ข่าวต่างประเทศ - วอลโว่ กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุดที่เตรียมตัวเปิดตลาดรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊กชาร์จได้ หรือ PHEV-Plug-in Hybris Electric Vehicle เมื่อประกาศเตรียมรุกตลาดประเภทนี้อย่างแน่นอนภายในปี 2012 แต่ยังไม่เปิดเผยว่ารถยนต์ทำตลาดจะเป็นรุ่นใหม่แกะกล่อง หรือว่าพัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์ที่มีขายอยู่แล้วในตลาด
‘รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินของวอลโว่จะสามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และเปี่ยมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตามแบบฉบับของวอลโว่ และขณะเดียวกัน ระดับการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ PHEV รุ่นนี้จะมีระดับที่ต่ำมาก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง’ Stephen Odell ประธานและซีอีโอของวอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชัน กล่าว
จุดเด่นของรถยนต์ PHEV ของวอลโว่คือ การผสมผสานระบบไฮบริดที่มีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเป็นพื้นฐาน และทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยหลังจากชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ตัวรถยนต์สามารถแล่นในรูปแบบของรถยนต์พลังไฟฟ้าได้จนกว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมด ระบบถึงค่อยสตาร์ทให้เครื่องยนต์ทำงาน ซึ่งทางวอลโว่เผยว่าระยะทางที่ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวนั้น มีระยะทางไกลพอตัว ประมาณ 31 ไมล์ หรือ 50 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็น 75% ของระยะทางเฉลี่ยที่คนยุโรปขับรถยนต์ในแต่ละวัน
แต่เมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานร่วมกัน ตัวรถจะสามารถแล่นทำระยะทางรวมกันได้ 745 ไมล์ หรือ 1,198 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพียง 50 กรัมต่อการใช้งาน 1 กิโลเมตร
สำหรับเหตุผลที่ทางวอลโว่เลือกเป็นปี 2012 สำหรับเริ่มเปิดตลาดนั้น ก็เพราะเชื่อว่าในตอนนั้น ความต้องการของลูกค้าต่อรถยนต์ลักษณะนี้จะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาของแบตเตอรี่เองก็น่าจะถูกลง และส่งผลถึงต้นทุนในการผลิต และทำให้สามารถตั้งราคาที่แข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ได้
นอกจากนั้น ยังมีข่าวว่าวอลโว่ก็สนใจที่จะเปิดตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า หรือ EV-Electric Vehicle และตอนนี้ได้นำต้นแบบรุ่น C30 BEV หรือ Battery Electric Vehicle ออกมาแล่นทดสอบ โดยทางวอลโว่เผยว่าจะมีการผลิตในช่วงแรกออกมาจำนวนไม่มากนักสำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลภายใต้เงื่อนไขของการใช้งานจริง ก่อนที่จะนำไปสู่การผลิตจริงในอนาคต
สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ซึ่งใช้เวลา 8 ชั่วโมงในการชาร์จจนเต็มจากกระไฟฟ้าขนาด 230 โวลต์ สามารถแล่นทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 11 วินาที และแล่นทำระยะทางได้ 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
‘รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินของวอลโว่จะสามารถตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และเปี่ยมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตามแบบฉบับของวอลโว่ และขณะเดียวกัน ระดับการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์ PHEV รุ่นนี้จะมีระดับที่ต่ำมาก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง’ Stephen Odell ประธานและซีอีโอของวอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชัน กล่าว
จุดเด่นของรถยนต์ PHEV ของวอลโว่คือ การผสมผสานระบบไฮบริดที่มีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเป็นพื้นฐาน และทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยหลังจากชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ตัวรถยนต์สามารถแล่นในรูปแบบของรถยนต์พลังไฟฟ้าได้จนกว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมด ระบบถึงค่อยสตาร์ทให้เครื่องยนต์ทำงาน ซึ่งทางวอลโว่เผยว่าระยะทางที่ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวนั้น มีระยะทางไกลพอตัว ประมาณ 31 ไมล์ หรือ 50 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็น 75% ของระยะทางเฉลี่ยที่คนยุโรปขับรถยนต์ในแต่ละวัน
แต่เมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานร่วมกัน ตัวรถจะสามารถแล่นทำระยะทางรวมกันได้ 745 ไมล์ หรือ 1,198 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพียง 50 กรัมต่อการใช้งาน 1 กิโลเมตร
สำหรับเหตุผลที่ทางวอลโว่เลือกเป็นปี 2012 สำหรับเริ่มเปิดตลาดนั้น ก็เพราะเชื่อว่าในตอนนั้น ความต้องการของลูกค้าต่อรถยนต์ลักษณะนี้จะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาของแบตเตอรี่เองก็น่าจะถูกลง และส่งผลถึงต้นทุนในการผลิต และทำให้สามารถตั้งราคาที่แข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ได้
นอกจากนั้น ยังมีข่าวว่าวอลโว่ก็สนใจที่จะเปิดตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า หรือ EV-Electric Vehicle และตอนนี้ได้นำต้นแบบรุ่น C30 BEV หรือ Battery Electric Vehicle ออกมาแล่นทดสอบ โดยทางวอลโว่เผยว่าจะมีการผลิตในช่วงแรกออกมาจำนวนไม่มากนักสำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลภายใต้เงื่อนไขของการใช้งานจริง ก่อนที่จะนำไปสู่การผลิตจริงในอนาคต
สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ซึ่งใช้เวลา 8 ชั่วโมงในการชาร์จจนเต็มจากกระไฟฟ้าขนาด 230 โวลต์ สามารถแล่นทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 11 วินาที และแล่นทำระยะทางได้ 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง