คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เร่งหา บลจ.ระดมทุนนักลงทุนสถาบันร่วมลงทุนแมทชิ่งฟันด์ หลังจากที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ระบุ บลจ.2 แห่ง สนใจเข้าร่วมทุนกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ด้าน “นารี” ชี้ นักลงทุนสถาบันให้สนใจลงทุน จากภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นจากเชื่อผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดพอร์ตลงทุนตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนที่ดี หลังหุ้นยืนเหนือ 500 จุด
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้มีการหารือเกี่ยวกับกองทุนร่วมลงทุน (แมทชิ่งฟันด์) ที่ได้อนุมัติเงินในการร่วมลงทุนรวมจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยมีนโยบายให้หาผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อเข้ามาร่วมลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นจึงมีความเห็นร่วมกันให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการร่วมทุนกองทุนแมทชิ่งฟันด์ใหม่
“บอร์ดได้มีการประชุมวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเกี่ยวกับกองทุนแมทชิ่งฟันด์ที่ได้อนุมัติไปแล้วนั้น ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงมอบนโยบายให้ปรับเปลี่ยนด้วยการหาพาร์ทเนอร์ใหม่เข้ามาร่วมดำเนินการ” นายปกรณ์ กล่าวว่า
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 2 แห่งสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ซึ่งจะระดมทุนจากนักลงทุนสถาบัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพราะต้องรอให้ บลจ.ทั้ง 2 แห่ง มีการยื่นหนังสือแสดงความจำนงมาก่อน
นางนารี บุญธีรวร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีนักลงทุนสถาบันหลายรายมีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์ในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ เพราะภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับตลาดหลักทรัพย์จะร่วมลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์มีนโยบายที่จะมีการลงทุนระยะยาวในกองทุนดังกล่าว โดยขณะนี้มีบลจ.ให้ความสนใจที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารกองทุนและระดมเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันเพื่อมาลงทุน
สำหรับตลาดหลักทรัพย์นั้น ได้ตั้งวงเงินที่จะลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของกองทุนเพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท จากวงเงินที่บอร์ดอนุมัติไว้ให้ลงทุนได้จำนวน 2,000 ล้านบาท และที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้มีการลงทุนในกองทุนไทยสร้างโอกาส 2 ไปแล้ว จำนวน 500 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ใน 2 กองทุน กองทุนละ 100 ล้านบาท คือ บลจ.เอ็มเอฟซี ส่วนอีก บลจ.หนึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุน
นอกจากนี้ ได้มีการร่วมลงทุนกับ บลจ.ไอเอ็นจี จำนวน 50 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์เตรียมไว้ลงทุนในกองทุนเพื่อนักลงทุนทั่วไป ในการลงทุนในบจ.ขนาดเล็ก และฟุตซี่ จากที่หุ้นขนาดเล็กมีผลประกอบการที่ดีและให้ผลตอบแทนที่ดีมีมากพอสมควร
“ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีการยกเลิกกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของนักลงทุนทั่วไปที่จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่จากที่ผ่านมานั้นภาวะตลาดหุ้นไม่ดีจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจแต่เราก็ไม่ได้ปิด โดยขณะนี้มีนักลงทุนเริ่มสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯได้กันเงินไว้จำนวน 200 ล้านบาทเพื่อร่วมลงทุนในกองทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป และกันเงินไว้ร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์เพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท” นางนารี กล่าว
สำหรับการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 500 จุด นั้น เชื่อว่า พอร์ตการลงทุนในหุ้นของตลาดหลักทรัพย์จะมีผลตอบแทนการลงทุนกลับขึ้นจากที่ผ่านมาติดลบตามภาวะตลาดหุ้น ซึ่งคาดว่ามูลค่าพอร์ตการลงทุนจะเพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ลดลงมาเหลือ 8-9 พันล้านบาท
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้มีการหารือเกี่ยวกับกองทุนร่วมลงทุน (แมทชิ่งฟันด์) ที่ได้อนุมัติเงินในการร่วมลงทุนรวมจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยมีนโยบายให้หาผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อเข้ามาร่วมลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นจึงมีความเห็นร่วมกันให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการร่วมทุนกองทุนแมทชิ่งฟันด์ใหม่
“บอร์ดได้มีการประชุมวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเกี่ยวกับกองทุนแมทชิ่งฟันด์ที่ได้อนุมัติไปแล้วนั้น ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงมอบนโยบายให้ปรับเปลี่ยนด้วยการหาพาร์ทเนอร์ใหม่เข้ามาร่วมดำเนินการ” นายปกรณ์ กล่าวว่า
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 2 แห่งสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ซึ่งจะระดมทุนจากนักลงทุนสถาบัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพราะต้องรอให้ บลจ.ทั้ง 2 แห่ง มีการยื่นหนังสือแสดงความจำนงมาก่อน
นางนารี บุญธีรวร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีนักลงทุนสถาบันหลายรายมีความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์ในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ เพราะภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับตลาดหลักทรัพย์จะร่วมลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์มีนโยบายที่จะมีการลงทุนระยะยาวในกองทุนดังกล่าว โดยขณะนี้มีบลจ.ให้ความสนใจที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารกองทุนและระดมเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันเพื่อมาลงทุน
สำหรับตลาดหลักทรัพย์นั้น ได้ตั้งวงเงินที่จะลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของกองทุนเพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท จากวงเงินที่บอร์ดอนุมัติไว้ให้ลงทุนได้จำนวน 2,000 ล้านบาท และที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้มีการลงทุนในกองทุนไทยสร้างโอกาส 2 ไปแล้ว จำนวน 500 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ใน 2 กองทุน กองทุนละ 100 ล้านบาท คือ บลจ.เอ็มเอฟซี ส่วนอีก บลจ.หนึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุน
นอกจากนี้ ได้มีการร่วมลงทุนกับ บลจ.ไอเอ็นจี จำนวน 50 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์เตรียมไว้ลงทุนในกองทุนเพื่อนักลงทุนทั่วไป ในการลงทุนในบจ.ขนาดเล็ก และฟุตซี่ จากที่หุ้นขนาดเล็กมีผลประกอบการที่ดีและให้ผลตอบแทนที่ดีมีมากพอสมควร
“ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีการยกเลิกกองทุนแมทชิ่งฟันด์ในส่วนของนักลงทุนทั่วไปที่จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่จากที่ผ่านมานั้นภาวะตลาดหุ้นไม่ดีจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความสนใจแต่เราก็ไม่ได้ปิด โดยขณะนี้มีนักลงทุนเริ่มสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯได้กันเงินไว้จำนวน 200 ล้านบาทเพื่อร่วมลงทุนในกองทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป และกันเงินไว้ร่วมลงทุนในกองทุนแมทชิ่งฟันด์เพื่อนักลงทุนสถาบันจำนวน 500-1,000 ล้านบาท” นางนารี กล่าว
สำหรับการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 500 จุด นั้น เชื่อว่า พอร์ตการลงทุนในหุ้นของตลาดหลักทรัพย์จะมีผลตอบแทนการลงทุนกลับขึ้นจากที่ผ่านมาติดลบตามภาวะตลาดหุ้น ซึ่งคาดว่ามูลค่าพอร์ตการลงทุนจะเพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ลดลงมาเหลือ 8-9 พันล้านบาท