ASTV ผู้จัดการรายวัน – คณะอนุกรรมการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมประชุมสัปดาห์นี้ อาจยกเลิกกันวงเงินลงทุนแมทชิ่งฟันด์ เหตุดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น-เชื่อวิกฤตผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ส่งผลนักลงทุนสถาบันไม่สนใจร่วมลงทุน ด้าน “วิเชฐ” ชี้หากเก็บเงินไว้อาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ คาดนำผลเสนอบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาภายในสิ้นเดือนนี้ แจงเงินที่ใส่ลงทุนไปแล้วช่วงดัชนี 300 จุด ได้ผลตอบแทนสูง หลังจากดัชนีหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40%
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการลงทุนจะมีการประชุมพิจารณาเรื่องวงเงินที่ตั้งงบร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน (แมทชิ่งฟันด์) จะยังคงกันไว้หรือไม่ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยและราคาหลักทรัพย์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนสถาบันไม่ให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุน เพราะการจัดตั้งกองทุนแมทชิ่งฟันด์จะเหมาะสมในช่วงที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงจำนวนมาก และราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการ (บอร์ด)ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาในการประชุมในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเสนอให้พิจารณาลดวงเงินในการร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ หรือจะยกเลิกวงเงินดังกล่าว แล้วนำไปลงทุนด้านอื่น แม้ว่าจะมีผู้ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3/52 แต่ถือเป็นเรื่องปกติที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง ไม่ใช่เกิดจากวิกฤตแต่อย่างใด
สำหรับการจัดตั้งกองทุนแมทชิ่งฟันด์จะได้รับความสนใจมากในช่วงที่เกิดวิกฤต ซึ่งส่วนตัวมองว่าวิกฤตได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว และตลาดหุ้นมีแนวโน้มในการปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงทำให้กองกทุนดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจ และหากยังคงตั้งงบลงทุนไว้โดยการฝากธนาคารพาณิชย์ไว้คงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ซึ่งคาดว่าบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาในการประชุมบอร์ดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
“จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในแมทชิ่งฟันด์ไม่ได้รับความสนใจ เพราะ แมทชิ่งฟันด์เหมาะสมที่จะลงทุนในช่วงวิกฤตราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่าวิกฤตได้ผ่านไปแล้ว จึงมองว่ากองทุนนี้คงไม่เหมาะสมแล้ว และการกันเงินไว้ในแบงก์คงจะไม่เกิดผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นคณะอนุกรรมการการลงทุนจะเสนอต่อบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ ให้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”
นายวิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ไปแล้วณ ขณะนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 300 จุด ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 40% มาอยู่ที่ระดับประมาณกว่า 500 จุด ทำให้ราคาหุ้นบางบริษัทได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 100%
“ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนแมทชิ่งฟันด์จะอยู่ที่เท่าใด เพราะต้องผลการประชุมสัปดาห์หน้าที่คณะอนุกรรมการฯจะมีการเสนอเรื่องกองทุนแมทชิ่งฟันด์ เพราะผู้จัดการกองทุนแต่ละแห่งจะนำข้อมามาเสนอต่อคณะอนุกรรม”
อนึ่งก่อนหน้านางนารี บุญธีรวร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งวงเงินที่จะลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของกองทุนเพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท จากวงเงินที่บอร์ดอนุมัติไว้ให้ลงทุนได้จำนวน 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงทุนในกองทุนไทยสร้างโอกาส 2 ไปแล้ว จำนวน 500 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ใน 2 กองทุน กองทุนละ 100 ล้านบาท คือ บลจ.เอ็มเอฟซี ส่วนอีกบลจ.หนึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุน
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมลงทุนกับบลจ.ไอเอ็นจี จำนวน 50 ล้านบาท และอีกจำนวน 200 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมไว้ลงทุนในกองทุนเพื่อนักลงทุนทั่วไป ในการลงทุนในบจ.ขนาดเล็ก และฟุตซี่ จากที่หุ้นขนาดเล็กมีผลประกอบการที่ดีและให้ผลตอบแทนที่ดีมีมากพอสมควร
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้มีการยกเลิกกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของนักลงทุนทั่วไปที่จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ที่ผ่านมานั้นภาวะตลาดหุ้นไม่ดีจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจ แต่เราก็ไม่ได้ปิด โดยขณะนี้มีนักลงทุนเริ่มสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กันเงินไว้จำนวน 200 ล้านบาทเพื่อร่วมลงทุนในกองทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป และกันเงินไว้ร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์เพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท” นางนารี กล่าว
