กรมขนส่งทางอากาศ ลงพื้นที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานพร้อมกล่องดำ ส่งฝรั่งเศสพิสูจน์ คาด 2 สัปดาห์รู้ผล พร้อมเคลียร์รันเวย์เปิดให้บริการสนามบินตามปกติ “คมนาคม” เชื่อสรุปสาเหตุได้ไม่นานเหมือนกรณีอุบัติเหตุสายการบินวันทูโกเมื่อ 2 ปีก่อน เผย “กัปตันชาติชาย” เสียชีวิต เพราะสมองกระทบรุนแรง ส่วน “ผู้ช่วยนักบิน” อาการยังโคม่า!
นางกรรณิการ์ เขมาวุฒานนท์ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (5 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ ขอ.และคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรได้เข้าพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบหาสาเหตุเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สเที่ยวบินที่ PG 266 เครื่องบินแบบ ATR-72 ขนาด 70 ที่นั่ง ลื่นไถลจากรันเวย์พุ่งชนหอบังคับการบินเก่าที่สนามบินสมุย ตั้งแต่จุดที่ล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์และเกิดการลื่นไถล และเพื่อเร่งนำเครื่องบินที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่ในช่วงสาย เพื่อเคลียร์พื้นที่สนามบินให้กลับสู่สภาพปกติและเปิดทำการบินเร็วที่สุด เนื่องจากสภาพของรันเวย์และสนามบินไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น นางกรรณิการ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้เพราะต้องนำหลักฐานที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ ข้อมูลจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประมวลประกอบกับข้อมูลในกล่องดำ ซึ่งได้นำออกมาจากเครื่องแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ประเทศที่เป็นกลางเช่นสหรัฐอเมริกา หรือประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่นดังกล่าว
นางกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทราบว่า ช่วงเกิดเหตุสภาพอากาศมีเพียงฝนตกปรอยๆ และมีลมแรงเท่านั้น ไม่ได้มีฝนตกหนักตามที่เป็นข่าว และหอบังคับการบินไม่ได้แจ้งเตือนนักบินแต่อย่างใด โดยการติดต่อระหว่างหอบังคับการบินและนักบินเป็นไปตามขั้นตอนปกติของการนำเครื่องลง
**ส่งกล่องดำตรวจฝรั่งเศส 2 สัปดาห์
นายวุฒิชัย สิงห์มณี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า กล่องดำเครื่องบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่ประสบอุบัติเหตุที่ท่าอากาศยานสมุย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.นั้น มี 2 กล่อง ประกอบด้วย กล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างกัปตันของเครื่องบินลำดังกล่าวและหอบังคับการบินที่สื่อสารก่อนเกิดเหตุ
“กรมการขนส่งทางอากาศได้รับมอบกล่องดำทั้ง 2 กล่องจากเจ้าหน้าที่สอบสวนในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่ากล่องดำทั้ง 2 กล่องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตามหลักวิชาการทั่วไปหากสภาพกล่องดำสมบูรณ์ก็จะใช้เวลาตรวจสอบภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งกรมฯจะจัดส่งกล่องดำไปตรวจสอบข้อมูลที่ประเทศฝรั่งเศส ส่วนผลการตรวจสอบจะนำมาประเมินผลและพิจารณาร่วมกันกับหลักฐานแวดล้อมอื่นๆ เช่น สภาพอากาศขณะเกิดเหตุ จึงจะสามารถสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ได้” นายวุฒิชัย กล่าว
นายวุฒิชัย กล่าวต่อว่า ช่วงระหว่างที่เครื่องบินบางกอกแอร์เวย์สเที่ยวบินที่ PG 266 จะทำการลงที่สนามบินสมุยนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งสภาพอากาศ ว่า สภาพลมแปรปรวน ความเร็วลมอยู่ที่ประมาณ 25-35 น็อต ซึ่งถือว่าเป็นความเร็วลมที่มีผลต่อการบินดังนั้นนักบินจะต้องให้ความระมัดระวังในการขึ้น-ลงเพิ่มขึ้น โดยความเร็วลมปกติที่ไม่มีผลต่อการบิน จะอยู่ที่ประมาณ 10-15 น็อต
**เชื่อใช้เวลาตรวจหาสาเหตุไม่นาน
ด้าน นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังจากได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดอุบัติเหตุที่สนามบินสมุย ว่า ขณะนี้การเก็บรวบรวมหลักฐานในพื้นที่ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว หลังจากนั้นสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและการบินไทยที่มีเที่ยวบินให้บริการ เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-สมุยและจากจุดบินอื่นๆ ได้เริ่มกลับมาทำการบินให้บริการได้ตามปกติแล้วตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวานนี้ (5 ส.ค.)
นายชัยศักดิ์ ยอมรับว่า ในการรวบรวมหลักฐานเพื่อสอบสวนถึงสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้นั้นอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนเนื่องจากต้องส่งกล่องดำไปพิสูจน์ต่างประเทศ และต้องตรวจสอบข้อมูลการบันทึกเสียงของนักบินให้ชัดเจนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่นักบินที่ 2 ไม่เสียชีวิต และหลังจากรักษาพยาบาลแล้วจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่า การสอบสวนสาเหตุครั้งนี้จะใช้เวลาไม่นาน เหมือนกรณีการเกิดอุบัติเหตุของสายการบินวันทูโกที่สนามบินภูเก็ตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ส่วนสมมติฐานที่จะนำมาตรวจสอบ ว่า เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุของเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นไปได้หลายทาง ทั้งสภาพอากาศ การทำงานของนักบิน หรือผลจากสภาพตัวเครื่อง ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามาจากสาเหตุใด
**ผู้บริหารเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่สุราษฎร์
ขณะที่ กัปตัน พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุของเที่ยวบิน PG 266 ทั้งหมด 8 ราย ที่ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพสมุย
สำหรับผู้บาดเจ็บเล็กน้อยหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ไปพักผ่อนยังโรงแรมที่บริษัทฯจัดไว้ ซึ่งผู้โดยสารที่ปลอดภัยทั้งหมดได้พักอยู่ที่โรงแรมที่จัดไว้ให้เช่นกัน โดยมีทีมแพทย์และทีมจิตแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของกัปตันชาติชาย และดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของนักบินผู้ช่วยอย่างเต็มที่ด้วย
**ครอบครัวภูมิใจ “กัปตันชาติชาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับศพของ กัปตัน ชาติชาย ปั้นสุวรรณ ได้ถูกนำเข้าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของโรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อเวลา 05.00 น.วานนี้ โดยญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ
นางจุฑามาศ ปั้นสุวรรณ และ นายศักดิ์สิทธิ์ ปั้นสุวรรณ ภรรยาและบุตรชายคนเดียวของ ร.ต.ท.ชาติชาย ปั้นสุวรรณ กัปตันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งเดินทางมารับศพ ณ อาคาร 14 โรงพยาบาลภูมิพล ด้วยความโศกเศร้า พร้อมกล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสามี แต่ขอให้สามีสบายใจ อยู่ทางนี้จะดูแลลูกให้ดีที่สุด และไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมภูมิใจที่สามีได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดจนวาระสุดท้าย
นายศักดิ์สิทธิ์ หรือ น้องกัน อายุ 17 ปี กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้ที่เสียพ่อ เพราะเร็วมาก ก่อนออกไปบินเที่ยวบินนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน และภูมิใจที่พ่อเสียสละชีวิตเพื่อรักษาชีวิตผู้โดยสารบนเครื่องบิน จะตั้งใจเรียนหนังสือเป็นวิศวกรสมอย่างที่พ่อตั้งไว้
นอกจากครอบครัวของ ร.ต.ท.ชาติชาย แล้ว ยังมีญาติคนอื่นที่มารอรับศพด้วย เช่น ด.ต.เสน่ห์ อ่อนละม้าย ซึ่งเป็นคู่เขยให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า มั่นใจว่า ร.ต.ท.ชาติชาย ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดด้วยความรับผิดชอบแล้ว เพราะตนเองเคยกระโดดร่ม โดยมี ร.ต.ท.ชาติชาย เป็นคนขับเครื่องบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ครอบครัว ร.ต.ท.ชาติชาย ได้นำชุดกัปตันมาแต่งตัวศพ ร.ต.ท.ชาติชาย ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศพที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน โดยบริษัทบางกอกแอร์เวย์ส จะเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลทุกคืน จนถึงวันฌาปนกิจศพวันที่ 10 สิงหาคม
