ป.ป.ช.เตรียมเชือด “รมต.ออหมัก” ออกมติเขาพระวิหารพรุ่งนี้

“สมลักษณ์” เผยที่ประชุม ป.ป.ช.พรุ่งนี้เตรียมพิจารณามติ ครม.สมัคร ออกแถลงการณ์ร่วมเขาพระวิหาร คาดมีความคืบหน้า ปัดไม่มีอุปสรรค ระบุ ป.ป.ช.มีหน้าที่แค่พิจารณาตามกฎหมาย โยนเป็นหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจัดการหากมีความผิดจริง ต้องออกจากตำแหน่งหรือไม่

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น.นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมติคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช แถลงการณ์ร่วมกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551 ว่า คณะกรรมการจะต้องพิจารณาในแต่ละบุคคลที่ถูกกล่าวหา ซึ่งขณะนี้เหลืออีก 32 คน ส่วนบุคคลล่าสุดที่เข้ามายื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหา คือ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เมื่อถามว่า ผู้ที่ยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหามีเนื้อแตกต่างกันหรือไม่ นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ถามอีกว่า นายสุวิทย์ แก้ข้อกล่าวหาแตกต่างอย่างไร นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดในรายละเอียด ต่อข้อถามว่า จะมีการแจ้งชื่อผู้ที่ถูกล่าวหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า ไม่มีเพิ่มแล้ว ก่อนหน้านี้ เราดูจากรายชื่อผู้กล่าวหา แต่ในเมื่อสอบไปแล้วเราเห็นว่าผู้ที่เราจะแจ้งข้อกล่าวหานั้นมีจำนวนลดลง เช่น บุคคลไม่อยู่หรือลาออกไปแล้ว

ต่อข้อถามว่า การชี้มูลในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีจะต้องยุติการทำหน้าที่หรือไม่ นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า เป็นข้อกฎหมายที่จะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะบังเอิญบางคนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว แต่เรามีคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยได้พิจารณาแล้วว่าไม่ต้องหยุด แต่จะให้เป็นบรรทัดฐานจะต้องให้เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามอีกว่า รัฐมนตรีสมัยรัฐบาลนายสมัคร ที่ยังทำหน้าที่ในรัฐบาลชุดนี้ ก็ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยหรือไม่ นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า ใช้ถอยคำต่างกันเพียงเล็กน้อย ของกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 55 บุคคลผู้ถูกกล่าวหา แต่ตามรัฐธรรมนูญใช้ในตำแหน่งที่ถูกกล่าวหา ความเห็นก็มีต่างกันไปว่าถ้าบุคคลมีการเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว จะต้องยุติการทำหน้าที่หรือไม่ คนที่จะตอบได้คือศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า กรณีเขาพระวิหารยืนยันว่าจะสามารถชี้มูลในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่ นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ชัดเจนว่าจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมอย่างแน่นอน แต่จะเสร็จสมบูรณ์เพียงใดก็แล้วแต่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งนี้ ไม่มีความกังวลเพราะเป็นหน้าที่ คิดว่าบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวจะเข้าใจ ไม่ได้มีเจตนาโกรธเคืองกับผู้ใด

ถามว่า ในส่วนของข้าราชการจะมีโทษอย่างไรบ้าง นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า มีโทษทางวินัยและอาญา มาตรา 157 ซึ่งจะโยงถึงโทษทางวินัยด้วย ส่วนข้าราชการการเมืองจะมีโทษทั้งทางอาญา และการถอดถอนด้วย เมื่อถามว่าถ้ามีการพิจารณาชี้มูลข้าราชการจะทำให้เกิดการเสียขวัญกำลังใจหรือไม่เพราะต้องทำตามหน้าที่ตามมติ ครม.นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า หน้าที่ของเรา คือ การตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐที่จะต้องดำเนินไปตามกฎหมาย ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรจะต้องว่ากันอีกเรื่อง

ถามว่า มีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.อาจจะนำคดีกล้ายางเข้ามาพิจารณาด้วย นางสาวสมลักษณ์ กล่าวว่า แล้วแต่กรรมการคนอื่นเพราะมีสิทธิ์หยิบยกขึ้นมาเช่นกัน ในที่ประชุมก็เห็นสมควรจะพูด