“เพื่อแม้ว” เปิดศูนย์ปราบโกง หลังพบหลายโครงการรัฐไม่โปร่งใส อ้างที่มหาสารคาม ส่อเค้าทุจริตชุมชนพอเพียง ปูด “นาย อ.” ซี้น้องชายนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง โก่งราคาปุ๋ย คุณภาพต่ำ แย้มคนวงในรู้จักดีตัวย่อปริศนาเป็นใคร พร้อมเดินหน้าจัดสัมมนา ตจว.พบปะประชาชนเดือดร้อนจากโครงการทุจริต รบ.
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุม ส.ส.พรรค โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานในการประชุม และมีคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เดินทางมาเข้าร่วมชุมนุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรค ซึ่งมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นประธานนั้น ได้เสนอที่ประชุมให้ตั้ง “ศูนย์ปราบโกง(ศปก.)” ขึ้น เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์และรวบรวมเบาะแสต่างๆ ของการใช้งบประมาณของรัฐบาลที่นำเงินจาก พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงินวงเงินรวม 8 แสนล้านบาทมาใช้ รวมทั้งเพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการชุมชนพอเพียงอีกด้วย เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนได้ร้องเรียนเพิ่มเติมเข้ามา ว่า ที่ จ.มหาสารคาม มีความเป็นไปได้ที่อาจส่อไปในทางทุจริตเรื่องปุ๋ย โดยระบุถึง “นาย อ.” คนใกล้ชิดน้องชายนักการเมืองใหญ่ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังพบความไม่ชอบมาพากลในเรื่องการจัดซื้อปุ๋ยที่ราคาสูง แต่คุณภาพต่ำ ซึ่ง “นาย อ.” นั้นใครๆ ในโครงการชุมชนพอเพียงก็ต่างรู้จักดี สำหรับตำแหน่งประธานศูนย์ปราบโกงนั้น จะมีการหารืออีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 13.00 น.
แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นว่า หลังวันที่ 21 กันยายนนี้ ซึ่งศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาคดีทุจริตกล้ายาง ต้องจับตาดูว่ารัฐบาลจะไปรอดหรือไม่ ในช่วงเวลานี้ พรรคจึงขอให้ ส.ส.ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพรรคก็จะจัดทำนโยบายเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไว้
แหล่งข่าวพรรคไทย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงกรณีราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ว่า ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาก เพราะการที่รัฐบาลอุ้มแต่ราคาน้ำมันดีเซล แต่ราคาน้ำมันเบนซินกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่หากรัฐบาลหามาตรการที่จะทำให้ราคาน้ำมันถูกลงได้ ก็จะส่งผลในทางจิตวิทยาการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน เนื่องจากประชาชนเมื่อเห็นว่าราคาน้ำมันถูกลง จะได้กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ส่วนการจัดสัมมนาในจังหวัดที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนนั้น จะมีการจัดแน่นอน เพราะถือเป็นนโยบายพรรค โดยจะไปจัดที่จังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบในมุมกว้าง และเน้นแต่จังหวัดใหญ่ๆ ตามภูมิภาคต่างๆ
