โฆษกพันธมิตรฯ เปิดโปง ขบวนการคว่ำโหวต ผบ.ตร.

“ปานเทพ” แฉ! ท่อน้ำเลี้ยงจากนอก สั่งนักการเมือง ล็อบบี้ ก.ต.ช. คว่ำโหวต ผบ.ตร. คนใหม่ แนะนายกฯหากยังหนุน"พล.ต.อ.ปทีป" ต้องย้ายผบ.ตร-ยอมเสียหน้าเจรจาคนโนโหวต จี้"มาร์ค" นึกถึงความชอบธรรมก่อนพิจารณาพ.ร.บ.นิรโทษฯ ขณะที่"อ.คมสัน" ระบุอำนาจนายกฯเสื่อม ควบคุมคนในรัฐไม่ได้ เชื่อไม่กล้าย้าย ผบ.ตร. เผยภูมิใจไทยยื่นพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อ้างเหลือง-แดง หมกเม็ดพ้นผิดคดี 7 ต.ค.-กล้ายาง



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนในข่าว”

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ อ.คมสัน โพธิ์คง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มาร่วมพูดคุยถึง เบื้องลึกของการคว่ำโหวตเลือก ผบ.ตร. และจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการยื่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

นายปานเทพ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการโหวตเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนมีกระแสข่าวว่า มีเงิน 200 ล้าน ไหลมาตามท่อจากตะวันออกไกล ถึงมือชายสองคนที่มีอำนาจรัฐ สนับสนุนให้ใครบางคนเป็น ผบ.ตร. และช่วงสายก่อนที่จะมีการเลือก ผบ.ตร. ก็มีกระแสข่าอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเนวิน ชิดชอบ ผู้สนับสนุนคนสำคัญของพรรคถูมิใจไทย นายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มีการเคลื่อนไหว ล็อบบี้ ให้คณะกรรมการ ก.ตช. เลือก พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร. ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งก็สามรถล็อบบี้ได้แล้วถึง 7-8 คน จากทั้งหมด 11 คน

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า มติโหวตเลือก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร. มีผู้ไม่เห็นด้วย 5 คน งดออกเสียง 1 คน เห็นด้วย 4 และนายกฯในฐานะประธานงดออกเสียง ทั้งนี้คนที่คัดค้านไม่เห็นด้วย มี 1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่รัฐบาลส่งไปที่ต่างๆเพื่อให้พนักงานสืบสวนสอบสวนทำงานได้สะดวกขึ้น ซึ่งเราจะเห็นว่าความขัดแย้งกันอยู่ 2.พล.ต.ท.สุเทพ ธรรมรักษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 3.ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย 4.นภดล อินนา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาองค์กร เคยเป็นคนติดตาม ร.ต.อ.ปุรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ ที่มีสายสัมพันธ์ กับ พล.ต.อ.พัชรวาท อย่างใกล้ชิด 5.วิชัย ศรีขวัญ ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เตรียมดันเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ดังนั้นเมื่อมาวิเคราะห์จึงไม่แปลกใจที่นายกฯ จะเสนอรายชื่อเดียว เพราะหากเสนอสองรายชื่อ จะมีเสียงสนับสนุนพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย เกินครึ่งทันที

นายปานเทพ กล่าวถึงประเด็นการเลือก ผบ.ตร. คนใหม่นี้ ถือได้ว่า นายกฯในฐานะที่เป็นประธาน ก.ต.ช. ถูกฉีกหน้าอย่างแรง ซึ่งก็แสดงว่านายกฯ ไม่สามารถบริหาร ก.ต.ช. ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้านายกฯ ยังต้องการสนับสนุนพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร โดยให้เกิดเอกภาพ จะต้องเพิ่มเสียงเห็นด้วยให้ได้เพิ่มอีกหนึ่งเสียง แต่ปัญหาก็คือ จะทำอย่างไรให้คนที่โนโหวตร่วมมือ หรือจะเปลี่ยนตัวคนโหวตอย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพียงคนเดียว ก็สามารถทำให้สัดส่วนในการลงมติเปลี่ยนได้แล้ว ซึ่งวิธีเปลี่ยนพล.ต.อ.พัชรวาท ในที่นี้หมายถึง เปลี่ยนตามแนวทางที่พันธมิตรฯ เคยเสนอ เพราะสามารถเปลี่ยน ผบ.ตร. คนใหม่ได้ ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่มีความผิดให้เห็นประจักษ์อยู่แล้ว

“ปัญหาต่างๆ เหล่านี้เกิดเพราะตัวนายกฯเอง เพราะสามารถโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ในหลายกรณี ทั้งออกคำสั่งสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ทุจริตงบโฆษณา 18 ล้าน แต่งตั้งโยกย้ายผิดกฎหมาย แต่ท่านก็ไม่ทำ ทั้งที่พันธมิตรฯ ก็เตือนอยู่เสอม ว่า อย่าให้คนเหล่านั้นมามีส่วนร่วมในการปกครอง ดังนั้นทางออกที่เหลือ คือ 1.อาศัยความกล้าหาญของตัวเอง 2.รอ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ ป.ป.ช. เองก็ถูก คุกคามข่มขู่” นายปานเทพ กล่าว

นายปานเทพ กล่าวกล่าวถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 30 บอกว่า บุคคลย่อมเสมอกันทางกฎหมาย ดังนั้น 1.บุคคลทั่วไป จึงไม่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะจะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางกฎหมาย 2.เป็นความไร้ยางอายของรัฐบาลชุดนี้ ที่พยายามแก้กฎหมายเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ได้มองถึงผลประโยชน์ประชาชน

นายปานเทพ กล่าวว่าเหตุที่พรรคภูมิใจไทย ยื่นพ.ร.บ.นิรโทษ ก็เพราะว่า มีบางกลุ่มเคยลบล้างการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 7 ต.ค. แต่ไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ ป.ป.ช. ก่อเหตุรุนแรงช่วงสงกรานต์เลือดและล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา เพื่อหวังให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง จนนำไปสู่การปฏิวัติ หรือกระทั่งลอบฆ่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ต่างก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นเมื่อ คดี 7 ต.ค. ยังเดินหน้า คดีทุจริตกล้ายางจะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 21 ก.ย.นี้ หากยื่นพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เสียตั้งแต่ตอนนี้ยังมีโอกาสที่จะรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือหากสถานการณ์ลุกลาม มีประชาชนออกมาต่อต้าน จนนำไปสู่เหตุการณ์รัฐประหาร แล้วแต่งตั้งรัฐบาลใหม่ กลุ่มพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ประโยชน์อีก หรือคดีกล้ายาง คดีลอบฆ่านายสนธิ ก็สามารถต่อลองได้

“ขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ท่ามกลางสมรภูมิการสู้รบทางการเมือง นายกฯ มีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์นี้ แต่ยังใช้ไม่เต็มที่ จุดประสงค์การนิรโทษกรรมทำไปเพื่อ ต้องการลบล้างคดีความผิดทั้งหมด ซึ่งถึงจุดที่นายกฯจะต้องเลือก ระหว่างยอมให้ผ่านร่างนิรโทษ หรือคัดค้าน อย่างไรก็ตามเมื่อเลือกทางใดทางหนึ่ง หวังว่านายกฯ จะเลือกในทางที่ถูกต้องและหวังว่าท่านจะทำได้ หากทำไม่ได้ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศ” นายปานเทพ กล่าว

อ.คมสัน กล่าวว่า การที่นายกฯเสนอชื่อ ผบ.ตร. คนใหม่ แล้วถูกคว่ำโหวต ในทางกฎหมาย ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะระเบียบข้าราชการ ไม่ได้กำหนดให้ผู้มีอำนาจทางการเมืองใช้อำนาจแต่เพียงผู้เดียว และไม่ได้ให้อำนาจนายกฯเด็จขาด ถึงแม้ตามประเพณีในทางปฏิบัติส่วนใหญ่ หากนายกฯในฐานะที่เป็นแกนนำฝ่ายรัฐบาล เสนออะไรก็มักจะได้ตามต้องการก็ตามที อย่างไรก็ตามถ้ามองในแง่ทางรัฐศาสตร์หรือทางการเมือง เป็นการสะท้อนให้เห็นสภาพแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ควบคุมกันไม่ได้

