“นิกร” ปฏิเสธข่าวนั่งเก้าอี้ประธาน บอร์ด ททท.อ้างเก้าอี้ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ทำงานช่วยคนได้เยอะกว่า ททท.เตือน “ประกิจ” อย่าดูถูกศักยภาพคนเคยเป็นรัฐมนตรี ปูดต้นเหตุการณ์ต้านเกิดจากการเมืองภายใน ททท.
วันนี้ (1 ต.ค.) นายนิกร จำนง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีที่ข่าวว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ททท.และ นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทยต่อต้าน คัดค้านตนที่จะไปดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากการเมืองภายในของ ททท.จึงมีความพยายามที่จะมีการคัดค้านไม่ให้ตนไปนั่งตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา ตนคิดว่า น่าจะมีขบวนการปล่อยข่าวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า จะไม่ไปดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ททท.ตามที่มีข่าว เนื่องจากในขณะนี้ตนได้ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจสำคัญในการติดตาม ดูแลนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ขณะเดียวกัน ยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรรมการต่างๆ ในกระทรวงเกษตรอีกไม่น้อยกว่า 12 คณะ ซึ่งแต่ละคณะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการยกร่างยุทธศาสตร์มาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธาน หรือเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการพิจารณายกร่างกฎหมายคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ตลอดจนที่สำคัญเร่งด่วน คือ การรับผิดชอบต่อปัญหาผลกระทบต่อการยกเลิกภาษีของสินค้าเกษตร 23 ชนิด ภายใต้ความตกลง AFTA ซึ่งล้วนต้องใช้ความรับผิดชอบและเวลาทั้งสิ้น
นายนิกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังต้องไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือ วิชานโยบายสาธารณะ ระดับปริญญาโท ของมหาวิทยาลัยทักษิณ อีกด้วย จึงไม่มีเวลาพอที่จะเพิ่มงานด้านอื่นเข้ามาอีก จึงขอยืนยันว่า จะไม่เข้าไปเป็นประธานบอร์ด ททท.ตามที่เข้าใจกันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ การที่ นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวต่อต้านตน จากความเชื่อของเขาเอง ที่ว่า ตนจะเข้าไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว ตอนแรกตนได้แจ้งผ่านจึงเกิดการต่อต้านขึ้นเบื้องต้น และตนได้บอกกับ นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยที่ดูแลเรื่องกฎหมายไปแล้วว่า ตนไม่ไปแน่นอน และฝากต่อไปถึงนายประกิจไปด้วยว่า การบอกว่าตนไม่มีความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจในการทำงานด้านการท่องเที่ยวนั้น เป็นการสบประมาทกันมากเกินไป ตนได้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งอื่นๆ ที่สำคัญ อีกมากมาย อีกทั้งเคยบริหาร กำกับ ดูแลรัฐวิสาหกิจมาหลายแห่งแล้ว ย่อมสามารถจะเข้าใจในการกำกับดูแลงานลักษณะนี้ได้ เขาไม่ควรจะดูถูกคนอื่นเช่นนี้ เมื่อบอกกล่าวไปแล้ว ยังไม่ยอมหยุด ก็ต้องตอบโต้กันบ้าง
“การที่มาบอกว่าผมไม่มีความสามารถถือว่าเป็นการดูถูกกันมากไปมั้ง เพราะผมเองเคยเป็นถึงรัฐมนตรี และดูแลงานระดับประเทศมาแล้ว ขณะเดียวกัน ผมก็เคยคุมรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ผมคิดว่าการที่ออกมาพูดอย่างนี้ก็เพราะว่า มีปัญหาการเมืองภายในกันเองที่ไม่มีความเป็นเอกภาพ เป็นเรื่องภายในจึงพยายามปิดกันและลากคนข้างนอกไปยุ่งเกี่ยวด้วย ผมว่ามันไม่ดี ผมยืนยันว่าผมไม่ไปแน่นอน” นายนิกร กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่สหภาพรัฐวิสาหกิจ ไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำงานของ ททท.นั้น นายนิกร กล่าวว่า โดยโครงสร้างของพระราชบัญญัติการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อยู่ในความควบคุมดูแลของคณะรัฐมนตรี เพื่อรับผิดชอบต่อนโยบายของรัฐบาล จึงต้องมีฝ่ายการเมืองเข้ามากำกับดูแล และตำแหน่งของบอร์ดก็แต่งตั้งโดยรัฐมนตรี ซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองโดยตรง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไม่ใช่เป็นรัฐอิสระ ที่จะทำงานไปตามอำเภอใจได้ ถ้าต้องการอย่างนั้นก็ต้องเป็นองค์กรมหาชนไม่ต้องใช้เงินของรัฐบาล
นายนิกร กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขในขณะนี้ จึงขอให้ตระหนักว่าใครอยู่ตรงส่วนไหนของระบบ เพื่อรับผิดชอบต่อภารกิจ ไม่ใช่ว่ามาขัดแย้งกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง หรือพวกพ้อง ไม่เช่นนั้น จะไม่อาจแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ความเป็นหน่วยงานราชการก็จะมีความหมายใด
