายางพารา

แต่ในส่วนของจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษาจนถูกศาลออกหมายจับและยึดเงินประกัน ที่รวมกันแล้วได้ประมาณ 5 ล้านบาท จากจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษารวม 4 ราย ซึ่งถ้าพิจารณารายชื่อแล้ว คนที่สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนมากที่สุด คงหนีไม่พ้น

สมใจนึก เองตระกูล หรือ “เสี่ยแป๋ง”อดีตปลัดกระทรวงการคลังและอดีตประธานบอร์ดสำนักงานสลากฯ เพราะไม่มีข่าวปรากฏออกมาก่อนหน้านี้ว่า จะไม่เดินทางมาฟังคำตัดสินของศาล

ต่างจากอีก 3 คนที่เหลือ คือ อดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์,ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ อดีต รมว.คลัง ,พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงษ์ อดีต ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมีข่าวปรากฏกระเซ็นกระสายมาตลอดว่า

จะเบี้ยวฟังคำพิพากษา แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

เพราะบางคนตั้งแต่เดินทางออกจากประเทศไทยก็ยังไม่ปรากฏตัวว่า มีชื่อโผล่เข้ามาในบัญชีคนเข้าเมืองของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด

จึงเป็นคำถามชวนให้สงสัยว่า แล้ว “สมใจนึก”ที่ไม่ใช่บางลำพูคนนี้หายไปไหน แต่เมื่อดูจากคำพิพากษาแล้วก็ต้องยอมรับว่า “สมใจนึก”ประหนึ่งจะเป็นนกรู้ เพราะหากเจ้าตัวนั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดีคงหน้าเสีย และใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มหมดแล้ว

เมื่อฟังคำตัดสินของศาลตั้งแต่ต้น เพราะคำพิพากษาเห็นได้ชัดว่า “สมใจนึก”คือคนสำคัญที่ร่วมทำคลอดหวยบนดินซึ่งศาลเห็นว่า เป็นการออกมติครม.ที่ผิดกฎหมาย

ก็ต้องดูกันต่อไปว่า ชะตาชีวิตของ “สมใจนึก” นับจากนี้จะเป็นอย่างไร และดูเหมือนเส้นทางชีวิตของ “สมใจนึก”ที่วางแผนจะเล่นการเมืองในพรรคเดียวกับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รมว.คลังและลูกพี่ใหญ่ที่กำลังวางแผนก่อตั้งพรรคกันอยู่กับ ชัชวาลย์ คงอุดม -“ชัช เตาปูน”คงน่าจะปิดฉากค่อนข้างแน่นอนแล้ว เนื่องจากคดีความครั้งนี้

หลังจากก่อนหน้านี้ ก็เคยส่งลูกชาย สัณชัย เองตระกูล ไปลงสมัคร ส.ส.กทม. พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาแต่ก็สอบตก

การสู้คดีของ “สมใจนึก”ก็ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวเพิ่งจะโดนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดกรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดฯ คลัง กับพวกในฐานะเป็นคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 กระทรวงการคลังโดยมิชอบ จึงมีความผิดอาญา ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83

เป็นคดีเดียวกันที่ทำให้ ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ต้องหลุดจากเก้าอี้ปลัดกระทรวงการคลังไปก่อนหน้านี้ และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาความเห็น สั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องอยู่

“เสี่ยแป๋ง-สมใจนึก” เลยยังเหลือคดีความเหลืออยู่อีกหนึ่งคดี ที่คงต้องรอลุ้นว่า จะต้องเดินขึ้นศาลไปสู้คดีพร้อมๆ กับน้องรัก ศุภรัตน์ ควัฒน์กุลในบั้นปลายชีวิตด้วยกันหรือไม่

ส่วน พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงษ์ ที่ไม่มาปรากฏตัวเช่นเดียวกันรายนี้ ไม่น่าประหลาดใจ เพราะมีข่าวว่าตั้งแต่ยื่นใบลาออกจากราชการเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ก็บินออกนอกประเทศไปพบและร่วมทำงานกับ นช.(พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร อดีตเจ้านายเก่า-เพื่อนรักที่ดูไบทันที