อ.คมสัน กล่าวถึงนายกฯ ว่า ไม่กล้าย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะหากจะตอบคำถามทางการเมืองก็งายอยู่ แต่จะตอบคำถามในศาลไม่ได้ ว่า สาเหตุใดทำไมถึงต้องย้าย เพราะเหลืออายุราชการอีกไม่กี่วัน ดังนั้นหากนายกฯ ยังยืนยันที่จะให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร. วิธีหาทางออกที่ดีที่สุด นายกฯจะต้องยอมเสียหน้าลดตัวลงไปเจรจาระหว่างคนที่ไม่เห็นด้วยและคนที่งดออกเสียง หรือจะยื้อเวลารอให้ถึงเดือนตุลาคมก็ได้ เพราะตอนนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งทำให้ต้องเปลี่ยน ผบ.ตร.คนใหม่

อ.คมสัน กล่าวว่าการที่พรรคภูมิใจไทยเสนอพ.ร.บ.นิรโทษกรรม การชุมนุมทางการเมืองของประชาชนระหว่างวันที่ 25 พ.ค. – 3 ธ.ค. 2551 และ 26 มี.ค.-4 เม.ย. 2552 เป็นการขอให้ตัวเองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กลุ่มตัวเองสนับสนุน เพราะการขอนิรโทษกรรมไม่ได้มีแค่กลุ่มเสื้อเหลือหรือเสื้อแดง แต่มีกลุ่มคนที่ต้องรับผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการทางการเมืองรวมอยู่ด้วย ให้ได้รับนิรโทษกรรมในคดี 7 ต.ค.เลือด เช่น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรวมอยู่ด้วยในรัฐบาลขณะนั้น ดังนั้นพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สำหรับ พันธมิตรฯหรือกลุ่มเสื้อแดง จึงเป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น

อ.คมสัน เปรียบเทียบพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เหมือนพ.ร.บ.ปรองดองย่อสวน เพราะเน้นนิรโทษกรรมเฉพาะช่วงที่ตัวเองจะต้องรับผิดชอบ การเอาชื่อพันธมิตรฯกับกลุ่มเสื้อแดงมาอ้าง ก็เพียงเพื่อให้ดูเหมือนเกิดความชอบธรรมเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่พรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมยื่นพ.ร.บ.ปรองดองในตอนนั้น เพราะทำให้พรรคภูมิใจไทยได้รับประโยชน์ในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ตนเองประสบอยู่ แต่ถ้ากระโดดเข้าร่วมเต็มตัว รัฐบาลก็ล้มตั้งแต่ต้นทำให้ยากต่อการที่จะอยู่รอดปลอดภัย อย่างไรก็ตามผู้ที่เสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า มีเจตนาตามที่กล่าวมาข้างต้นจริง ก็ถือได้ว่ากระทำผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่การลงโทษและถอดถอนได้

“ไพ่ใบสุดท้ายที่พอจะเป็นทางออกของนายกฯ คือ ปรับ ครม. ซึ่งโอกาสที่จะเลือกช่องตรงเป็นไปได้น้อยมาก นอกจากจะไปดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วม แต่ต้องยอมอยู่ภายใต้เงื่อนไขการต่อลอง ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือ ยุบสภา อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า นายกฯ จะไม่ลาออก” อ.คมสัน กล่าว

อ.คมสัน กล่าวว่า ยังเป็นกำลังใจในนายกฯ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางใดก็ตาม การแก้ไขต้องเกิดจากการปฏิบัติในทางที่ชอบ ดังนั้นจึงอยากให้ นายกฯ เลือกแนวทางที่ถูกต้องอย่ากังวลว่าผลจะเป็นอย่างไร หากทำได้อย่างนี้ อนาคตทางการเมืองของท่าน ยังไปได้อีกไกล