ASTVผู้จัดการรายวัน – เซาท์เทิร์นสตีล เทรดวันแรก เหนือจอง 0.96 บาทหรือ 50.52% แม้ระบบซื้อขายสะดุดดับความร้อนแรง ด้านผู้บริหารชี้หุ้นแรงจากปัจจัยพื้นฐานแกร่ง ด้านที่ปรึกษาฯ แจงวอลุ่มเทรดต่ำจากระบบคีย์ออร์เดอร์ช้า ปัดไม่เกี่ยวนักลงทุนสนใจน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)ของบริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ S2 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศการเลื่อนเปิดการซื้อขายเป็น 11 โมง เนื่องจาก ระบบการซื้อขายขัดข้อง ซึ่งเปิดตลาดที่ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ31.57% จากราคาจอง 1.90 บาท ระหว่างวันราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.86 บาท ปรับตัวลดลงต่ำสุด 2.50 บาท กลับมาปิดตลาดที่ระดับ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.96 บาท หรือ50.52% มูลค่าการซื้อขาย 125.79 ล้านบาาท
นายสมบัติ ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ 2S เปิดเผยว่า ส่วนตัวพอใจกับราคาเปิดซื้อขายหุ้นวันแรกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานดี และมีค่าP/Eเพียง 5 เท่า ถืออยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะมูลค่าตามบัญชี (บุ๊กแวลู)ของบริษัทอยู่ที่ 2.90 บาท และจากการที่ระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯขัดข้องทำให้ไม่สามารถเปิดซื้อขายได้ตามเวลาปกติได้นั้น ถือว่าส่งผลดีกับบริษัทในด้านนักลงทุนมีเวลาในการตัดสินใจในการลงทุน จากที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลดลง
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน2S กล่าวว่า ราคาหุ้นเทรดวันแรกสูงกว่าราคาจองได้เพราะมีปัจจัยพื้นฐานดี ครึ่งปีแรกมีกำไร 49.72 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีกำไรดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการลงทุนก่อสร้างหลายโครงการซึ่งจะต้องใช้เหล็กในการก่อสร้างจำนวนมาก และช่วงที่บริษัทปิดให้จองซื้อหุ้นมีนักลงทุนสนใจติดต่อสอบถามมาที่บริษัทตลอด
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายหุ้น 2S วอลุ่มไม่มากนักช่วงเช้าไม่ถึง 50% ของจำนวนหุ้นเสนอขายไอพีโอที่ 60 ล้านหุ้น เพราะ ระบบซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ฯมีปัญหา ทำให้เมื่อเปิดซื้อขายแล้วแต่ระบบการสั่งคำสั่งซื้อขายทำได้ช้ากว่าปกติ โดยจากการสอบถามไปยังโบรกเกอร์พบว่า มีออร์เดอร์ของ 2S รอที่จะส่งออกมาจำนวนมากเตรียมจะเข้ามาที่ระบบการซื้อขาย
อย่างไรก็ดี การที่ราคาหุ้น 2S เทรดวันแรกราคาปิดเหนือจองได้ ชื่อว่าจะทำให้บริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดลักทรัพย์ฯมีความมั่นใจและเข้ามาซื้อขายมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเหล็ก ซึ่งทางบล.คันทรี่ คาดว่าจะมีอีก 1-2 บริษัทที่เตรียมนำเข้าจดทะเบียนหลังจากที่ปีนี้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนไปแล้ว 2 บริษัท คือ บริษัท แอปโซลูท อิมแพค จำกัด (มหาชน) หรือ AIM และ เซาท์เทิร์นสตีล
ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าซื้อขายหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)ของบริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ S2 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศการเลื่อนเปิดการซื้อขายเป็น 11 โมง เนื่องจาก ระบบการซื้อขายขัดข้อง ซึ่งเปิดตลาดที่ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ31.57% จากราคาจอง 1.90 บาท ระหว่างวันราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.86 บาท ปรับตัวลดลงต่ำสุด 2.50 บาท กลับมาปิดตลาดที่ระดับ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.96 บาท หรือ50.52% มูลค่าการซื้อขาย 125.79 ล้านบาาท
นายสมบัติ ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ 2S เปิดเผยว่า ส่วนตัวพอใจกับราคาเปิดซื้อขายหุ้นวันแรกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้ เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานดี และมีค่าP/Eเพียง 5 เท่า ถืออยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะมูลค่าตามบัญชี (บุ๊กแวลู)ของบริษัทอยู่ที่ 2.90 บาท และจากการที่ระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯขัดข้องทำให้ไม่สามารถเปิดซื้อขายได้ตามเวลาปกติได้นั้น ถือว่าส่งผลดีกับบริษัทในด้านนักลงทุนมีเวลาในการตัดสินใจในการลงทุน จากที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลดลง
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน2S กล่าวว่า ราคาหุ้นเทรดวันแรกสูงกว่าราคาจองได้เพราะมีปัจจัยพื้นฐานดี ครึ่งปีแรกมีกำไร 49.72 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีกำไรดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการลงทุนก่อสร้างหลายโครงการซึ่งจะต้องใช้เหล็กในการก่อสร้างจำนวนมาก และช่วงที่บริษัทปิดให้จองซื้อหุ้นมีนักลงทุนสนใจติดต่อสอบถามมาที่บริษัทตลอด
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายหุ้น 2S วอลุ่มไม่มากนักช่วงเช้าไม่ถึง 50% ของจำนวนหุ้นเสนอขายไอพีโอที่ 60 ล้านหุ้น เพราะ ระบบซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ฯมีปัญหา ทำให้เมื่อเปิดซื้อขายแล้วแต่ระบบการสั่งคำสั่งซื้อขายทำได้ช้ากว่าปกติ โดยจากการสอบถามไปยังโบรกเกอร์พบว่า มีออร์เดอร์ของ 2S รอที่จะส่งออกมาจำนวนมากเตรียมจะเข้ามาที่ระบบการซื้อขาย
อย่างไรก็ดี การที่ราคาหุ้น 2S เทรดวันแรกราคาปิดเหนือจองได้ ชื่อว่าจะทำให้บริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดลักทรัพย์ฯมีความมั่นใจและเข้ามาซื้อขายมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเหล็ก ซึ่งทางบล.คันทรี่ คาดว่าจะมีอีก 1-2 บริษัทที่เตรียมนำเข้าจดทะเบียนหลังจากที่ปีนี้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนไปแล้ว 2 บริษัท คือ บริษัท แอปโซลูท อิมแพค จำกัด (มหาชน) หรือ AIM และ เซาท์เทิร์นสตีล