**เผยกัปตันสมองกระเทือนรุนแรง
พล.อ.ต.ธีระภาพ เสนะวงษ์ ผอ.สถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ กล่าวภายหลังตรวจชันสูตรศพ ร.ต.ท.ชาติชาย ปั้นสุวรรณ อายุ 55 ปี กัปตันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ชนหอบังคับการบินเก่าที่สนามบินสมุย ว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาติชาย ได้ตรวจสุขภาพเป็นครั้งสุดท้ายที่สถาบัน ซึ่งเป็นตารางการตรวจร่างกายประจำปีของนักบิน ผลการตรวจร่างกายสภาพพร้อมบิน จะมีเพียงโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถขึ้นบินได้ โดยล่าสุดทีมแพทย์ได้ผ่าศพชันสูตรศพ จะนำเลือดไปตรวจ แต่จากการชันสูตรศพพบว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มีเลือดออก จึงทำให้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ
ทั้งนี้ ตามมาตรฐานผู้ถือใบสำคัญการบิน ก่อนขึ้นบินจะมีการเตรียมพร้อมและประเมินสภาพร่างกายตัวเองก่อนขึ้นบิน รวมถึงสภาพอากาศ จำนวนผู้โดยสาร และสภาพยานพาหนะ แต่สำหรับกรณีอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีปัจจัยใดเป็นเหตุให้เกิดได้บ้าง จะต้องนำข้อมูลจากหลายฝ่ายมาประกอบกัน
**“ผู้ช่วยนักบิน” อาการยังโคม่า!
ขณะที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้แถลงอาการของ นายธนวัฒน์ เปรมฤทัย ผู้ช่วยนักบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ว่า ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นวิกฤต รักษาตัวในห้องไอ.ซี.ยู.ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ รู้สึกตัวแต่ไม่สะดวกพูดคุย คณะแพทย์ เปิดเผยว่า พบกระดูกแขนขวาหัก สะโพกซ้ายหัก ต้นแขนขวา ใต้เข่าและหัวเข่าขวาหักด้วย แต่ที่น่าห่วงคือ ช่องท้องได้รับการกระแทกอย่างแรงทำให้ตับฉีก ปอดช้ำ เกิดเลือดไหลในช่องท้องไม่หยุด แพทย์เตรียมการผ่าตัดช่องท้องอีกรอบ
**เชื่อไม่กระทบรายได้สนามบิน
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย เนื่องจากเป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่ได้มีผลต่อสนามบินโดยตรง เนื่องจากเครื่องบินได้ชนหอบังคับการบินเก่าเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทต้องขอแสดงความเสียใจต่อสูญเสียชีวิตของพนักงาน บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด และรู้สึกเป็นห่วงผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ขณะที่ในส่วนของการคุ้มครอง และการประกันภัยทรัพย์สิน สำหรับสนามบินสมุย และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ทราบว่าได้มีการทำประกันภัยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ การปิดสนามบินเพียง 24 ชั่วโมง หรือระยะเวลาเพียง 1-2 วัน จะส่งผลกระทบต่อรายได้ค่อนข้างน้อย โดยมีจำนวนเที่ยวบินที่ไม่สามารถทำการบินได้ไม่มากนัก หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 0.01% จากจำนวน 1,000 เที่ยวบินต่อปี
“นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการเกิดอุบัติเหตุ ที่เป็นผลมาจากแรงลมที่พัดแรงในขณะที่นำเครื่องบินลง เชื่อว่านักท่องเที่ยวน่าจะเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว โดยหากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศก็น่าจะมีความร้ายแรงน้อยกว่า” นายธีรพันธุ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน จากข้อกำหนดของสัญญาที่กองทุนทำกับการบินกรุงเทพนั้น กองทุนจะได้รับรายได้ขั้นต่ำจากการบินกรุงเทพ มีจำนวนเท่ากับ 6% ของจำนวนเงินทุนของโครงการ ณ วันที่จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมต่อปีหรือเท่ากับ 570 ล้านบาทต่อปีตลอดอายุสัญญา 30 ปีอยู่แล้ว
ด้าน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด(มหาชาน) เปิยเผยว่า จากอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สพุ่งชนหอบับคับการบินเก่าที่สนามบินสมุยนั้น ในส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนสนามบินสมุย ที่บริหารโดย บลจ.นครหลวงไทย คงไม่ได้รับผลกระทบอะไร เนื่องจากมีการประกันรายได้ขั้นต่ำใหันักลงทุนอยู่แล้ว
“ในแง่นักลงทุนคงไม่มีปัญหา เพราะเขาได้ขั้นต่ำปีละ 7.1% อยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้สนามบินจะแย่เขาก็จะได้เงินปันผลประมาณ 7% ส่วนจะมองว่าเป็นการซ้ำเต็มแล้วจะทำให้ผลตอบแทนมันไม่สูงขึ้นนั้น จากประมาณการของเราในปีนี้อย่างน้อยก็น่าจะได้ที่ประมาณ 10% หรือเทียบเป็นเงินปันผลประมาณ 72 สตางค์” นายเทิดศักดิ์ กล่าว
**เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยว
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ยังไม่ได้รับแจ้งว่า นักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินไถล ขอเดินทางกลับประเทศ หรือยกเลิกการท่องเที่ยว และเชื่อมั่นว่า เหตุที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวแน่นอน ส่วนการเดินทางไปเกาะสมุยโดยเรือเฟอร์รารี ทราบว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี คอยกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว
**“สนามบินสมุย” เปิดใช้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ถึงการเร่งเคลื่อนย้ายตัวเครื่องบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่พีจี 266 ที่ไถลออกนอกรันเวย์พุ่งชนหอบังคับการบินเก่าสนามบินสมุย ของเจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เพื่อเร่งทำการเคลียร์พื้นรันเวย์ เพื่อให้บริการตามปกติว่า เจ้าหน้าที่สามารถนำตัวเครื่องบินลำดังกล่าวออกจากตัวอาคารหอบังคับการบินเก่าและพื้นรันเวย์ไปไว้ทางด้านทิศใต้ของสนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยเที่ยวบินแรกพีจี 135 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาถึงสนามบินสมุย เวลา 14.50 น.และเที่ยวบินแรกที่ออกจากสนามบินสมุย คือ เที่ยวบินที่ พีจี 100 ออกจากสนามบินสมุยไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 15.00 น.
**อุตุฯเตือนอันดามัน 5-8 ส.ค.ลมแรง
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ในช่วงวันที่ 5-7 ส.ค.นี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนกระจาย ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง
ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 8-11 ส.ค.มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวและภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ จึงขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 5-8 ส.ค.เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
นางกรรณิการ์ เขมาวุฒานนท์ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (5 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ ขอ.และคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรได้เข้าพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปตรวจสอบหาสาเหตุเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สเที่ยวบินที่ PG 266 เครื่องบินแบบ ATR-72 ขนาด 70 ที่นั่ง ลื่นไถลจากรันเวย์พุ่งชนหอบังคับการบินเก่าที่สนามบินสมุย ตั้งแต่จุดที่ล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์และเกิดการลื่นไถล และเพื่อเร่งนำเครื่องบินที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่ในช่วงสาย เพื่อเคลียร์พื้นที่สนามบินให้กลับสู่สภาพปกติและเปิดทำการบินเร็วที่สุด เนื่องจากสภาพของรันเวย์และสนามบินไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น นางกรรณิการ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้เพราะต้องนำหลักฐานที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ ข้อมูลจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประมวลประกอบกับข้อมูลในกล่องดำ ซึ่งได้นำออกมาจากเครื่องแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ประเทศที่เป็นกลางเช่นสหรัฐอเมริกา หรือประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่นดังกล่าว
นางกรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทราบว่า ช่วงเกิดเหตุสภาพอากาศมีเพียงฝนตกปรอยๆ และมีลมแรงเท่านั้น ไม่ได้มีฝนตกหนักตามที่เป็นข่าว และหอบังคับการบินไม่ได้แจ้งเตือนนักบินแต่อย่างใด โดยการติดต่อระหว่างหอบังคับการบินและนักบินเป็นไปตามขั้นตอนปกติของการนำเครื่องลง
**ส่งกล่องดำตรวจฝรั่งเศส 2 สัปดาห์
นายวุฒิชัย สิงห์มณี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า กล่องดำเครื่องบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่ประสบอุบัติเหตุที่ท่าอากาศยานสมุย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.นั้น มี 2 กล่อง ประกอบด้วย กล่องบันทึกข้อมูลการบินและกล่องบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างกัปตันของเครื่องบินลำดังกล่าวและหอบังคับการบินที่สื่อสารก่อนเกิดเหตุ
“กรมการขนส่งทางอากาศได้รับมอบกล่องดำทั้ง 2 กล่องจากเจ้าหน้าที่สอบสวนในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่ากล่องดำทั้ง 2 กล่องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตามหลักวิชาการทั่วไปหากสภาพกล่องดำสมบูรณ์ก็จะใช้เวลาตรวจสอบภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งกรมฯจะจัดส่งกล่องดำไปตรวจสอบข้อมูลที่ประเทศฝรั่งเศส ส่วนผลการตรวจสอบจะนำมาประเมินผลและพิจารณาร่วมกันกับหลักฐานแวดล้อมอื่นๆ เช่น สภาพอากาศขณะเกิดเหตุ จึงจะสามารถสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ได้” นายวุฒิชัย กล่าว
นายวุฒิชัย กล่าวต่อว่า ช่วงระหว่างที่เครื่องบินบางกอกแอร์เวย์สเที่ยวบินที่ PG 266 จะทำการลงที่สนามบินสมุยนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งสภาพอากาศ ว่า สภาพลมแปรปรวน ความเร็วลมอยู่ที่ประมาณ 25-35 น็อต ซึ่งถือว่าเป็นความเร็วลมที่มีผลต่อการบินดังนั้นนักบินจะต้องให้ความระมัดระวังในการขึ้น-ลงเพิ่มขึ้น โดยความเร็วลมปกติที่ไม่มีผลต่อการบิน จะอยู่ที่ประมาณ 10-15 น็อต
**เชื่อใช้เวลาตรวจหาสาเหตุไม่นาน
ด้าน นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังจากได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดอุบัติเหตุที่สนามบินสมุย ว่า ขณะนี้การเก็บรวบรวมหลักฐานในพื้นที่ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว หลังจากนั้นสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและการบินไทยที่มีเที่ยวบินให้บริการ เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-สมุยและจากจุดบินอื่นๆ ได้เริ่มกลับมาทำการบินให้บริการได้ตามปกติแล้วตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวานนี้ (5 ส.ค.)
นายชัยศักดิ์ ยอมรับว่า ในการรวบรวมหลักฐานเพื่อสอบสวนถึงสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้นั้นอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนเนื่องจากต้องส่งกล่องดำไปพิสูจน์ต่างประเทศ และต้องตรวจสอบข้อมูลการบันทึกเสียงของนักบินให้ชัดเจนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่นักบินที่ 2 ไม่เสียชีวิต และหลังจากรักษาพยาบาลแล้วจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่า การสอบสวนสาเหตุครั้งนี้จะใช้เวลาไม่นาน เหมือนกรณีการเกิดอุบัติเหตุของสายการบินวันทูโกที่สนามบินภูเก็ตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ส่วนสมมติฐานที่จะนำมาตรวจสอบ ว่า เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุของเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นไปได้หลายทาง ทั้งสภาพอากาศ การทำงานของนักบิน หรือผลจากสภาพตัวเครื่อง ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามาจากสาเหตุใด
**ผู้บริหารเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่สุราษฎร์
ขณะที่ กัปตัน พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุของเที่ยวบิน PG 266 ทั้งหมด 8 ราย ที่ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพสมุย
สำหรับผู้บาดเจ็บเล็กน้อยหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ไปพักผ่อนยังโรงแรมที่บริษัทฯจัดไว้ ซึ่งผู้โดยสารที่ปลอดภัยทั้งหมดได้พักอยู่ที่โรงแรมที่จัดไว้ให้เช่นกัน โดยมีทีมแพทย์และทีมจิตแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของกัปตันชาติชาย และดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของนักบินผู้ช่วยอย่างเต็มที่ด้วย
**ครอบครัวภูมิใจ “กัปตันชาติชาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับศพของ กัปตัน ชาติชาย ปั้นสุวรรณ ได้ถูกนำเข้าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของโรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อเวลา 05.00 น.วานนี้ โดยญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ
นางจุฑามาศ ปั้นสุวรรณ และ นายศักดิ์สิทธิ์ ปั้นสุวรรณ ภรรยาและบุตรชายคนเดียวของ ร.ต.ท.ชาติชาย ปั้นสุวรรณ กัปตันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งเดินทางมารับศพ ณ อาคาร 14 โรงพยาบาลภูมิพล ด้วยความโศกเศร้า พร้อมกล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสามี แต่ขอให้สามีสบายใจ อยู่ทางนี้จะดูแลลูกให้ดีที่สุด และไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมภูมิใจที่สามีได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดจนวาระสุดท้าย
นายศักดิ์สิทธิ์ หรือ น้องกัน อายุ 17 ปี กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้ที่เสียพ่อ เพราะเร็วมาก ก่อนออกไปบินเที่ยวบินนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน และภูมิใจที่พ่อเสียสละชีวิตเพื่อรักษาชีวิตผู้โดยสารบนเครื่องบิน จะตั้งใจเรียนหนังสือเป็นวิศวกรสมอย่างที่พ่อตั้งไว้
นอกจากครอบครัวของ ร.ต.ท.ชาติชาย แล้ว ยังมีญาติคนอื่นที่มารอรับศพด้วย เช่น ด.ต.เสน่ห์ อ่อนละม้าย ซึ่งเป็นคู่เขยให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า มั่นใจว่า ร.ต.ท.ชาติชาย ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดด้วยความรับผิดชอบแล้ว เพราะตนเองเคยกระโดดร่ม โดยมี ร.ต.ท.ชาติชาย เป็นคนขับเครื่องบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ครอบครัว ร.ต.ท.ชาติชาย ได้นำชุดกัปตันมาแต่งตัวศพ ร.ต.ท.ชาติชาย ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศพที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน โดยบริษัทบางกอกแอร์เวย์ส จะเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลทุกคืน จนถึงวันฌาปนกิจศพวันที่ 10 สิงหาคม
**เผยกัปตันสมองกระเทือนรุนแรง
พล.อ.ต.ธีระภาพ เสนะวงษ์ ผอ.สถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ กล่าวภายหลังตรวจชันสูตรศพ ร.ต.ท.ชาติชาย ปั้นสุวรรณ อายุ 55 ปี กัปตันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ชนหอบังคับการบินเก่าที่สนามบินสมุย ว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาติชาย ได้ตรวจสุขภาพเป็นครั้งสุดท้ายที่สถาบัน ซึ่งเป็นตารางการตรวจร่างกายประจำปีของนักบิน ผลการตรวจร่างกายสภาพพร้อมบิน จะมีเพียงโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถขึ้นบินได้ โดยล่าสุดทีมแพทย์ได้ผ่าศพชันสูตรศพ จะนำเลือดไปตรวจ แต่จากการชันสูตรศพพบว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มีเลือดออก จึงทำให้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ
ทั้งนี้ ตามมาตรฐานผู้ถือใบสำคัญการบิน ก่อนขึ้นบินจะมีการเตรียมพร้อมและประเมินสภาพร่างกายตัวเองก่อนขึ้นบิน รวมถึงสภาพอากาศ จำนวนผู้โดยสาร และสภาพยานพาหนะ แต่สำหรับกรณีอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีปัจจัยใดเป็นเหตุให้เกิดได้บ้าง จะต้องนำข้อมูลจากหลายฝ่ายมาประกอบกัน
**“ผู้ช่วยนักบิน” อาการยังโคม่า!
ขณะที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้แถลงอาการของ นายธนวัฒน์ เปรมฤทัย ผู้ช่วยนักบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ว่า ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นวิกฤต รักษาตัวในห้องไอ.ซี.ยู.ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ รู้สึกตัวแต่ไม่สะดวกพูดคุย คณะแพทย์ เปิดเผยว่า พบกระดูกแขนขวาหัก สะโพกซ้ายหัก ต้นแขนขวา ใต้เข่าและหัวเข่าขวาหักด้วย แต่ที่น่าห่วงคือ ช่องท้องได้รับการกระแทกอย่างแรงทำให้ตับฉีก ปอดช้ำ เกิดเลือดไหลในช่องท้องไม่หยุด แพทย์เตรียมการผ่าตัดช่องท้องอีกรอบ
**เชื่อไม่กระทบรายได้สนามบิน
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย เนื่องจากเป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่ได้มีผลต่อสนามบินโดยตรง เนื่องจากเครื่องบินได้ชนหอบังคับการบินเก่าเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทต้องขอแสดงความเสียใจต่อสูญเสียชีวิตของพนักงาน บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด และรู้สึกเป็นห่วงผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ขณะที่ในส่วนของการคุ้มครอง และการประกันภัยทรัพย์สิน สำหรับสนามบินสมุย และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ทราบว่าได้มีการทำประกันภัยเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ การปิดสนามบินเพียง 24 ชั่วโมง หรือระยะเวลาเพียง 1-2 วัน จะส่งผลกระทบต่อรายได้ค่อนข้างน้อย โดยมีจำนวนเที่ยวบินที่ไม่สามารถทำการบินได้ไม่มากนัก หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 0.01% จากจำนวน 1,000 เที่ยวบินต่อปี
“นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการเกิดอุบัติเหตุ ที่เป็นผลมาจากแรงลมที่พัดแรงในขณะที่นำเครื่องบินลง เชื่อว่านักท่องเที่ยวน่าจะเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว โดยหากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศก็น่าจะมีความร้ายแรงน้อยกว่า” นายธีรพันธุ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน จากข้อกำหนดของสัญญาที่กองทุนทำกับการบินกรุงเทพนั้น กองทุนจะได้รับรายได้ขั้นต่ำจากการบินกรุงเทพ มีจำนวนเท่ากับ 6% ของจำนวนเงินทุนของโครงการ ณ วันที่จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมต่อปีหรือเท่ากับ 570 ล้านบาทต่อปีตลอดอายุสัญญา 30 ปีอยู่แล้ว
ด้าน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด(มหาชาน) เปิยเผยว่า จากอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สพุ่งชนหอบับคับการบินเก่าที่สนามบินสมุยนั้น ในส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนสนามบินสมุย ที่บริหารโดย บลจ.นครหลวงไทย คงไม่ได้รับผลกระทบอะไร เนื่องจากมีการประกันรายได้ขั้นต่ำใหันักลงทุนอยู่แล้ว
“ในแง่นักลงทุนคงไม่มีปัญหา เพราะเขาได้ขั้นต่ำปีละ 7.1% อยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้สนามบินจะแย่เขาก็จะได้เงินปันผลประมาณ 7% ส่วนจะมองว่าเป็นการซ้ำเต็มแล้วจะทำให้ผลตอบแทนมันไม่สูงขึ้นนั้น จากประมาณการของเราในปีนี้อย่างน้อยก็น่าจะได้ที่ประมาณ 10% หรือเทียบเป็นเงินปันผลประมาณ 72 สตางค์” นายเทิดศักดิ์ กล่าว
**เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยว
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ยังไม่ได้รับแจ้งว่า นักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินไถล ขอเดินทางกลับประเทศ หรือยกเลิกการท่องเที่ยว และเชื่อมั่นว่า เหตุที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวแน่นอน ส่วนการเดินทางไปเกาะสมุยโดยเรือเฟอร์รารี ทราบว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี คอยกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว
**“สนามบินสมุย” เปิดใช้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ถึงการเร่งเคลื่อนย้ายตัวเครื่องบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่พีจี 266 ที่ไถลออกนอกรันเวย์พุ่งชนหอบังคับการบินเก่าสนามบินสมุย ของเจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เพื่อเร่งทำการเคลียร์พื้นรันเวย์ เพื่อให้บริการตามปกติว่า เจ้าหน้าที่สามารถนำตัวเครื่องบินลำดังกล่าวออกจากตัวอาคารหอบังคับการบินเก่าและพื้นรันเวย์ไปไว้ทางด้านทิศใต้ของสนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยเที่ยวบินแรกพีจี 135 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาถึงสนามบินสมุย เวลา 14.50 น.และเที่ยวบินแรกที่ออกจากสนามบินสมุย คือ เที่ยวบินที่ พีจี 100 ออกจากสนามบินสมุยไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 15.00 น.
**อุตุฯเตือนอันดามัน 5-8 ส.ค.ลมแรง
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ในช่วงวันที่ 5-7 ส.ค.นี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนกระจาย ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง
ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 8-11 ส.ค.มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวและภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ จึงขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 5-8 ส.ค.เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง