ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดหุ้นป่วน ระบบเทรดล่ม! 16โบรกฯส่งคำสั่งซื้อขายไม่ได้ร่วม 1 ชั่วโมงช่วงเช้าวานนี้(2ก.ย.) ฉุดน้องใหม่mai “เซาท์เทิร์นสตีล”ขยับฤกษ์ประเดิมเทรดเป็น 11 โมงเช้า ด้านผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ แจงปัญหาเกิดจากผู้พัฒนาระบบDST เตรียมถก บล.สมาชิกทบทวนตัดสินใช้บริการ ยอมรับกระทบนักลงทุนต่างชาติ ส่วนโบรกฯอัด ชื่อย่อหุ้นน้องใหม่2S ทำวุ่น เหตุตัวเลขนำหน้าตัวอักษร ระบบไม่รองรับ ชี้สะเพร่าทั้งตลาดและผู้พัฒนาระบบไม่ทดลองก่อน ทำวอลุ่มซื้อขายหาย ล่าสุดแก้ชื่อใหม่เป็นS2 แล้วตั้งแต่วันนี้
วานนี้ (2ก.ย.) มีรายงานว่า การเข้าซื้อหุ้นในกระดาน mai ครั้งแรกของ บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล (2S) มีเหตุต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเวลาเดิม เนื่องจากระบบส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทสมาชิกจำนวนหนึ่ง เกิดขัดข้องไม่สามารถส่งคำสั่งเข้ามายังระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ได้ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดการซื้อขายภาคเช้า แม้ทางตลท.ได้เปิดระบบการส่งคำสั่งซื้อขายสำรองเพื่อให้สมาชิกที่มีปัญหาส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาแล้ว แต่ยังมีบริษัทสมาชิกบางรายที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงต้องเลื่อนเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ในวานนี้ โดย เปิดช่วง Pre-Open ในเวลา 10.30 น. และเปิดซื้อขายปกติได้อีกครั้งเมื่อเวลา 11.00 น. ขณะที่ในภาคบ่ายได้เปิดช่วง Pre-Open เมื่อ 14.00น.และเริ่มเปิดซื้อขายตั้งแต่ 14.30 - 16.30 น.
ส่วนการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ได้เลื่อนเวลาการเปิดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับตราสารทุนเป็นเวลา 10.45 น. ส่วนการซื้อขาย Gold Futures ได้เปิดซื้อขายตามปกติ เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้
ตลท.ย้ำนักลงทุนไม่เสียหาย
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลท. เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เปิดระบบการส่งคำสั่งซื้อขายสำรอง คือ ดีซีเทิร์มให้สมาชิกที่มีปัญหาส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามายังระบบแล้ว แต่ยังคงมีโบรกเกอร์บางรายที่ยังไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุน จึงต้องเลื่อนเวลาในการซื้อขายออกไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องมีการเลื่อนเปิดการซื้อขาย เป็นเพราะระบบการส่งคำสั่งซื้อขายจากผู้ให้บริการ DST เกิดมีปัญหา ซึ่งในระบบนี้มีโบรกเกอร์จำนวน 16 รายที่ใช้บริการและไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ อีกทั้งที่ผ่านมาระบบDST มีปัญหามาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเพื่อแก้ไขจะมีการสอบถามไปยังโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ เพื่อทบทวนในการใช้ระบบของDST ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนเวลาเปิดการซื้อขายออกไป 1 ชั่วโมงนั้น ไม่ได้ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเสียหาย เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯยังไม่เปิดให้มีการซื้อขายทั้งระบบ เพราะ ทุกคนจะสั่งคำสั่งซื้อขายพร้อมกัน จึงไม่สร้างความเสียต่อราคาหุ้นเนื่องจากราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ในด้านนักลงทุนต่างประเทศอาจจะมีผลกระทบในเรื่องเวลาการซื้อขายที่จากเดิมเคยซื้อขายได้ทันที แต่ต้องส่งคำสั่งซื้อขายล่าช้าออกไป
“สาเหตุที่ระบบขัดข้องไม่น่าจะเกิดจากกรณีหุ้น 2S ที่เข้าเทรดวันแรก แต่ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวกระทบคำสั่งซื้อขายต่างประเทศ ที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในช่วงเช้า ซึ่งคงต้องประเมินผลเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าวไม่มีผลกระทบในเรื่องของราคาหุ้น เพราะเราได้ขึ้นเครื่องหมาย H กับหุ้นทุกตัวแล้ว เพื่อให้เกดความยุติธรรมกับนักลงทุน” นายวิเชฐ กล่าว
