“นายกฯ” ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ เจรจารัฐบาลกัมพูชาไม่ทำเสียดินแดน ปัดไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ชี้ปัญหามรดกโลกทำตรึงเครียด 2 ประเทศ ลั่นพร้อมเจรจาให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบ รักษาบรรยากาศก่อนเกิดข้อพิพาท ยอมรับประชาชนมีความเห็นต่าง วอนอย่าทำให้เกิดความรุนแรง ระบุ “สุวิทย์” จับตาแผนที่ใกล้ชิด
วันนี้ (15 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พยายามทำความเข้าใจกันอยู่ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเพิ่งคุยกับตนว่าจะพยายามทำความเข้าใจเพิ่มเติม จะเห็นว่าในวาระ ครม.จะมีข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติค่อนข้างละเอียดทุกแง่มุม จะพบว่าข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ กับแนวทางที่รัฐบาลทำอยู่ค่อนข้างที่จะสอดคล้องกันเกือบหมดเลย
เมื่อถามว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ขอยืนยันเลยว่าใครที่ไปกังวลว่ารัฐบาลจะไปทำอะไร ซึ่งเสียหายต่อเรื่องอธิปไตย ดินแดน และมีผลประโยชน์อื่นใดยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าไม่มี ส่วนความเข้าใจของประชาชนหน่วยงาน ตนยอมรับว่ามีความคิดเห็นที่อาจจะแตกต่างกันอยู่ในแง่มุมบางแง่มุม ทั้งเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งเรื่องข้อเท็จจริงบางอย่าง อันนี้ก็พยายามทำความเข้าใจกัน
เมื่อถามว่าทำไมเราไม่พยายามคลี่คลายปัญหาให้เบาบาง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แนวทางที่เราทำอยู่คือต้องการจะใช้แนวทางของการเจรจา เพื่อคืนสภาพพื้นที่ไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องมรดกโลกขึ้นมา นี่คือแนวทางที่กำลังทำอยู่ กรอบก็รออยู่ในสภา ต้องมีการดำเนินการตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งไม่พอใจกับสภาพของการตรึงกำลัง กับการเข้าไปอยู่ของชุมชน ซึ่งเราอยู่ในขั้นตอนการเจรจาที่จะปรับสภาพพื้นที่ให้คืนเดิม เพียงแต่ว่าประชาชนจำนวนหนึ่งไม่พอใจ
“เราก็พยายามทำความเข้าใจกับเขา ว่าเป้าหมายไม่ต่างกัน แต่เราคิดว่าวิธีที่เหมาะสมในขณะนี้คือกระบวนการเจรจาและยืนยันว่า ในระหว่างการเจรจาเราไม่เสียสิทธิ์ใดๆ ขณะนี้ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่มีความเชื่อว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการที่แรงขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าการที่มีผู้ชุมนุมไปปักหลักตรงนั้น จะทำให้สถานการณ์สุ่มเสี่ยงหรือไม่ นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้เกิดความเสี่ยง ถ้ามันมีความไม่เข้าใจกัน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็ทำให้เกิดการปะทะกันได้ การปะทะกันเกิดขึ้นกรกฎาคมปีที่แล้ว เมษายนปีนี้ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก
เมื่อถามว่ากลายเป็นสร้างความตรึงเครียดในพื้นที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นจุดที่เราตั้งข้อสังเกตมาตั้งแต่ต้น เรื่องปัญหามรดกโลกจะเพิ่มความตรึงเครียดและจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราก็ยังยืนยันกับยูเนสโกว่าต้องทบทวนเรื่องนี้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสิทธิที่เราจะได้รับทราบเอกสารต่างๆ ที่กัมพูชายื่นไป โดยเฉพาะกรณีของแผนที่ ยังต้องทำมากขึ้น เราพยายามทำความเข้าใจว่าเราไม่ได้มีความคิดต่างกันเรื่องความหวงแหนสิทธิอธิปไตย แต่ขอให้เจ้าหน้าที่มีโอกาสทำงาน และขอว่าอย่าทำอะไรสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงและปะทะกันขึ้นมา เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายไทยและฝ่ายใดทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าหมายความว่าเราพยายามจะเจรจา นายอภสิทธิ์กล่าวว่า เราก็พยายามทำความเข้าใจอยู่ รัฐมนตรีต่างประเทศก็บอกกับตนว่าจะไปทำความเข้าใจเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม
“เรายืนยันว่าได้แจ้งกัมพูชาไปแล้วว่าแถลงการณ์ร่วมไม่มีผล และกัมพูชาได้รับหนังสืออันนั้นแน่นอน และยูเนสโกก็ไม่ใช้อันนี้ในการพิจารณาแล้ว”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมการเมืองระหว่างประเทศเราไม่เก่งเหมือนการเมืองในประเทศ นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนกล่าวว่า “ผมยังนึกว่าการในประเทศยังถูกต่อว่าอยู่เลยครับ”