“ไข่แม้ว” เปิดตัว “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” มือแฉรถ-เรือดับเพลิง ซบพรรค เจ้าตัวอ้างประชาชนอยากให้ย้าย ทั้งหวังสร้างสมานฉันท์ ปัดขัดแย้งคนในพรรค ขณะที่ “อนุดิษฐ์” คุยโขมงได้มือดีร่วมงาน ดันเข้าคณะทำงานปราบโกง สอบคดีฉาวต่อภาค 2 ด้าน “เด็จพี่” คุยลูกพระแม่ธรณีจ่อย้ายร่วมอีก
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.00 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ และนายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ที่เดินทางมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
โดย นายยงยุทธกล่าวว่า สำหรับนายยุทธพงศ์นั้นแทบไม่ต้องอธิบายอะไรมากนักเพราะได้ฉายาว่าเป็นมือปราบรถและเรือดับเพลิง เป็นท่านแรกที่นำเรื่องนี้ออกสู่สาธารณะและเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้สังคมตกอกตกใจพอสมควร นอกจากนี้ยังเป็นอดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ส่วนนายศราวุธนั้นเป็นอดีต ส.ส.ไทยรักไทย และยังเป็นอดีตเลขานุการ รมว.ไอซีทีด้วย นอกจากนี้ยังเป็นลูกเขยสุดที่รักของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่รู้จักกันดีในชื่อสิงห์อีสานอีกด้วย ซึ่ง พล.ต.อ.ประชาคงไม่ปล่อยให้ลูกเขยไปเข้าพรรคที่ไม่ดี ไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนอย่างแน่นอน
“ยุทธพงศ์” แจง ชาวบ้านสั่งให้มาสังกัดเพื่อไทย
ด้าน นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า หลังจากที่ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตนก็ว่างอยู่ช่วงหนึ่ง และได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยหลายท่านที่เชิญให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย อีกทั้งจากการที่ตนได้ใช้เวลาว่างออกพบปะประชาชนเพื่อสอบถามฐานเสียงของตนในเขต 2 จ.มหาสารคามนั้น ประชาชนอยากให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์มา 10 ปี และการที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์นั้นก็เห็นว่าอยู่ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลและแข็งแกร่งแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกับใคร ดังนั้นในบรรยากาศที่บ้านเมืองต้องการความสมานฉันท์ จึงเชื่อว่าการที่มาทำงานกับพรรคเพื่อไทยคงไม่ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์โกรธเคือง
วางตัวเข้าคณะทำงานปราบโกง สอบรถ-เรือดับเพลิงภาค 2
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะคณะทำงานสำนักงานปราบโกง พรรคเพื่อไทย ยินดีที่ได้สมาชิกพรรคคนใหม่ที่มีความสามารถ มีความรู้ในการตรวจสอบอย่างนายยุทธพงศ์ที่สื่อมวลชนเองก็รู้ดีว่าเป็นคนอย่างไร นายยุทธพงศ์นั้นมีมาตรฐานเดียวกับการทุจริตเห็นได้จากการตรวจสอบรถและเรือดับเพลิงที่แม้ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นแต่นายยุทธพงศ์ก็ยังไม่หยุดตรวจสอบ สมกับที่ประชาชนมอบหมายให้มาตรวจสอบการบริหารงาน ดังนั้นเชื่อว่าจากนี้ไปนายยุทธพงศ์จะช่วยให้การทำงานของคณะทำงานสำนักงานปราบโกงมีคุณภาพและทำให้การตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะมอบหมายให้นายยุทธพงศ์เดินทางตรวจสอบรถและเรือดับเพลิงภาค 2 ต่อไป
ปัดมีเงื่อนไขต้องได้ลงสมัคร ส.ส.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้ลงสมัคร ส.ส.ด้วยหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ตนคงตัดสินใจไม่ได้ เพราะต้องมีการกลั่นกรองอย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่ในระดับภาค นำมาสู่คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ก่อนที่จะเสนอให้กับคณะกรรมการบริหารพรรค จึงจะมีมติออกมาอย่างชัดเจนได้ว่าใครจะลงสมัครเขตไหนอย่างไร และทั้ง 2 ท่านก็ไม่ได้บอกว่ามีเงื่อนไขที่จะต้องได้ลงสมัครส.ส.เขตไหนจังหวัดอะไรด้วย
ยอมรับอยู่ “ปชป.” หาเสียงในอีสานยาก
ส่วนได้มีการพูดคุยกั บส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ว่าจะมีใครย้ายมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยอีกบ้าง นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก แต่ได้มีการคุยกัน ทั้งนี้ ส.ส.อีสานของพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีน้อย การคุยกันเล่นๆ ก็บอกว่าอยากมา แต่เมื่อถึงสถานการณ์จริงแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สมัยที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์และแข่งขันกับพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนในอดีตนั้น ต้องยอมรับว่าสู้ยาก การหาเสียงในขณะที่ลงสมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในอีสานก็ยาก ที่สำคัญคือประชาชนที่สนับสนุนตนก็เรียกร้องมาตลอดให้มาอยู่กับพรรคที่ประชาชนชื่นชอบ
ปูด ส.ส.ปชป.พร้อมย้ายซบ 1-5 คนหากยุบสภา
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยเป็นสุสานทหารแก่และทหารเกษียณว่า ทำให้เห็นถึงวัฒนธรรม ความคิด และสะท้อนวุฒิภาวะที่ว่า ชอบดูถูกและดิสเครดิตพรรคคู่แข่งฝ่ายตรงกันข้าม พรรคเพื่อไทยรวบรวมบุคลากรที่มีคุณค่าเข้ามาร่วมทำงานแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ เพราะ 8-9 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลนี้นอกจากไม่แก้ปัญหายังเอาแต่กู้และโกง ดังนั้นวันนี้การที่ได้นายยุทธพงศ์มาร่วมงานกับพรรคจึงทำให้การตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลยิ่งเข้มข้มมากขึ้น
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีเพื่อน ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความอึดอัดในการบริหารของรัฐบาลที่แบ่งเป็น 4 กั๊กแย่งอำนาจกันมาบอกกับตนตนด้วยว่า หากมีการยุบสภาเมื่อไหร่ก็อาจจะย้ายมาเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีประมาณ 1-5 คน ดังนั้นคงต้องดูว่ามีใครบ้างที่อึดอัดหลังจากที่มีการยุบสภา
เผย “อรรถชัย อนันตเมฆ” เตรียมซบพรรคอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่นายพร้อมพงศ์อ้างว่าจะย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยหากมีการยุบสภาประมาณ 1-5 คนนั้น เป็น ส.ส.กทม.ที่เป็นผู้หญิง 1 คนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และเป็น ส.ส.ในภาคใต้อีก 3-4 คน นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทามให้มาสังกัดพรรคเพื่อไทยอีกด้วยคือ นายอรรถชัย อนันตเมฆ