xs
xsm
sm
md
lg

“อภิชาต” ฉุนถูกฟ้องขึ้นบินเก็บชั่วโมง ลั่นพร้อมสู้ในชั้นศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.
“อภิชาต” ฉุนถูกฟ้องขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาต ลั่นพร้อมสู้ในศาล ระบุโทษอาญาต้องดูเจตนา เชื่อไม่กระทบต่อหน้าที่ประธาน กกต.เชื่อเรื่องจิ๊บจ๊อย

วันนี้ (31 ส.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวว่า อธิบดีสำนักงานอัยการเขต 5 จะพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดลำพูน กรณีที่ใช้เครื่องบินขึ้นทำการบินโดยไม่ได้ขออนุญาตต่อ รมว.คมนาคม ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานและคิดว่าจบไปแล้ว เนื่องจากในวันและเวลาดังกล่าว ตนเดินทางไปตรวจราชการที่ภาคเหนือ จากนั้น กกต.จว.เชียงใหม่ ในขณะนั้นเห็นว่า ตนจะต้องทำการบินให้ได้ครบชั่วโมงบิน เพื่อใช้ในการต่ออายุใบอนุญาตการบิน จึงเชิญไปทำการบินที่โรงเรียนการบินแห่งหนึ่ง ซึ่งตนก็ได้ขึ้นบินและไปลงที่ จ.ลำปาง โดยได้มีการลงชื่อบันทึกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดการบินดังกล่าว เนื่องจากตนมีใบอนุญาตถูกต้องทุกประการ ซึ่งปัจจุบันได้รับปีกชั้นหนึ่งและมีชั่วโมงบินสูงถึง 270 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นหากมีการสั่งฟ้องตนก็พร้อมต่อสู้ในชั้นศาล

“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องจิ้บจ๊อย ผมพร้อมจะเดินทางไปชี้แจงต่อศาล เพราะการขึ้นบินของตัวเองใช้เครื่องบินของสมาคมการบินเชียงใหม่ ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ประกอบกับตัวเองก็มีใบอนุญาตการบินถูกต้อง ซึ่งการขออนุญาตทำการบินในแต่ละเส้นทาง ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสมาคมที่จะต้องดำเนินการ เมื่อเขาเชิญผมไปบิน ผมก็ไป และเห็นว่า เป็นสมาคมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไปถึงเขาก็ส่งกุญแจให้ ผมก็ขึ้นบินเลย เพราะถ้าหากก่อนจะบินถึงขนาดต้องขอดูไลเซน ทั้งที่มีการเปิดเป็นสมาคมใหญ่โต ก็คงไม่ต้องบินกันพอดี ส่วนจะมาอ้างว่าเครื่องบินดังกล่าวจะเป็นของเอกชนหรือบุคคล คือ นายแต่ง ตันติพันธุ์พิพัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องบิน ไม่ใช่ของสมาคมนั้น ก็เป็นเรื่องสมาคมกับนายแต่งที่ต้องไปว่าในเรื่องของการโอนเครื่องบิน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องของการขาดเจตนา เป็นโทษแค่ปรับ เนื่องจากคนที่กระทำผิดทางอาญาต้องมีเจตนาด้วย เช่น เราเห็นรถแท็กซี่ขับมา ติดป้ายทะเบียนตามกฎหมาย แต่เราก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องรถเถื่อนหรือไม่ ผมเคยเป็นถึงผู้พิพากษา จะไปทำผิดกฎหมายด้วยเรื่องแค่นี้ได้อย่างไร” นายอภิชาต กล่าว

นายอภิชาต กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนไม่อยากคิดเป็นเรื่องการเมือง และทำให้ต้องลงจากเก้าอี้ประธานกกต. เพราะไม่ใช่เรื่องทุจริตกรณีเลือกตั้งหรือทุจริตในการทำหน้าที่ ฉะนั้นไม่มีผลต่อการทำหน้าที่ กกต.และคิดว่าคนทั่วไปน่าจะเข้าใจ และคงไม่มีใครเอาเรื่องเช่นนี้มาเรียกร้องให้ตนลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ชอบธรรมและ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ประกอบกับเรื่องนี้เกิดมานานแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 ซึ่งในวันที่ 6 มิ.ย.2551 อธิบดีกรมขนส่งทางอากาศได้มีหนังสือมาที่ตน เพื่อให้ชี้แจงกรณีดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกับไปเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2551 และเรื่องก็เงียบไป จากนั้นเมื่อไปราชการที่จ.เชียงใหม่ พนักงานสอบสวนก็ได้มาสอบถาม ตนก็ได้ชี้แจงและคิดว่าเรื่องคงจะจบ แต่เมื่อเรื่องไปจบก็ต้องชี้แจงกับทางศาล

นายอภิชาต กล่าวอีกว่า หลังจากมีเรื่องนี้เกิดขึ้น คงต้องสาปส่งกับการไปขึ้นบินกับภาคเอกชน ตนขอเลือกไปบินกับกองทัพอากาศจะสบายใจกว่า ซึ่งกองทัพอากาศก็เชิญไปบินอยู่หลายครั้ง อีกทั้งตนก็มีสถานะเป็นนักบินสำรอง ซึ่งหากมีสงครามก็ต้องมีหน้าที่รับใช้ชาติเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ก็เคยได้รางวัลชนะเลิศในการแข่งแรลลี่ทางอากาศในโครงการนางสาวสยามเมื่อปี พ.ศ.2546
กำลังโหลดความคิดเห็น