ที่ประชุม ป.ป.ช.หยิบยกวาระแถลงการณ์ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ถกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนชี้มูล “ครม.หมัก” วันนี้ ยันโทษข้าราชการประจำและการเมืองมีทั้งวินัยพ่วงอาญา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายกล้านรงค์ จันทิก ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ได้เริ่มประชุมวาระเพื่อพิจารณาชี้มูลความผิด กรณีมติคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช แถลงการณ์ร่วมกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551 การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก หลังจากมีการเลื่อนชี้มูลมาถึง 2 ครั้ง ซึ่งกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนายกล้านรงค์ จันทิก นายเมธี กรองแก้ว ยืนยันว่าพร้อมต่อการลงมติในสำนวนที่มีความสมบูรณ์ แต่อาจแตกต่างกันตรงที่กรรมการ ป.ป.ช.มีความเห็นต่างที่จะชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 32 คน ซึ่งบางคนอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ต้องขึ้นกับการถกเถียงเพื่อให้ได้ข้อยุติ
ทั้งนี้ ย้ำว่าการเลื่อนถึง 2 ครั้งไม่ได้ถูกแทรกแซง และไม่มีใครกดดัน เพียงแต่เอกสารที่เกี่ยวข้องกับสำนวนมีจำนวนมาก ทำให้การพิจารณาข้อเท็จจริงนั้นต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ และเมื่อตัดสินแล้วก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณชนได้
ส่วนการชี้มูลความผิดรัฐมนตรีที่ทำงานในรัฐบาลชุดนี้ กรรมการ ป.ป.ช.ก็กล่าวชัดเจนว่าไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ให้รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับในส่วนของข้าราชการจะมีโทษทางวินัยและอาญา ตามมาตรา 157 ส่วนข้าราชการการเมืองจะมีโทษทั้งทางอาญา และการถอดถอนด้วย