แม้จะมีข่าวออกมาก่อนวันที่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาไม่กี่ชั่วโมงว่าสุรสิทธิ์เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว แต่ก็ไม่มีคำยืนยันใดๆ ว่าจริงหรือไม่

หากกลับมาจริงแล้วไม่ไปฟังคำพิพากษาก็ไม่แปลกเพราะเจ้าตัวคงไม่อยากเสี่ยงไปรอลุ้นคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดีเลยเลือกที่จะยอมถูกริบเงินประกัน 5 แสนบาทและถูกออกหมายจับดีกว่า

มาขนาดนี้แล้ว จากที่เคยออกหมายจับคนอื่นมาถึงตัวเองถูกออกหมายจับบ้าง ถือเสียว่าทำให้ชีวิตมีรสชาติครบถ้วน

ยังมีข่าวว่าสุรสิทธิ์ตัดสินใจเตรียมเปลี่ยนเสื้อจากสีกากีมาเป็นเสื้อพรรคเพื่อไทยในอนาคตอันใกล้นี้ตามรอยรุ่นพี่อย่าง พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก อดีต ผบช.ก.ค่อนข้างแน่นอนแล้ว

ขณะที่ในซีกอดีตรัฐมนตรี-นักการเมือง รายของ อดิศัย โพธารามิก ก็เป็นไปตามคาดหมายเพราะเจ้าตัวก็ให้ทนายความมายื่นเรื่องขอไม่มาฟังคำพิพากษาตั้งแต่ก่อนวันที่ 30 ก.ย.แล้วเพราะยังอยู่ระหว่างการพักรักษาอาการป่วยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งดูรูปการแล้วเชื่อได้ว่าอดิศัยป่วยจริงแน่นอน และคนที่รู้จักอดีตเสี่ยจัสมินฯรายนี้ คงเอาใจช่วยให้เจ้าตัวหายป่วยไวๆ

รวมถึงอดีตขุนคลังคนสำคัญในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ ที่มีข่าวว่าตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลเดียวกับสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีแถมอยู่ห้องชั้นเดียวกันเสียด้วย

ป่วยจริงจึงทำให้ ร.อ.สุชาติไม่สามารถเดินทางไปฟังคำพิพากษาได้

ระหว่างอยู่โรงพยาบาลก็มีนักการเมือง และบุคคลสำคัญแวะไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจแล้วหลายคนหลายพรรคการเมืองเพราะสุชาติคนนี้รับราชการมาตลอดชีวิต ผ่านตำแหน่งหลักในกระทรวงการคลังมาหมดแล้วเช่น รองปลัดฯ กระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมธนารักษ์

โดยเฉพาะในยุคเป็นอธิบดีกรมสรรพากรทำให้รู้จักนักการเมืองหลายกลุ่มหลายคน โดยเฉพาะทักษิณและพจมาน ณ ป้อมเพชร

จนถูกทาบทามให้มารับตำแหน่งรมช.คลังทันทีเมื่อทักษิณเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันเป็นที่รู้กันดีว่าสุชาติคือ รมต.ในสายจันทร์ส่องหล้าของคุณหญิงพจมาน ที่ไม่มีใครไปกล้าแตะหรือปรับออก จนได้รับการส่งเสริมให้เป็นรมว.คลังในช่วงสั้นๆ

ก่อนที่ต่อมาทั้งทักษิณ-พจมาน ต้องเจ็บปวดยิ่งนักเมื่อสุชาติ ทิ้งพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน ไปอยู่กับบรรหาร ศิลปอาชา ที่พรรคชาติไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาด้วยการรับตำแหน่งหน.ทีมเศรษฐกิจของพรรค แต่แล้วเมื่อชาติไทยเป็นพรรครัฐบาลทั้งในรัฐบาล พปช.-ปชป. สุชาติก็ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น

ไม่รู้เหมือนกันว่า อาการป่วยด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงจะหนักหนาเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าได้เห็นหน้านายเก่าอย่าง “นายหญิงแห่งจันทร์ส่องหล้า”ก็คงช่วยให้มีพลังใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะทีเดียว