นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเตรียมการลงพื้นที่ในจ.บุรีรัมย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในวันเสาร์ที่ 11 ก.ค.ว่า นายอภิสิทธิ์ จะเดินทางลงไปตรวจโครงการไทยเข็มแข็ง และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อ ชาวบุรีรัมย์ เชื่อว่าชาวบ้านจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดี คงไม่มีชาวบ้านคนไหน ต้องการให้คนในพื้นที่อื่นๆ เข้ามาสร้างความวุ่นวายและคิดจะต่อต้านการพัฒนาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
สำหรับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้นขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทย ได้มีการวางแผนดูแลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุรุนแรง และไม่มีทางที่ พรรคภูมิใจไทยจะหน้าแตกแน่นนอน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายเนวิน ชิดชอบ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เป็นคนเชิญนายกรัฐมนตรี และเรื่องนี้นายเนวินก็ไม่เคยพูดถึงด้วย
มีข่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงแสดงเจตนาที่จะไปชุมนุมต่อต้านการลงพื้นที่ ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ แต่สิ่งที่ทางจังหวัดหรือกลุ่มส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยใน จ.บุรีรัมย์ ได้พยายามอธิบายให้ประชาชนได้ฟังคือการที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามสกัดไมให้นายกรัฐมนตรีและบรรดารัฐมนตรีไปพบหรือดูปัญหาของประชาชนหรือการสกัดไม่ให้ไปดูโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถือเป็นการขัดขวางการเข้าพัฒนาพื้นที่ภาคอีสาน เราได้ชี้แจงว่าการทำเช่นนั้นไม่เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อประชาชน เพราะเท่ากับว่า เป็นการทำให้นายกฯและรัฐมนตรีไม่มีโอกาสได้ไปรับทราบสภาพปัญหาด้วยตาตัวเอง อีกทั้งเป็นเกินเลยสิทธิของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ จึงขอร้องประชาชนว่าอย่าไปร่วมมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมสกัดกั้น
นายศุภชัย กล่าวย้ำว่าทราบว่าได้มีการจัดสร้างกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้าไปใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยากขอร้องต่อผู้ที่จะไปยังจ.บุรีรัมย์ว่า อย่าไปเลย เพราะจะเป็นการไปทำลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบุรีรัมย์จากการที่นายกฯจะลงพื้นที่ครั้งนี้
จะไม่มีการตั้งกลุ่มมวลชนเสื้อสีน้ำเงิน เพราะต้องเข้าใจว่าในจังหวัดดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยและมีเสื้อสีน้ำเงินอยู่แล้ว โดยจะไม่มีการจัดตั้งอะไรทั้งสิ้น แต่จะมีประชาชนไปรอต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยไม่กำหนด ว่าต้องใส่เสื้อสีน้ำเงินหรือไม่ แต่วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีเสื้อสีน้ำเงิน ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ สันติ สามัคคี แต่ถ้าสีอื่นเขาไปกันและมีเจตนาที่เป็นการประสงค์ร้าย ก็เป็นการแยกระหว่างความดีกับความชั่ว
เมื่อถามว่าการสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้าไปอาจถูกมองว่าเป็นม็อบกันชน นายศุภชัย กล่าวว่า คำว่าม็อบหมายถึงฝูงชนบ้าคลั่ง แต่ถ้าเข้ามารวมกลุ่มกันของประชาชน ในการทำสิ่งที่ดีงาม ซึ่งการที่นายกฯมาเยี่ยมถึงบ้านของเขาถือเป็นความภาคภูมิใจ ของเขา เขาก็จะแสดงการต้อนรับคนที่เป็นนายกฯ แต่ไม่ได้บอกว่าจะต้องสวมเสื้อกันโดยความตั้งใจ
นางพรทิวา นาคาศัย รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนคงไม่ได้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์กับนายกรัฐมนตรี ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย เตรียมใช้กลยุทธ์เหมือนสกลนคร โมเดล ลงทุกพื้นที่ในภาคอีสานยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรค ส่วนเรื่งการเตรียมตัวผู้สมัครนั้นเนื่องจากตนเป็นพรรคการเมืองใหม่ต้องเตรียมไว้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม ครม.วานนี้ (9 ก.ค.) มีการหารือกันถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในฐานะเจ้าของพื้นที่ โดยยืนยันว่าในพื้นที่ทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมตอนรับนายกรัฐมนตรีเต็มที่
นายขยัน วิพรหมชัย ส.ส.จังหวัดลำพูนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลง พื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ในจังหวัดต่อไปว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เลือกลงภาคอีสานที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ถ้าเป็นภาคเหนือนั้นตนได้เสนอให้นายกมาลงพื้นที่ที่จ.ลำพูน ในเขตพื้นที่ของตน ซึ่งไม่ถือว่าเป็นที่สีแดง เพราะถ้าเป็นสีแดงจริงทำไมตนถึงได้เป็น ส.ส. อย่างไรก็ตามคงหลีกเลี่ยงที่จะมีคนมาไล่นายกฯไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของประชาชน แต่ก็เชื่อว่าถ้ามาลำพูนก็จะไม่มีความรุนแรงแน่นอน
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่านายอภสิทธิ์ ควรให้ความสนใจการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 มากกว่าจะไปลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตนอยากถามว่าการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เกี่ยวข้องกับประเทศชาติแค่ไหน สิ่งที่รัฐบาลควรจะเร่งทำคือ การสร้างความเชื่อมั่นและให้ความสำคัญกับประชาชนในเรื่อง ไข้หวัดใหญ่มากกว่า
สำหรับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยนั้นขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทย ได้มีการวางแผนดูแลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุรุนแรง และไม่มีทางที่ พรรคภูมิใจไทยจะหน้าแตกแน่นนอน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายเนวิน ชิดชอบ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เป็นคนเชิญนายกรัฐมนตรี และเรื่องนี้นายเนวินก็ไม่เคยพูดถึงด้วย
มีข่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงแสดงเจตนาที่จะไปชุมนุมต่อต้านการลงพื้นที่ ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ แต่สิ่งที่ทางจังหวัดหรือกลุ่มส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยใน จ.บุรีรัมย์ ได้พยายามอธิบายให้ประชาชนได้ฟังคือการที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามสกัดไมให้นายกรัฐมนตรีและบรรดารัฐมนตรีไปพบหรือดูปัญหาของประชาชนหรือการสกัดไม่ให้ไปดูโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถือเป็นการขัดขวางการเข้าพัฒนาพื้นที่ภาคอีสาน เราได้ชี้แจงว่าการทำเช่นนั้นไม่เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อประชาชน เพราะเท่ากับว่า เป็นการทำให้นายกฯและรัฐมนตรีไม่มีโอกาสได้ไปรับทราบสภาพปัญหาด้วยตาตัวเอง อีกทั้งเป็นเกินเลยสิทธิของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ จึงขอร้องประชาชนว่าอย่าไปร่วมมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมสกัดกั้น
นายศุภชัย กล่าวย้ำว่าทราบว่าได้มีการจัดสร้างกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อเข้าไปใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยากขอร้องต่อผู้ที่จะไปยังจ.บุรีรัมย์ว่า อย่าไปเลย เพราะจะเป็นการไปทำลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบุรีรัมย์จากการที่นายกฯจะลงพื้นที่ครั้งนี้
จะไม่มีการตั้งกลุ่มมวลชนเสื้อสีน้ำเงิน เพราะต้องเข้าใจว่าในจังหวัดดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยและมีเสื้อสีน้ำเงินอยู่แล้ว โดยจะไม่มีการจัดตั้งอะไรทั้งสิ้น แต่จะมีประชาชนไปรอต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยไม่กำหนด ว่าต้องใส่เสื้อสีน้ำเงินหรือไม่ แต่วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีเสื้อสีน้ำเงิน ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ สันติ สามัคคี แต่ถ้าสีอื่นเขาไปกันและมีเจตนาที่เป็นการประสงค์ร้าย ก็เป็นการแยกระหว่างความดีกับความชั่ว
เมื่อถามว่าการสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้าไปอาจถูกมองว่าเป็นม็อบกันชน นายศุภชัย กล่าวว่า คำว่าม็อบหมายถึงฝูงชนบ้าคลั่ง แต่ถ้าเข้ามารวมกลุ่มกันของประชาชน ในการทำสิ่งที่ดีงาม ซึ่งการที่นายกฯมาเยี่ยมถึงบ้านของเขาถือเป็นความภาคภูมิใจ ของเขา เขาก็จะแสดงการต้อนรับคนที่เป็นนายกฯ แต่ไม่ได้บอกว่าจะต้องสวมเสื้อกันโดยความตั้งใจ
นางพรทิวา นาคาศัย รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนคงไม่ได้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์กับนายกรัฐมนตรี ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย เตรียมใช้กลยุทธ์เหมือนสกลนคร โมเดล ลงทุกพื้นที่ในภาคอีสานยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรค ส่วนเรื่งการเตรียมตัวผู้สมัครนั้นเนื่องจากตนเป็นพรรคการเมืองใหม่ต้องเตรียมไว้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม ครม.วานนี้ (9 ก.ค.) มีการหารือกันถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในฐานะเจ้าของพื้นที่ โดยยืนยันว่าในพื้นที่ทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมตอนรับนายกรัฐมนตรีเต็มที่
นายขยัน วิพรหมชัย ส.ส.จังหวัดลำพูนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลง พื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ในจังหวัดต่อไปว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เลือกลงภาคอีสานที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ถ้าเป็นภาคเหนือนั้นตนได้เสนอให้นายกมาลงพื้นที่ที่จ.ลำพูน ในเขตพื้นที่ของตน ซึ่งไม่ถือว่าเป็นที่สีแดง เพราะถ้าเป็นสีแดงจริงทำไมตนถึงได้เป็น ส.ส. อย่างไรก็ตามคงหลีกเลี่ยงที่จะมีคนมาไล่นายกฯไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของประชาชน แต่ก็เชื่อว่าถ้ามาลำพูนก็จะไม่มีความรุนแรงแน่นอน
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่านายอภสิทธิ์ ควรให้ความสนใจการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 มากกว่าจะไปลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตนอยากถามว่าการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เกี่ยวข้องกับประเทศชาติแค่ไหน สิ่งที่รัฐบาลควรจะเร่งทำคือ การสร้างความเชื่อมั่นและให้ความสำคัญกับประชาชนในเรื่อง ไข้หวัดใหญ่มากกว่า