โบรกฯอัดสะเพร่าทั้งตลท.และDST
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า มีสาเหตุมาจากระบบ DST ไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นของ บมจ. เซาท์เทิร์นสตีล (2S) ที่ใช้ชื่อย่อนำหน้าด้วยตัวเลขได้ จึงถือว่าเป็นความผิดพลาดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้มีการตรวจสอบทดลองระบบก่อน อีกทั้งไม่ได้มีการให้คำแนะนำกับผู้บริหารของเซาท์เทิร์นสตีล ในการกำหนดชื่อย่อหุ้นเข้าซื้อขาย ซึ่งโดยรวมเรื่องนี้ส่งผลให้ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายหุ้นของวานนี้ หายไป 1 ชั่วโมง
“ปัจจุบันระบบในการส่งคำสั่งซื้อขายของไทย มีผู้ให้บริการ 2 ราย คือ DST และ Freewill ซึ่งมีโบรกเกอร์ใช้บริการในสัดส่วนเท่ากัน50:50 โดยครั้งนี้ที่เกิดปัญหาคือ ของ DST ที่โปรแกรมไม่รองรับซื่อย่อหุ้นที่นำหน้าด้วยตัวเลข ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคือตลาดไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน และไม่ประสานงานกับ2S รวมถึง DST ทำให้เกิดปัญหา ที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายของตลาดหุ้นไทย" แหล่งข่าว กล่าว
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บล. คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ CGS กล่าวว่า ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเลื่อนเวลาเปิดการซื้อขายหุ้นออกไป เกิดจากระบบของDST หรือระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ทางบริษัทจะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบการซื้อขายของทาง Freewill ในอีก 1-2 เดือนนี้ เพราะ ได้มีการทำสัญญาใช้ระบบไปก่อนหน้านี้แล้ว
ด้าน นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กสิกรไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค และไม่ได้มีเหตุผลทางการเมืองหรือหรือปัจจัยอื่นๆ มาส่งผลกระทบกับการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้
ยืนยันผู้พัฒนาระบบผิดเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ออกมายืนยันว่า ว่าระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลท. มีประสิทธิภาพและมีความพร้อมในการรองรับการซื้อขายอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสากล รวมทั้ง มีระบบสำรองที่พร้อมรองรับกรณีเกิดปัญหา สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในการซื้อขายภาคเช้าวานนี้ เกิดจากระบบการส่งคำสั่งซื้อขายของบริษัทสมาชิกที่พัฒนาโดยผู้พัฒนาระบบรายหนึ่ง
ส่วนการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ ของ บมจ. เซาท์เทิร์นสตีล ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า “2S”นั้น ได้ตรวจสอบกับบริษัทสมาชิกทุกรายล่วงหน้า และสอบถามถึงความพร้อมของบริษัทสมาชิกแล้ว ซึ่งได้รับการยืนยันความพร้อมของระบบส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากผู้พัฒนาระบบให้บริษัทสมาชิก และจากบริษัทสมาชิกทุกรายมาโดยตลอด
ทั้งนี้ จากเหตุดังกล่าว สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้มีข้อเสนอแนะมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาในการซื้อขาย คณะกรรมการบริหารสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จึงขอเสนอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาเปลี่ยนชื่อหลักทรัพย์จาก 2S ให้ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเช่นปกติ
“เซาท์เทิร์นสตีล”ยอมเปลี่ยนชื่อ
โดยในที่สุด บมจ. เซาท์เทิร์นสตีล แจ้งว่า เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและลดความเสี่ยงในการแก้ไขปัญหาของบริษัทผู้พัฒนาระบบการส่งคำสั่งซื้อขายของบริษัทสมาชิก ทางบริษัทจึงขอแจ้งเปลี่ยนชื่อย่อในการหลักทรัพย์ใหม่ จาก “2S” เป็น “S2” โดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะทำการเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ของบริษัทตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนเป็นต้นไป
วานนี้ (2ก.ย.) มีรายงานว่า การเข้าซื้อหุ้นในกระดาน mai ครั้งแรกของ บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล (2S) มีเหตุต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดเวลาเดิม เนื่องจากระบบส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทสมาชิกจำนวนหนึ่ง เกิดขัดข้องไม่สามารถส่งคำสั่งเข้ามายังระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ได้ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดการซื้อขายภาคเช้า แม้ทางตลท.ได้เปิดระบบการส่งคำสั่งซื้อขายสำรองเพื่อให้สมาชิกที่มีปัญหาส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาแล้ว แต่ยังมีบริษัทสมาชิกบางรายที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงต้องเลื่อนเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ในวานนี้ โดย เปิดช่วง Pre-Open ในเวลา 10.30 น. และเปิดซื้อขายปกติได้อีกครั้งเมื่อเวลา 11.00 น. ขณะที่ในภาคบ่ายได้เปิดช่วง Pre-Open เมื่อ 14.00น.และเริ่มเปิดซื้อขายตั้งแต่ 14.30 - 16.30 น.
ส่วนการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ได้เลื่อนเวลาการเปิดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับตราสารทุนเป็นเวลา 10.45 น. ส่วนการซื้อขาย Gold Futures ได้เปิดซื้อขายตามปกติ เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้
ตลท.ย้ำนักลงทุนไม่เสียหาย
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลท. เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เปิดระบบการส่งคำสั่งซื้อขายสำรอง คือ ดีซีเทิร์มให้สมาชิกที่มีปัญหาส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามายังระบบแล้ว แต่ยังคงมีโบรกเกอร์บางรายที่ยังไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุน จึงต้องเลื่อนเวลาในการซื้อขายออกไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องมีการเลื่อนเปิดการซื้อขาย เป็นเพราะระบบการส่งคำสั่งซื้อขายจากผู้ให้บริการ DST เกิดมีปัญหา ซึ่งในระบบนี้มีโบรกเกอร์จำนวน 16 รายที่ใช้บริการและไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ อีกทั้งที่ผ่านมาระบบDST มีปัญหามาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเพื่อแก้ไขจะมีการสอบถามไปยังโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ เพื่อทบทวนในการใช้ระบบของDST ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนเวลาเปิดการซื้อขายออกไป 1 ชั่วโมงนั้น ไม่ได้ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเสียหาย เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯยังไม่เปิดให้มีการซื้อขายทั้งระบบ เพราะ ทุกคนจะสั่งคำสั่งซื้อขายพร้อมกัน จึงไม่สร้างความเสียต่อราคาหุ้นเนื่องจากราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ในด้านนักลงทุนต่างประเทศอาจจะมีผลกระทบในเรื่องเวลาการซื้อขายที่จากเดิมเคยซื้อขายได้ทันที แต่ต้องส่งคำสั่งซื้อขายล่าช้าออกไป
“สาเหตุที่ระบบขัดข้องไม่น่าจะเกิดจากกรณีหุ้น 2S ที่เข้าเทรดวันแรก แต่ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวกระทบคำสั่งซื้อขายต่างประเทศ ที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในช่วงเช้า ซึ่งคงต้องประเมินผลเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าวไม่มีผลกระทบในเรื่องของราคาหุ้น เพราะเราได้ขึ้นเครื่องหมาย H กับหุ้นทุกตัวแล้ว เพื่อให้เกดความยุติธรรมกับนักลงทุน” นายวิเชฐ กล่าว
โบรกฯอัดสะเพร่าทั้งตลท.และDST
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า มีสาเหตุมาจากระบบ DST ไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นของ บมจ. เซาท์เทิร์นสตีล (2S) ที่ใช้ชื่อย่อนำหน้าด้วยตัวเลขได้ จึงถือว่าเป็นความผิดพลาดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้มีการตรวจสอบทดลองระบบก่อน อีกทั้งไม่ได้มีการให้คำแนะนำกับผู้บริหารของเซาท์เทิร์นสตีล ในการกำหนดชื่อย่อหุ้นเข้าซื้อขาย ซึ่งโดยรวมเรื่องนี้ส่งผลให้ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายหุ้นของวานนี้ หายไป 1 ชั่วโมง
“ปัจจุบันระบบในการส่งคำสั่งซื้อขายของไทย มีผู้ให้บริการ 2 ราย คือ DST และ Freewill ซึ่งมีโบรกเกอร์ใช้บริการในสัดส่วนเท่ากัน50:50 โดยครั้งนี้ที่เกิดปัญหาคือ ของ DST ที่โปรแกรมไม่รองรับซื่อย่อหุ้นที่นำหน้าด้วยตัวเลข ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคือตลาดไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน และไม่ประสานงานกับ2S รวมถึง DST ทำให้เกิดปัญหา ที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายของตลาดหุ้นไทย" แหล่งข่าว กล่าว
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บล. คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ CGS กล่าวว่า ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเลื่อนเวลาเปิดการซื้อขายหุ้นออกไป เกิดจากระบบของDST หรือระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ทางบริษัทจะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบการซื้อขายของทาง Freewill ในอีก 1-2 เดือนนี้ เพราะ ได้มีการทำสัญญาใช้ระบบไปก่อนหน้านี้แล้ว
ด้าน นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กสิกรไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค และไม่ได้มีเหตุผลทางการเมืองหรือหรือปัจจัยอื่นๆ มาส่งผลกระทบกับการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้
ยืนยันผู้พัฒนาระบบผิดเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ออกมายืนยันว่า ว่าระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลท. มีประสิทธิภาพและมีความพร้อมในการรองรับการซื้อขายอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสากล รวมทั้ง มีระบบสำรองที่พร้อมรองรับกรณีเกิดปัญหา สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในการซื้อขายภาคเช้าวานนี้ เกิดจากระบบการส่งคำสั่งซื้อขายของบริษัทสมาชิกที่พัฒนาโดยผู้พัฒนาระบบรายหนึ่ง
ส่วนการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ ของ บมจ. เซาท์เทิร์นสตีล ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า “2S”นั้น ได้ตรวจสอบกับบริษัทสมาชิกทุกรายล่วงหน้า และสอบถามถึงความพร้อมของบริษัทสมาชิกแล้ว ซึ่งได้รับการยืนยันความพร้อมของระบบส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากผู้พัฒนาระบบให้บริษัทสมาชิก และจากบริษัทสมาชิกทุกรายมาโดยตลอด
ทั้งนี้ จากเหตุดังกล่าว สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้มีข้อเสนอแนะมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาในการซื้อขาย คณะกรรมการบริหารสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จึงขอเสนอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาเปลี่ยนชื่อหลักทรัพย์จาก 2S ให้ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเช่นปกติ
“เซาท์เทิร์นสตีล”ยอมเปลี่ยนชื่อ
โดยในที่สุด บมจ. เซาท์เทิร์นสตีล แจ้งว่า เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและลดความเสี่ยงในการแก้ไขปัญหาของบริษัทผู้พัฒนาระบบการส่งคำสั่งซื้อขายของบริษัทสมาชิก ทางบริษัทจึงขอแจ้งเปลี่ยนชื่อย่อในการหลักทรัพย์ใหม่ จาก “2S” เป็น “S2” โดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะทำการเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ของบริษัทตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนเป็นต้นไป
