ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมตั้งหมวดอุตสาหกรรมต่างประเทศ รองรับบริษัทต่างประเทศเข้าจดทะเบียน คาดเสร็จภายในปีนี้ ด้านโสภาวดี แจง สมาคมบล.ขอเลื่อนออก “ทีซีอาร์” เหตุภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศไม่เอื้อ หวั่นนักลงทุนไม่สนใจส่งผลเสียหายโบรกเกอร์จากมีต้นทุนการดำเนินงานสูง แจง หากภาวะตลาดเอื้อนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการพิจารณาในการจัดตั้งหมวดอุตสาหกรรมใหม่ คือ หมวดอุตสาหกรรมต่างประเทศ (International Sector) เพื่อรองรับบริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่มีการสอบถามความสนใจบริษัทต่างประเทศแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดี
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจัดตั้งอินเตอร์เนชันแนลเซกเตอร์ได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องกฎเกณฑ์ เพราะตลาดลักทรัพย์ฯจะนำบริษัทต่างชาติที่มีการจดทะเบียนในต่างประเทศ 100% เข้ามาจดทะเบียน แต่ยังติดปัญหาบริษัทต่างประเทศนั้น มีการทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยด้วย จะมีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะต้องมีการหารือในเรื่องรายละเอียดต่อไป และคาดว่าจะมีบริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ 1 บริษัทในปีนี้ ซึ่งจะเป็นบริษัทในประเทศแถบอินโดจีนก่อน
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะจัดตั้งหมวดอุตสาหกรรมอินเตอร์ ขึ้น เพื่อรองรับบริษัทต่างชาติที่มีการทำธุรกิจในต่างประเทศ 100 % ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เพราะหากไม่มีการเพิ่มหมวดอุตสาหกรรม จะเกิดปัญหาว่ามีบริษัทต่างชาติแล้วมาแล้วและให้อยู่ในหมวดไหน อุตสาหกรรมอะไร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการไปพบบริษัทต่างประเทศแล้วในการชวนให้เข้ามาจดทะเบียน ซึ่งเขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่เข้ามา ซึ่งขณะนี้จะต้องมีการหารือรายละเอียดเพิ่มเติม” นายวิเชฐ กล่าว
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและ งานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าในการออกทำธุรกรรมซื้อขายใบรับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เปลี่ยนมือได้ (TCR) ว่า ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ฯ ได้มีการแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อขอชะลอการออก TCR ออกไปก่อน เนื่องจาก ภาวะการลงทุนต่างประเทศยังไม่ค่อยดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไป
ทั้งนี้ จะส่งผลให้โบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำเงินไปซื้อหุ้นต่างประเทศก่อนแล้วนำมาเสนอขายกับนักลงทุนทั่วไป และนำเข้าจดทะเบียนในต่างประเทศ จะได้รับความเสียหาย และมีผลขาดทุนจากการดำเนินการดังกล่าว จากที่มีต้นทุนการดำเนินการดังกล่าวที่สูง รวมถึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง ( มาร์เกตเมคเกอร์) และจะเป็นผู้นำบทวิเคราะห์จากต่างประเทศที่เกี่ยวกับหุ้นที่นำมาออกนั้นมาเผยแพร่แก่นักลงทุน
ขณะเดียวกัน ความต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนยังมีปริมาณน้อย หากนักลงทุนสนใจลงทุนต่างประเทศนั้น จะลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนต่างประเทศ (FIF) แทน ซึ่งการลงทุนใน FIF ขณะนี้ยังมีน้อยอยู่ อย่างไรก็ตาม หากภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศมีการปรับตัวดีขึ้น จะนำเรื่องการเสนอขาย TCR กลับมาพิจารณาอีกครั้ง
“สมาคมโบรกเกอร์ได้มีการขอให้มีการหยุดการออก TCR ไปก่อน จากภาวะตลาดหุ้นต่างไม่ค่อยดี ทำให้ต้องชะลอออกไปก่อน และความสนใจการลงทุนในต่างประเทศขณะนี้ยังน้อยอยู่ แต่หากภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาปรับตัวดีขึ้นก็จะกลับมาดูอีกครั้ง ” นางสาวโสภาวดี กล่าว
ก่อนหน้านี้คณะทำงานศึกษาการทำธุรกรรมซื้อขายใบรับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เปลี่ยนมือได้ (TCR) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ แจ้งว่า คณะทำงานฯได้มีการสำรวจความสนใจของบล.ในการ TCR ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจจำนวน 9 ราย คือ บล.กสิกรไทย บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บล.ซีมิโก้ บล.ดีบีเอส ฯ บล.ทิสโก้ บล.เอเซีย พลัส บล.พัฒนสิน บล.ไอ วี โกลบอล จำกัด บล.ซีไอเอ็มบี-จีเค ในการทำหน้าที่เป็นผู้ไปซื้อหุ้นต่างประเทศมาเพื่อที่จะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป และนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงทำหน้าที่ในการดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์)และจะเป็นผู้นำบทวิเคราะห์จากต่างประเทศเกี่ยวกับหุ้นที่นำมาออกนั้นมาเผยแพร่แก่นักลงทุนที่สนใจจะเข้าลงทุน
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการพิจารณาในการจัดตั้งหมวดอุตสาหกรรมใหม่ คือ หมวดอุตสาหกรรมต่างประเทศ (International Sector) เพื่อรองรับบริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่มีการสอบถามความสนใจบริษัทต่างประเทศแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดี
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจัดตั้งอินเตอร์เนชันแนลเซกเตอร์ได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องกฎเกณฑ์ เพราะตลาดลักทรัพย์ฯจะนำบริษัทต่างชาติที่มีการจดทะเบียนในต่างประเทศ 100% เข้ามาจดทะเบียน แต่ยังติดปัญหาบริษัทต่างประเทศนั้น มีการทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยด้วย จะมีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะต้องมีการหารือในเรื่องรายละเอียดต่อไป และคาดว่าจะมีบริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ 1 บริษัทในปีนี้ ซึ่งจะเป็นบริษัทในประเทศแถบอินโดจีนก่อน
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะจัดตั้งหมวดอุตสาหกรรมอินเตอร์ ขึ้น เพื่อรองรับบริษัทต่างชาติที่มีการทำธุรกิจในต่างประเทศ 100 % ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เพราะหากไม่มีการเพิ่มหมวดอุตสาหกรรม จะเกิดปัญหาว่ามีบริษัทต่างชาติแล้วมาแล้วและให้อยู่ในหมวดไหน อุตสาหกรรมอะไร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการไปพบบริษัทต่างประเทศแล้วในการชวนให้เข้ามาจดทะเบียน ซึ่งเขาไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่เข้ามา ซึ่งขณะนี้จะต้องมีการหารือรายละเอียดเพิ่มเติม” นายวิเชฐ กล่าว
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและ งานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าในการออกทำธุรกรรมซื้อขายใบรับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เปลี่ยนมือได้ (TCR) ว่า ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ฯ ได้มีการแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อขอชะลอการออก TCR ออกไปก่อน เนื่องจาก ภาวะการลงทุนต่างประเทศยังไม่ค่อยดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไป
ทั้งนี้ จะส่งผลให้โบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำเงินไปซื้อหุ้นต่างประเทศก่อนแล้วนำมาเสนอขายกับนักลงทุนทั่วไป และนำเข้าจดทะเบียนในต่างประเทศ จะได้รับความเสียหาย และมีผลขาดทุนจากการดำเนินการดังกล่าว จากที่มีต้นทุนการดำเนินการดังกล่าวที่สูง รวมถึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง ( มาร์เกตเมคเกอร์) และจะเป็นผู้นำบทวิเคราะห์จากต่างประเทศที่เกี่ยวกับหุ้นที่นำมาออกนั้นมาเผยแพร่แก่นักลงทุน
ขณะเดียวกัน ความต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนยังมีปริมาณน้อย หากนักลงทุนสนใจลงทุนต่างประเทศนั้น จะลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนต่างประเทศ (FIF) แทน ซึ่งการลงทุนใน FIF ขณะนี้ยังมีน้อยอยู่ อย่างไรก็ตาม หากภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศมีการปรับตัวดีขึ้น จะนำเรื่องการเสนอขาย TCR กลับมาพิจารณาอีกครั้ง
“สมาคมโบรกเกอร์ได้มีการขอให้มีการหยุดการออก TCR ไปก่อน จากภาวะตลาดหุ้นต่างไม่ค่อยดี ทำให้ต้องชะลอออกไปก่อน และความสนใจการลงทุนในต่างประเทศขณะนี้ยังน้อยอยู่ แต่หากภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมาปรับตัวดีขึ้นก็จะกลับมาดูอีกครั้ง ” นางสาวโสภาวดี กล่าว
ก่อนหน้านี้คณะทำงานศึกษาการทำธุรกรรมซื้อขายใบรับฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เปลี่ยนมือได้ (TCR) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ แจ้งว่า คณะทำงานฯได้มีการสำรวจความสนใจของบล.ในการ TCR ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจจำนวน 9 ราย คือ บล.กสิกรไทย บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บล.ซีมิโก้ บล.ดีบีเอส ฯ บล.ทิสโก้ บล.เอเซีย พลัส บล.พัฒนสิน บล.ไอ วี โกลบอล จำกัด บล.ซีไอเอ็มบี-จีเค ในการทำหน้าที่เป็นผู้ไปซื้อหุ้นต่างประเทศมาเพื่อที่จะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป และนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงทำหน้าที่ในการดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมคเกอร์)และจะเป็นผู้นำบทวิเคราะห์จากต่างประเทศเกี่ยวกับหุ้นที่นำมาออกนั้นมาเผยแพร่แก่นักลงทุนที่สนใจจะเข้าลงทุน
