ส.ส.เพื่อไทย เข้าชื่อยื่นเอาผิด ป.ป.ช.หลังชี้มูลเครือข่ายระบอบทักษิณ คดี 7 ตุลาทมิฬ ทำคำร้องผ่าน ปธ.วุฒิฯ ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ แจ้ง 4 ข้อหาฉกรรจ์ พร้อมชี้นำเสร็จสรรพหากศาลประทับรับฟ้อง ป.ป.ช.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวน 10 คน นำโดยนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวน 143 คน ต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ไต่สวนและดำเนินคดีกับกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้ง 9 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 249 เนื่องจากได้พิจารณาเห็นว่า ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 4 ประการ คือ 1.การใช้จ่ายเงินงบประมาณไม่ชอบ โดยออกระเบียบโดยไม่ชอบ เพราะไม่มีกฎหมายเปิดให้ทำได้ แต่ก็ทำ เพื่อตั้งคนใกล้ชิดมาเป็นที่ปรึกษาและเลขาส่วนตัว ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 166 2. กรณีการไต่สวนชี้มูลความผิดข้าราชการตำรวจโดยไม่ชอบ โดยได้ชี้มูลกรณี พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง หรือโอ๋ สืบ 6 ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหา และ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดอาญาและวินัยร้ายแรง เป็นเหตุให้ต้องออกจากราชการ แต่ภายหลังศาลปกครองให้เพิกถอนมติการลงโทษ ถือว่าเป็นการไต่สวนที่ไม่ชอบ
นายประเกียรติกล่าวต่อว่า 3.ปกปิดข้อมูลข่าวสารการไต่สวนคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ตุลาฯ ที่ชี้มูลความผิดต่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยพยานหลักฐานเรื่องการชันสูตรพลิกศพ และพยานหลักฐานอื่น ซึ่งคณะกรรมการฯได้สั่งให้เปิดเผยข้อมูลในวันที่ 8 ก.ย. แต่ ป.ป.ช.กลับรีบชี้มูลความผิดในวันที่ 7 ก.ย. และ 4. มีการรับเรื่องไว้ดำเนินการไต่สวนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีที่อดีต รมว.สาธารณสุข ถูกกล่าวหาว่ายกเลิกการประกวดราคาโครงการจัดทำระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางแล้ว ตามมาตรา 86 (2) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ว่าเรื่องที่มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางแล้ว ห้ามไม่ให้กรรมการ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้ไต่สวนอีก จึงขอให้มีการพิจารณาลงโทษกรรม ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 83 ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช.มาตรา 125
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรหากศาลฎีกาฯรับเรื่องไว้พิจารณา นายประเกียรติกล่าวว่า หากศาลฎีกาฯรับเรื่องไว้พิจารณา ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ และต้องมีการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่ ป.ป.ช.แทน ยืนยันว่าที่ยื่นเอาผิด ป.ป.ช.ครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของการเอาคืน แต่ ป.ป.ช.ได้กระทำผิดในหลายกรณี หลายวาระ ที่ทำมานานแล้ว ซึ่งล่าสุดเรื่องใหม่คือ การชี้มูลความผิดกรณีการสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาฯ