“เทพไท” อัดม็อบหางแดงจัดตั้ง อ้างงานครบรอบ 3 ปีรัฐประหาร หวังป่วนสถาบัน ดิสเครดิตรัฐบาล จวก “ทักษิณ” หน้าไหว้หลังหลอก ออกวิทยุวอนชุมนุมสงบ แต่โฟนอินปั่นหัว ปลุกระดมสาวกเสื้อแดง เย้ย “พี่แม้ว” ฝันกลางวันถึงรัฐประหาร แถมออกอาการเกี้ยวกราดหยาบคาบ ไม่น่าเชื่อหลุดมาจากปาก อดีต ผบ.ทบ.ที่ดีแต่ปกป้องผลประโยชน์เครือญาติ
วันนี้ (16 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย. โดยอ้างสาเหตุว่าเป็นการรำลึกครบรอบ 3 ปีของการรัฐประหารว่า เป็นการหาเหตุอ้างเพี่อเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายให้สังคมและดิสเครดิสรัฐบาลมากกว่า เพราะถ้าจะจัดงานรำลึกจริงก็น่าจะชุมนุมอย่างสงบ เช่น การรำลึกเหตุการณ์พฤษภาทมิฬหรือ 14 ตุลา ที่ไม่มีการจัดตั้งหรือการปลุกระดมคนเพื่อเข้าร่วมเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่การชุมนุมครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้นต้องการที่จะกดดันรัฐบาล และสถาบันองคมนตรี เห็นได้จากการตั้งธงประกาศปิดล้อมทำเนียบฯ และจะเคลื่อนไวปิดล้อมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่เมื่อรู้ข่าววว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ไม่อยู่ โดยไปพักที่บ้านไร้กังวล จ.นครราชสีมา คนเสื้อแดงในพื้นที่อีสานก็ปรับแผนไปนัดชุมนุมที่หน้าบ้านไร้กังวล ก่อนที่จะลงมาเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯ เป็นการแสดงเจตนาจองล้างจองผลาญอาฆาตมาตร้ายต่อ พล.อ.เปรมอย่างไม่สิ้นสุด
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น การชุมนุมครั้งนี้จึงมีเจตนาเป็นเครื่องแสดงว่า ม็อบจัดตั้งนี้มีแผนที่จะก่อความไม่สงบ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเข้ามาควบคุมล่วงหน้า เพราะถ้าหากว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จึงต้องวางมาตรการป้องกันไว้ก่อน และหากรัฐบาลไม่ดำเนินการเช่นนี้และเกิดความรุนแรง เช่น เหตุการสงกรานต์เลือด ผู้ที่ออกมาคัดค้านเรื่องนี้จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เพราะม็อบเสื้อแดงรอบนี้เป็นม็อบเกเรหรือม็อบหาเรื่อง ดูได้จากการยื่นเงื่อนไขของกนนำว่า หากเจ้าหน้าที่ใช้เครื่อง แอล เรดที่ส่งสัญญาณคลื่นแล้วก็ขู่จะชุมนุมยืดเยื้อ หนำซ้ำยังเปิดประเด็นมือที่ 3 ว่า ถ้ามีมือที่ 3 ออกมาก็ไม่รับประกันความรุนแรง ซึ่งเป็นการพูดในลักษณะตีปลาหน้าไซเพื่อหวังเป็นข้ออ้างในการชุมนุมยืดเยื้อและใช้ความรุนแรงตามแผนที่วางไว้
นายเพทไทกล่าวต่อว่า ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งสัญญาณผ่านรายการวิทยุ Thaksinlive.com โดยระบุว่า อยากให้ชุมนุมอย่างสงบนั้น แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้วิธีการโฟนอินปลุกระดมคนเสื้อแดงทั้งที่เวที จ.ชลบุรี และนครพนม ให้มาร่วมชุมนุมให้มากที่สุด แสดงให้เห็นว่าเป็นคนปากอย่างใจอย่าง การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุตั้งคำถามว่า ประเทศบอบช้ำพอหรือยัง แตกแยกพอหรือยังและอยากเห็นประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวนั้น พ.ต.ท.ทักษิณควรที่จะตั้งคำถามนี้ต่อตัวเองเสียก่อน เพราะปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ก็เกิดจากตัวของ พ.ต.ท.ทักษฺณเพียงคนเดียว จึงอยากใช้เวลาที่อ้างว่าได้นั่งสมาธิทุกวันไปทบทวนบทบาทของตัวเองว่าสับสนในตัวเองหรือไม่ บางวันปลุกระดมให้คนใช้ความรุนแรง บางวันก็เรียกร้องให้คนใช้หลักสันติ บางวันก็บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำคลิปเสียงของนายกฯอภิสิทธิ์ แต่กลับหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง จึงอยากให้เป็นคนปากกับใจตรงกัน อย่ามีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบอีกต่อไป
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีบางคนแอบคาดคาดหวังลึกๆว่าเหตุการณ์ชุมนุม 19 ก.ย.นี้จะลุกคืบไปถึงการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลนี้ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นการฝันกลางวันของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สส. ญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะชี้โพรงให้กระรอก ที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะเกรี้ยวกราด พูดจาหยาบคาย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของคนระดับอดีต ผบ.ทบ.และผบ.สส. เว้นแต่บุคคลนั้นจะขึ้นมาในตำแหน่งได้ด้วยระบบเครือญาติอุปถัมภ์ การแสดงอาการผ่านการให้สัมภาษณ์ล่าสุดได้พาดพิงมาถึงนายเทพไท ซึ่งตัวเองก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ต้องการสื่อมาหมายถึงอะไร แต่อยากชี้แจงเรียนไปว่า ส่วนตัวไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ตนเองทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของประชาชน แต่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของเครือญาติจึงอยากให้สังคมไทยได้พิจารณาว่า ใครทำหน้าที่และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง