แกนนำ 40 ส.ว.เสนอที่ประชุมวุฒิสภา ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจเพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดวุ่นวาย ขณะที่ ส.ว.เลือดขึ้นหน้า รัฐบาลไม่ให้ความสนใจการอภิรายขู่คว่ำงบประมาณ จนทำให้มีการพักการประชุมเป็นระยะๆ
วันนี้ (14 ก.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ก่อนเข้าระเบียบวาระการประชุม นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.หารือว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ อาทิ การปาระเบิดบ้านกรรมการ ป.ป.ช. และต่อมาอดีต ผบ.สส.คนหนึ่งก็ยุให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร นอกจากนี้มีโรงเรียนบางแห่งอบรมให้มีการสถาปนารัฐไทยขึ้น รวมทั้งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงมีการทะเลาะกัน ถือเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้น ขณะที่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเงิน 7.6 หมื่นล้านบาท ของบางคนที่ถูกอายัดทรัพย์สิน และพยายามเร่งให้มีคำพิพากษาเพื่อทวงคืนเงินจำนวนนี้ ตนจึงขอสนับสนุนให้ใช้สันติวิธีในการรับมือกับคนทุกกลุ่มที่เตรียมเคลื่อนไหว และรัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูประบบตำรวจซึ่งถือเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดของการปฏิบัติหน้าที่มิชอบกับตำรวจกลุ่มดังกล่าวแล้ว
ต่อมาได้หยิบยกวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 ที่สภาผู้แทนให้ความเห็นชอบแล้ว โดยมี ส.ว.แจ้งความจำนงใช้สิทธิอภิปรายจำนวน 51 คน ซึ่งประธานได้กำหนดเวลาให้อภิปรายคนละ 15 นาที โดยในช่วงแรกของการอภิปรายยังไม่มีตัวแทน ครม.มาร่วมฟังการอภิปรายแต่อย่างใด
จากนั้น นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ อภิปรายเป็นคนแรก โดยได้ตั้งข้อสังเกตของการจัดสรรงบประมาณในหมวดยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและการกระตุ้นแศรษฐกิจจำนวนกว่า 143 ล้านบาท ว่าขณะนี้ปัญหาบ้านเมืองเกิดความแตกแยก บั่นทอนความเข้มแข็งของคนในชาติ และไม่มีแนวโน้มยุติลง แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แต่ตนเห็นว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รัฐบาลต้องมีมีท่าทีที่เป็นมิตร ต้องพูดจากับคนไทยทุกกลุ่มไม่ว่าสีใด ปัญหาจะยุติได้ด้วยการเจรจา ตรงกันข้ามหากยังมีการไล่ล่า ท้ารบ ไม่ว่าจะจัดงบประมาณลงไปเท่าไหร่ก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนท่าที
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช อภิปรายว่า การตั้งบประมาณของรัฐบาลไม่มีจินตนาการ และมีความซ้ำซ้อนในการจัดสรร เช่น การจัดงบวิจัยมีความซ้ำซ้อนกัน และหลายตัวไม่ได้สะท้อนว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีปัญหาของเยาวชน โดยเฉพาะแก๊งเด็กปาหินที่ระบาดไปทั่วประเทศ นอกจากปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในโรงเรียนต่างๆ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ลุกขึ้นกล่าวด้วยความไม่พอใจที่ยังไม่เห็นมีคณะรัฐมนตรีมาร่วมรับฟังด้วย ฟังแล้วเซ็ง ไม่รู้ว่าพูดให้ใครฟัง ไม่รู้จะพูดกันไปทำไม ไม่รู้ว่าการตกลงกันอะไรหรือไม่ ตนขอเสนอให้พักการประชุม แต่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ชี้แจงว่า มีตัวแทน ครม.มาร่วมรับฟังการอภิปรายแล้ว แต่อาจไม่ได้อยู่ในห้อง และการประชุมวันนี้มีการถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง 11 ด้วย ขณะที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้เข้ามาในห้องประชุม และชี้แจงว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพิจารณางบประมาณ และจะมีตัวแทน ครม.มานั่งฟังกันเป็นระยะ
นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี กล่าวว่า ไม่ทราบรัฐบาลย่ามใจไปหรือเปล่าที่คิดว่าอย่างไรวุฒิสภาก็ต้องลงมติให้ผ่าน จึงไม่สนใจฟังกัน ฝากประธานไปบอกรัฐบาลว่าควรให้ความสนใจมากกว่านี้ ส.ว.ได้หารือกันแล้วอยากสร้างประวัติสักครั้งด้วยการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ทำให้นายนิคมกล่าวว่า หากรัฐมนตรีมาแล้ว ขอให้เข้ามานั่งในห้องประชุมสภา เพื่อฟังการอภิปรายของสมาชิกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภาวันนี้ บรรดา ส.ว.ได้ลุกท้วงติงด้วยความไม่พอใจที่ไม่มีนายกฯ หรือตัวแทน ครม.มาร่วมรับฟังการอภิปราย โดยมีการเสนอให้พักการประชุมเป็นระยะ เริ่มจากนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา จนมาถึงนายเรืองไกร ทำให้จากนั้นมีรัฐมนตรีสลับกันเข้ามานั่งฟังการอภิปรายอยู่ในห้องประชุม
