โฆษกมาร์ค สวนกลับ “นช.แม้ว-ชายกระโปรง” ยันรัฐประหาร 19 ก.ย.เป็นการไล่หนูเผาบ้าน ท้าให้สถาปนาตัวเอง “กูคือความถูกต้อง” ย้อนศรเกิดเศรษฐีใหม่สมัยปฏิวัติ รสช.ตอกย้ำเมนูทุจริต จนทำให้รวยทั้งโคตร
วันนี้ (23 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสัมมนา ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวาน (22 ก.ย.) ที่ผ่านมา ว่า มีนักการเมืองที่ชำรุดจำนวนมากเข้าร่วม ซึ่งได้มีการพาดพิงรัฐบาลประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อ้างอิงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ความเสียหายของประเทศที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารมาจากการเผาบ้านเพื่อจับหนูตัวเดียวนั้น เป็นการเข้าใจผิดของนายสมชาย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะการเผาบ้านไม่ได้จับหนู แต่เป็นการไล่หนูออกจากบ้าน ซึ่งขณะนี้หนูตัวนั้นคาบไฟกลับมาเผาบ้านตัวเอง
“ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า อยากทำเสื้อที่ใช้ตัวหนังสือเหลือง ข้อความ กูทำอะไรไม่ผิด และ ตัวหนังสือสีแดง ว่า กูทำอะไรก็ผิด นั้น ผมไม่อยากให้เสื้อลักษณะเช่นนี้เผยแพร่ออกไปทั่วสังคม เพราะอาจเกิดความแตกแยก แต่ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า จะทำ ก็อยากให้เปลี่ยนเป็นข้อความว่า “ทักษิณ : กูคือความถูกต้อง” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเหน็บแนม ว่า การปฏิวัติทำให้เกิดเศรษฐีใหม่หลายคนนั้น วันนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ แต่ที่พิสูจน์ได้ คือ ในอดีต ตอนที่ รสช.ปฏิวัติเมื่อปี 2534 นั้น ได้เกิดเศรษฐีใหม่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของ บ.ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โดยได้ทำสัญญากับ รัฐบาล รสช.จนมาสู่ดาวเทียมไทยคม ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงอาจจะคิดถึงตัวเองที่ได้รับประโยชน์ในสมัย รสช.จึงออกมาพูดทำนองว่า เมื่อปฏิวัติทีหนึ่งก็มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้น ส่วนที่ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้หากินทุกกระเบียดนิ้วนั้น ขอให้ระบุออกมาว่าเป็นหน่วยงานใดบ้าง เพราะรัฐบาลจะรีบเข้าไปตรวจสอบดำเนินการเอาผิด
อย่างไรก็ตาม หากกลับไปดูการบริหารงานเมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี จะเห็นว่าเกิดการทุจริตมากมาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยออกหนังสือชื่อเมนูทุจริต จนเป็นที่มาของคำว่า โคตรโกง โกงทั้งโคตร
นายเทพไท กล่าวว่า กรณีที่กล่าวหาว่า เสถียรภาพของรัฐบาลขณะนี้กองทัพแข็งแรงขึ้น แต่ตำรวจอ่อนแอลง มีการแทรกแซง ซื้อขายตำแหน่งนั้น ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจินตนาการไปในยุคของตนเอง เมื่อครั้งเป็นนายกฯที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งของตำรวจด้วยการพยายามสร้างรัฐตำรวจขึ้นมา แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์ให้ความเท่าเทียมกัน ทั้งทหารและตำรวจ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการสร้างความแตกแยกระหว่าง ทหารและตำรวจ ยืนยันว่า ทั้งทหาร และตำรวจ ไม่มีการเลือกปฏิบัติจากรัฐบาลแน่นอน เห็นได้จากมติ ครม.เมื่อวาน (22 ก.ย.) ที่ผ่านมา ที่มีการอนุมติการจัดหาอาวุธของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม มีแกนนำ นปช.ออกมากล่าวหาว่า รัฐบาลอนุมัติงบประมาณเพื่อแลกกับการที่กองทัพจะไม่ปฏิวัติ ถือเป็นการพูดที่หวังผลทางการเมือง โดยปราศจากข้อเท็จจริง เนื่องจากการอนุมัติดังกล่าวมาจากมติ ครม.ในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ที่ให้มีการจัดหาอาวุธ จึงไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาดังกล่าวแต่อย่างใด หากคิดอย่างนี้ การที่รัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือยายใฮ กว่า 4.9 ล้านบาทนั้น คนเหล่านี้คงกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่อยากให้ยายใฮก่อม็อบ ดังนั้น การพูดแบบนี้ จึงเป็นการใส่ร้ายรัฐบาลทั้งที่มีเจตนาที่ดี แต่ไม่วายถูกคนเหล่านี้พูดจาให้ร้ายหวังผลทางการเมืองจนได้