โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ไตรมาส 2 ปีนี้กำไรยังโต ผลดีจากรายได้ผู้ป่วยในและนอกเพิ่ม ที่สำคัญการเปิดโครงการ "Healthy Living Club" และร้าน "the Mezz" รายได้สูงกว่ากิจการโรงพยาบาล ด้านแคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่งฯ งวดนี้อ่วมขาดทุนเกือบ 128% เหตุจากปริมาณการขายและราคาขายลดลงตามสภาวะตลาด
นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ( BH ) แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 288.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 279.81 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 3% โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้ 2,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,186 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2551
โดยไตรมาส 2 ปี 2552 บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 2,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป้วยใน รวมทั้งรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากการขายโครงการสมาชิก "Healthy Living Club" ซึ่งเริ่มเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 รวมทั้งรายได้จากร้านอาหาร "the Mezz" ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิกเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 ส่งผลให้รายได้เติบโตซึ่งรายได้จากส่วนดังกล่าวสูงกว่ารายได้จากกิจการโรงพยาบาล
สำหรับต้นทุนกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก จากการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2551 ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารก็เพิ่มตาม นอกจากนี้ยังมีค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายงวดนี้เพิ่้มขึ้นจากการเปิด อาคารบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก ในเดือนพฤษภาคม 2551และการทยอยปรับปรุงห้องผู้ป่วย ซึ่งเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 แต่ไตรมาสนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่ม แต่บริษัทได้ปรับปรุงรายการบัญชีบางรายการที่ให้ต้องมีส่วนแบ่งจากเงินลงทุนต่ำกว่าปกติ
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) (CEN) แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ของบริษัทและบริษัทย่อยว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 33.36 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 121.40 ล้านบาทหรือขาดทุน 127.48 %
โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายของบริษัทฯ ลดลง 188.88 ล้านบาทจาก 348.43 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ลดลงเหลือ 159.55 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552หรือลดลง 54.21% เนื่องจากปริมาณการขายและราคาขายลดลงตามสภาวะตลาด และรายได้จากการรับจ้างทำของและงานโครงการเพิ่มขึ้น 53.96 ล้านบาท จาก 123.77 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ปี2551 เพิ่มขึ้นเป็น 177.73 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือเพิ่มขึ้น 43.60%
สำหรับ ต้นทุนขายของบริษัทฯ ลดลง 81.75 ล้านบาท จาก 262.46 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ลดลงเหลือ 180.71 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือลดลงในอัตรา 31.15 % ซึ่งผันแปรไปตามปริมาณการขาย และต้นทุนจากรับจ้างทำของและงานโครงการเพิ่มขึ้น 43.06 ล้านบาท จาก 122.22 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 165.28 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือเพิ่มขึ้น 35.24 % ซึ่งผันแปรไปตามปริมาณงานโครงการที่ส่งมอบ
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง เนื่องจากจากในปี 2551 บริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้สิน 2.33 ล้านบาท และกำไรที่โตขึ้นในปี 2551 เนื่องจากงวดังกล่าวบริษัทมีรายได้จากหนี้สงสัยจะสูญรับคืน เนื่องจากได้รับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทอื่น 208.39 ล้านบาท
นางลินดา ลีสหะปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ( BH ) แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 288.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 279.81 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 3% โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้ 2,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,186 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2551
โดยไตรมาส 2 ปี 2552 บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 2,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป้วยใน รวมทั้งรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากการขายโครงการสมาชิก "Healthy Living Club" ซึ่งเริ่มเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 รวมทั้งรายได้จากร้านอาหาร "the Mezz" ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในอาคารบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คลินิกเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 ส่งผลให้รายได้เติบโตซึ่งรายได้จากส่วนดังกล่าวสูงกว่ารายได้จากกิจการโรงพยาบาล
สำหรับต้นทุนกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก จากการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2551 ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารก็เพิ่มตาม นอกจากนี้ยังมีค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายงวดนี้เพิ่้มขึ้นจากการเปิด อาคารบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก ในเดือนพฤษภาคม 2551และการทยอยปรับปรุงห้องผู้ป่วย ซึ่งเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 แต่ไตรมาสนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่ม แต่บริษัทได้ปรับปรุงรายการบัญชีบางรายการที่ให้ต้องมีส่วนแบ่งจากเงินลงทุนต่ำกว่าปกติ
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) (CEN) แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ของบริษัทและบริษัทย่อยว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 33.36 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 121.40 ล้านบาทหรือขาดทุน 127.48 %
โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายของบริษัทฯ ลดลง 188.88 ล้านบาทจาก 348.43 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ลดลงเหลือ 159.55 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552หรือลดลง 54.21% เนื่องจากปริมาณการขายและราคาขายลดลงตามสภาวะตลาด และรายได้จากการรับจ้างทำของและงานโครงการเพิ่มขึ้น 53.96 ล้านบาท จาก 123.77 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ปี2551 เพิ่มขึ้นเป็น 177.73 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือเพิ่มขึ้น 43.60%
สำหรับ ต้นทุนขายของบริษัทฯ ลดลง 81.75 ล้านบาท จาก 262.46 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ลดลงเหลือ 180.71 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือลดลงในอัตรา 31.15 % ซึ่งผันแปรไปตามปริมาณการขาย และต้นทุนจากรับจ้างทำของและงานโครงการเพิ่มขึ้น 43.06 ล้านบาท จาก 122.22 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 165.28 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือเพิ่มขึ้น 35.24 % ซึ่งผันแปรไปตามปริมาณงานโครงการที่ส่งมอบ
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง เนื่องจากจากในปี 2551 บริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้สิน 2.33 ล้านบาท และกำไรที่โตขึ้นในปี 2551 เนื่องจากงวดังกล่าวบริษัทมีรายได้จากหนี้สงสัยจะสูญรับคืน เนื่องจากได้รับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บริษัทอื่น 208.39 ล้านบาท