xs
xsm
sm
md
lg

วงเสวนาเห็นพ้อง “ทักษิณ” ต้นตอปัญหาการเมืองไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วงเสวนารุมจวก “แม้ว” ต้นตอปัญหาการเมืองไทย “สายหยุด” วอนลูก-เมีย อ้อน “แม้ว” เลิกเล่นการเมือง รับกระบวนการ ยธ. ด้าน “วสิษฐ” ปูดฟอกเงินผ่านบัญชีแบงก์หวังป่วนประเทศ ระบุ “ทักษิณ” รู้วิธีสร้างศรัทธาให้ตนเอง ขณะที่ “อมร” ชี้ปัญหาการเมืองไทยเกิดจากนายทุนธุรกิจครอบงำ เสนอปฏิรูปการเมืองแก้ รธน. 2 ส่วน


วันนี้ (5 ก.ย.) ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย จัดสัมมนา เรื่อง”การปฏิรูปการเมืองกับอนาคตของประเทศไทย” โดย พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้นไม่ได้หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยุติการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยอาศัยกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งคนเสื้อแดงหลายคนมีความรู้ความสามารถ บางคนเป็น ส.ส. บางคนเคยเข้าป่ามา แต่ตนก็ไม่รู้ว่าคิดกันอย่างไร หรือเป็นเพราะหลงทาง การกระทำที่เป็นอยู่ขณะนี้ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง แกนนำที่เป็นนักการเมืองควรตั้งสติ รับใช้ประเทศชาติมากกว่าที่จะรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ แกนนำเสื้อแดงบางคนกลัวความผิดพยามดึง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯเพื่อช่วยให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะเคารพคนไทยต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมและไม่ให้ใช้อำนาจ เราคงไม่ให้ใครมาใช้อำนาจเผด็จการ

พล.อ.สายหยุด กล่าวว่า ทุกวันนี้มีกลุ่มบุคคลสร้างความปั่นป่วน ทำลายเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้รัฐบาลทำงานได้จึงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง แม้จะได้ผลแต่เอาเข้าจริงอาจไม่ได้ผลเพราะความดื้อ ซึ่งสุดท้ายกลุ่มเสื้อแดงก็จะเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็ไม่แน่อาจมีทหารแตกแถวอออกมาปฏิวัติ เมื่อถึงตอนนั้นบ้านเมืองล่มจมแน่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้โดยทหารไม่กี่คนเพราะในอดีตก็เคยมีบทเรียนมาแล้วโดยมีทหารเพียง 21 คนทำการปฏิวัติ ดังนั้นอย่าประมาทเรื่องนี้ นอกจากนี้กลุ่มคนบางคนที่ทำการเคลื่อนไหวก็เพื่อตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก็ไม่ว่ากันเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่อย่าเอาบ้านเมืองมาตอบแทนบุญคุณ

พล.ต.อ.สายหยุด กล่าวว่า ขออ้อนวอนให้ลูกและภรรยาบอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เลิกเล่นการเมืองและยุติความเคลื่อนไหวทางการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณรู้เหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศไทย เพราะทราบจากคนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนฉลาด ควรนำเอาความฉลาดมาช่วยคนไทย หากพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา เชื่อว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณควรจะยอมรับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเชื่อว่า ศาลยุติธรรมจะมีความเมตตา เนื่องจากเป็นคนที่สร้างคุณงามความดีของประเทศ ซึ่งหากยอมรับ พ.ต.ท.ทักษิณจะมีความสุขมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ไม่มีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยตอนนี้นอกจากคนไทยที่ต้องร่วมมือกันในทางที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอุปสรรคแต่ก็เป็นแค่ชั่วคราวซึ่งสามารถป้องกันได้ หากคนได้รู้ และทันเกม ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มทักษิณได้ใช้กลยุทธ์ทุกอย่างเพื่อให้ได้ชัยชนะ เช่น การใช้ยุทธการการโกหก ไม่เป็นความจริงและใช้ซ้ำซาก นอกจากนี้ยังมีการใช้สื่อซึ่งสามารถกระจายออกไปได้ไกลและมีเครือข่ายมาก โดยเบื้องหลังของการใช้สื่อคือ เงิน แต่ตนไม่แน่ใจว่า เงินที่อยู่เบื้องหลังการทำลายบ้านเมืองมีมากมายแค่ไหน เท่าที่ได้รับทราบข้อมูลเป็นเงินที่ฟอกแล้วนำไปซุกไว้ที่ต่างประเทศซึ่งมีจำนวนมาก แต่มีคนให้ข่าวแม้ไม่ยืนยันก็เชื่อถือได้ว่า มีการใช้วิธีการโดยผ่านบัญชีธนาคารที่ไม่มีการเคลื่อนไหวด้วยการโอนเงินเข้าช่วงเช้า และถอนเงินออกในช่วงเย็น แล้วทำลายหลักฐานการโอนเงินเข้าเงินออกก่อนที่เจ้าของบัญชีจะรู้ตัว

พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่า หากทักษิณทำสงครามแบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งขาดปัจจัยหลายอย่าง คือ ขาดความเป็นผู้นำประชาธิปไตย เพราะพื้นเพเป็นนายทุนที่เข้ามาสู่ระบบมหาอำมาตย์ โดยใช้วิธีทางลัดเพื่อนำประชาชนมาต่อสู้ อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณขาดอุดมการณ์ ไม่ตระหนักถึงทุกข์ของประชาชน แต่พ.ต.ท.ทักษิณ รู้จักใช้วิธีการที่ดึงประชาชนมาศรัทธาในตนเอง ที่เป็นเช่นนี้เพราะอำนาจเผด็จการที่ยึดการปกครองประเทศมาอย่างยาวนานและผูกขาด โดยที่ไม่ให้การศึกษากับประชาชนให้เข้าใจการเมือง ไม่สร้างประชาชนให้เติบโตเพื่อดูแลบ้านเมืองและพัฒนาประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนถูกกด เมื่อถึงยุคพ.ต.ท.ทักษิณก็สำเร็จ เพราะประชาชนเงยหน้ารับ ทักษิณก็ไห้ ดังนั้นหากประชาชนรู้ทันนักการเมืองก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แนวทางที่แก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการให้การศึกษากับประชาชน

ศจ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ นักวิชาการด้านกฎหมาย กล่าวว่า ตนเชื่อว่า แม้พ.ต.ท.ทักษิณจะยุติความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ เพราะในอนาคตเราไม่รู้ได้ว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศจะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์เหมือนพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะสภาพการเมืองไทยและสภาพสังคมไทยอยู่ในลักษณะระบบเผด็จการโดยพรรคการเมืองนายทุนนักธุรกิจในระบบรัฐสภาเมื่อปี 2535 ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นและทำให้เกิดความเสื่อมของการเมืองไทยและสังคมไทย มีการทุจริตคอร์รัปชั่นและการแสวงหาผลประโยชน์ทั้งทางตรง ทางอ้อม และทางนโยบาย จากบรรดานักการเมืองนายทุนนักธุรกิจ รวมทั้งการใช้อำนาจในสภาผู้แทนราษฏรทำการแก้ไขกฎหมาย ตราพระราชบัญญัติเพื่อให้ตนเองขายสิทธิ ผูกขาดในสัมปทานที่เป็นทรัพยากรของชาติ ซึ่งกลุ่มนักการเมืองที่มีเสียงข้างมากผูกขาดโดยการใช้เงินเข้าแลก หากไม่มีการแก้ไขการแข่งขันด้วยการใช้เงินจะมากมหาศาล โดยที่ใครมีเงินมากก็ชนะการเมืองไทยก็กลับมาสู่วังวนเดิม ในส่วนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ได้จัดตั้งพรรคการเมืองก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้ แต่จะเป็นการทำลายตนเอง

ศ.ดร.อมร กล่าวว่า การปฏิรูปการเมืองไม่ใช่เรื่องของการไปสอบถามความเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียคือนักการเมือง แต่การปฏิรูปการเมืองจำเป็นต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ 2 ครั้งคือ จัดตั้งองค์กรเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันอุปสรรคที่มาจากพฤติกรรมของคนที่จะมาร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และสามารถแก้ไขปัญหาการเมืองของประเทศได้หรือไม่ ทั้งนี้การปฏิรูปการเมืองตั้งทำไปพร้อมๆกับระบบกฎหมายและบริหารพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการยุติธรรม

“การปฏิรูปการเมือง เป็นการแก้ปัญหาระยะยาวเพื่ออนาคตของคนทั้งประเทศ ซึ่งสำคัญมากกว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในปัจจุบัน โดยที่จะต้องทำอย่างรวดเร็วที่สุด แต่ปัญหาอยู่ที่ใครเป็นผู้เสียสละที่จะมาปฏิรูปการเมืองให้คนไทย” ศจ.อมร กล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น