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการลงทุนจะมีการประชุมพิจารณาเรื่องวงเงินที่ตั้งงบร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน (แมทชิ่งฟันด์) จะยังคงกันไว้หรือไม่ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยและราคาหลักทรัพย์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนสถาบันไม่ให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุน เพราะการจัดตั้งกองทุนแมทชิ่งฟันด์จะเหมาะสมในช่วงที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงจำนวนมาก และราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการ (บอร์ด)ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาในการประชุมในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเสนอให้พิจารณาลดวงเงินในการร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ หรือจะยกเลิกวงเงินดังกล่าว แล้วนำไปลงทุนด้านอื่น แม้ว่าจะมีผู้ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3/52 แต่ถือเป็นเรื่องปกติที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง ไม่ใช่เกิดจากวิกฤตแต่อย่างใด
สำหรับการจัดตั้งกองทุนแมทชิ่งฟันด์จะได้รับความสนใจมากในช่วงที่เกิดวิกฤต ซึ่งส่วนตัวมองว่าวิกฤตได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว และตลาดหุ้นมีแนวโน้มในการปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงทำให้กองกทุนดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจ และหากยังคงตั้งงบลงทุนไว้โดยการฝากธนาคารพาณิชย์ไว้คงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ซึ่งคาดว่าบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาในการประชุมบอร์ดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
“จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในแมทชิ่งฟันด์ไม่ได้รับความสนใจ เพราะ แมทชิ่งฟันด์เหมาะสมที่จะลงทุนในช่วงวิกฤตราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่าวิกฤตได้ผ่านไปแล้ว จึงมองว่ากองทุนนี้คงไม่เหมาะสมแล้ว และการกันเงินไว้ในแบงก์คงจะไม่เกิดผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นคณะอนุกรรมการการลงทุนจะเสนอต่อบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ ให้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”
นายวิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ไปแล้วณ ขณะนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 300 จุด ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 40% มาอยู่ที่ระดับประมาณกว่า 500 จุด ทำให้ราคาหุ้นบางบริษัทได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 100%
“ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนแมทชิ่งฟันด์จะอยู่ที่เท่าใด เพราะต้องผลการประชุมสัปดาห์หน้าที่คณะอนุกรรมการฯจะมีการเสนอเรื่องกองทุนแมทชิ่งฟันด์ เพราะผู้จัดการกองทุนแต่ละแห่งจะนำข้อมามาเสนอต่อคณะอนุกรรม”
อนึ่งก่อนหน้านางนารี บุญธีรวร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งวงเงินที่จะลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของกองทุนเพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท จากวงเงินที่บอร์ดอนุมัติไว้ให้ลงทุนได้จำนวน 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงทุนในกองทุนไทยสร้างโอกาส 2 ไปแล้ว จำนวน 500 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ใน 2 กองทุน กองทุนละ 100 ล้านบาท คือ บลจ.เอ็มเอฟซี ส่วนอีกบลจ.หนึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุน
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมลงทุนกับบลจ.ไอเอ็นจี จำนวน 50 ล้านบาท และอีกจำนวน 200 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมไว้ลงทุนในกองทุนเพื่อนักลงทุนทั่วไป ในการลงทุนในบจ.ขนาดเล็ก และฟุตซี่ จากที่หุ้นขนาดเล็กมีผลประกอบการที่ดีและให้ผลตอบแทนที่ดีมีมากพอสมควร
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้มีการยกเลิกกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของนักลงทุนทั่วไปที่จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ที่ผ่านมานั้นภาวะตลาดหุ้นไม่ดีจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจ แต่เราก็ไม่ได้ปิด โดยขณะนี้มีนักลงทุนเริ่มสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กันเงินไว้จำนวน 200 ล้านบาทเพื่อร่วมลงทุนในกองทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป และกันเงินไว้ร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์เพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท” นางนารี กล่าว