ศาลปกครอง นัดชี้ชะตาคดีแบงก์ไทยพาณิชย์ ร้องให้ยกเลิกคำสั่งกรมสรรพากร สั่งนำเงินในบัญชี “โอ๊ค-เอม” ชำระภาษีให้สรรพากรชอบหรือไม่ 30 ก.ย.นี้
วันนี้ (24 ก.ย.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง ที่มี นายจรวย หนูคง เป็นตุลาการเจ้าของสำนวน ได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ 1328/2551 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องกรมสรรพากร กรณีมีคำสั่งอายัดและให้ธนาคารไทยพาณิชย์นำส่งเงินในบัญชีเงินฝากของ น.ส.พิณทองทา และ นายพานทองแท้ ชินวัตร เพื่อชำระค่าภาษีอากรค้าง โดยองค์คณะตุลาการได้เปิดโอกาสให้คู่กรณีแถลงปิดคดี แต่คู่กรณีไม่มีอะไรที่จะแถลงเพิ่มเติม นายเสน่ห์ บุณทมานพ ตุลาการผู้แถลงคดี จึงได้แถลงความเห็นส่วนตัวที่ไม่มีผลผูกพันต่อการพิจารณาขององค์คณะ จากนั้น นายจรวย จึงนัดคู่กรณีฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เวลา 11.30 น.
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวหลังธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2551 แล้วก็ได้ขอให้ศาลปกครองกลางกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยให้ระงับคำสั่งอายัดและคำขอให้ส่งเงินในบัญชีเงินฝากของ น.ส.พิณทองทา และ นายพานทองแท้ ที่ออกโดยกรมสรรพากร ซึ่งศาลปกครองกลางก็ได้มีคำสั่งระงับตามที่ขอ แต่ต่อมากรมสรรพากรได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด โดยศาลปกครองสูงสุดก็มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งระบุเหตุผลว่า เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก้รัฐ (คตส.) มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของบุคคลทั้ง 2 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.2550 คำสั่งดังกล่าวยังมีผูกพันให้ธนาคารไทยพาณิชย์ต้องปฏิบัติตาม และการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงเก็บรักษาเงินในบัญชีดังกล่าวไว้ ก็ไม่มีผลกระทบต่อบุริมสิทธิและการบังคับชำระหนี้ของกรมสรรพากรในฐานะเจ้าหน้าที่ภาษีอากร ดังนั้น คำอุทธรณ์ของกรมสรรพากรที่ขอให้ศาลปกครองสูงสุดยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองชั้นต้นจึงไม่อาจรับฟังได้
