เครือข่ายการวิจัยทางการแพทย์ด้านโรคติดเชื้อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งศึกษายาต้านไวรัสชนิดใหม่ “เพอรามิเวียร์” รองรับเชื้อดื้อยา สธ.ซ้อมแผนรับมือหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในชุมชน นำร่องครบ 4 ภาค กรกฎาคมนี้
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเครือข่ายการวิจัยทางการแพทย์ด้านโรคติดเชื้อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Infectious Disease Clinical Research Network : SEAICRN) ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์การอนามัยโลก มหาวิทยาลัยออกซฟอด ไทย เวียนนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น ร่วมกันศึกษาและวิจัยยาต้านไวรัสเพอรามิเวียร์ (Peramivir) ซึ่งเป็นยาชนิดใหม่ เพื่อเป็นแผนสำรองกรณีที่เชื้อไวรัสเกิดดื้อยาต้านไวรัสซานามิเวียร์ (ยาต้านไวรัสใช้ในกรณีผู้ป่วยดื้อยาโอเซลทามิเวียร์) โดยจะผลิตออกมาทั้งชนิดรับประทาน และชนิดฉีด เพื่อให้เหมาะสมกับอาการป่วย เพราะผู้ป่วยรายที่มีอาการหนักจะไม่สามารถกินยา หรือสูดยาเข้าคอได้ด้วยตนเอง
ที่เทศบาลตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหาร เปิดการสาธิตการซ้อมแผนเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระดับชุมชนในภาคใต้ โดยได้สมมติสถานการณ์พบนักเรียนที่โรงเรียนวัดเกาะถ้ำ ป่วยเป็นไข้หวัด และพบผู้ป่วยในโรงงานแปซิฟิกแปรรูปสัตว์น้ำ โดยมีซักซ้อมขั้นตอนการคัดกรองผู้ป่วย แนะนำการใส่หน้ากากอนามัย การแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทำความสะอาดโรงเรียน/โรงงาน และการซ้อมแผนเยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชนโดย อสม.ใช้ชุดความรู้ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและญาติ พร้อมมอบชุดสื่อความรู้และอุปกรณ์รณรงค์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ แก่ตัวแทน อสม. 16 อำเภอ และปล่อยขบวน อสม.และแกนนำชุมชนรณรงค์ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในชุมชน
นายวิทยากล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ของไทย อยู่ในระยะที่พบการติดเชื้อภายในประเทศ สธ.ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่แห่งชาติ โดยได้ให้ทุกจังหวัดมีการซักซ้อมแผนเพื่อเตรียมความพร้อมทุกหน่วยงาน หากเกิดการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ จะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าโรคนี้จะไม่มีความรุนแรงก็ตาม โดยในเดือนนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะสาธิตการซ้อมแผนแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในชุมชนเป็นการปฏิบัติการร่วมกันระหว่าง อสม. อบต./เทศบาล โรงเรียน และองค์กรอื่นๆในพื้นที่ ภาคละ 1 ชุมชน เริ่มในภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา ภาคกลางที่จังหวัดเพชรบุรี ภาคเหนือที่จังหวัดลำพูน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดยโสธร ครบทั้ง 4 ภาคภายในเดือนกรกฎาคมนี้
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีเครือข่ายการวิจัยทางการแพทย์ด้านโรคติดเชื้อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Infectious Disease Clinical Research Network : SEAICRN) ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์การอนามัยโลก มหาวิทยาลัยออกซฟอด ไทย เวียนนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น ร่วมกันศึกษาและวิจัยยาต้านไวรัสเพอรามิเวียร์ (Peramivir) ซึ่งเป็นยาชนิดใหม่ เพื่อเป็นแผนสำรองกรณีที่เชื้อไวรัสเกิดดื้อยาต้านไวรัสซานามิเวียร์ (ยาต้านไวรัสใช้ในกรณีผู้ป่วยดื้อยาโอเซลทามิเวียร์) โดยจะผลิตออกมาทั้งชนิดรับประทาน และชนิดฉีด เพื่อให้เหมาะสมกับอาการป่วย เพราะผู้ป่วยรายที่มีอาการหนักจะไม่สามารถกินยา หรือสูดยาเข้าคอได้ด้วยตนเอง
ที่เทศบาลตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหาร เปิดการสาธิตการซ้อมแผนเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระดับชุมชนในภาคใต้ โดยได้สมมติสถานการณ์พบนักเรียนที่โรงเรียนวัดเกาะถ้ำ ป่วยเป็นไข้หวัด และพบผู้ป่วยในโรงงานแปซิฟิกแปรรูปสัตว์น้ำ โดยมีซักซ้อมขั้นตอนการคัดกรองผู้ป่วย แนะนำการใส่หน้ากากอนามัย การแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทำความสะอาดโรงเรียน/โรงงาน และการซ้อมแผนเยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชนโดย อสม.ใช้ชุดความรู้ให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและญาติ พร้อมมอบชุดสื่อความรู้และอุปกรณ์รณรงค์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ แก่ตัวแทน อสม. 16 อำเภอ และปล่อยขบวน อสม.และแกนนำชุมชนรณรงค์ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในชุมชน
นายวิทยากล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ของไทย อยู่ในระยะที่พบการติดเชื้อภายในประเทศ สธ.ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่แห่งชาติ โดยได้ให้ทุกจังหวัดมีการซักซ้อมแผนเพื่อเตรียมความพร้อมทุกหน่วยงาน หากเกิดการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ จะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าโรคนี้จะไม่มีความรุนแรงก็ตาม โดยในเดือนนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะสาธิตการซ้อมแผนแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในชุมชนเป็นการปฏิบัติการร่วมกันระหว่าง อสม. อบต./เทศบาล โรงเรียน และองค์กรอื่นๆในพื้นที่ ภาคละ 1 ชุมชน เริ่มในภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา ภาคกลางที่จังหวัดเพชรบุรี ภาคเหนือที่จังหวัดลำพูน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดยโสธร ครบทั้ง 4 ภาคภายในเดือนกรกฎาคมนี้
