xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” แนะชาวใต้-ตะวันออกเลือกข้าง จะอยู่ ปชป.หรือ พธม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” รับมอบเงินสนับสนุนเอเอสทีวีจากพันธมิตรฯ ฉะเชิงเทรา ย้ำแม้จะลำบาก แต่จะยังเดินหน้าทำหน้าที่ เพื่อเป็นสื่อหลักในการให้ข่าวสารและปัญญากับประชาชน จวก ปชป.ไม่ยอมใช้สื่อรัฐชี้แจง “ฎีกาเถื่อน” ของคนเสื้อแดง จนเรื่องบานปลาย แถมยังมองว่า พันธมิตรฯ ทำลายชาติเหมือนคนเสื้อแดง เรียกร้องชาวใต้-ตะวันออก เลือกข้างให้ชัด จะอยู่ พธม.หรือ ปชป.ย้ำหากยังเลือก ปชป.ก็จะได้คนอย่าง “เทพเทือก”


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ในรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทางเอเอสทีวี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้รับมอบเงินจำนวน 230,000 บาท จากพันธมิตรฯ ฉะเชิงเทรา ที่บริจาคให้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของเอเอสทีวี หลังจากรับมอบนายสนธิได้กล่าวว่า แม้จะอยู่อย่างลำบาก จ่ายเงินเดือนไม่ตรงเวลา และค้างค่าสัญญาณดาวเทียม แต่เอเอสทีวียังมีความจำเป็นต้องอยู่ต่อไป เพราะพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้ตื่นขึ้นมาแล้ว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ตนถึงถูกยิง ก็เพราะมีพี่น้องมาจำนวนมากมาร่วมต่อสู้ ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนมีปัญญาและมีอุดมการณ์ คนที่สั่งยิงเลยกลัว เราไม่เหมือนพวกเสื้อแดงที่เอาเงินซื้อได้ หรือถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตายคนเสื้อแดงก็หยุด แต่สำหรับคนอย่างพวกเราเอาเงินซื้อไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามเคยมาขอซื้อเอเอสทีวี 500 ล้าน เราไม่ขาย เราไม่เหมือนเจ้าของสื่อบางคนที่พอนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ได้เป็นนายกฯ ก็เอากระเช้าดอกไม้ไปแสดงความยินดี แล้วลงข่าวเข้าข้างพวกเสื้อแดง แต่พอพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลก็เอากระเช้าดอกไม้ไปแสดงความยินดีอีก แล้วก็ได้งบโฆษณาจากหน่วยราชการปีละ 60-70 ล้าน ซึ่งเราไม่ทำแบบนั้นแน่ เพราะเราได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า เราจะเดินเส้นทางนี้ เราจะเก็บเล็กผสมน้อย จากเงินบริจาคของพี่น้องบ้าง จากการขายสินค้า ผงซักฟอก ข้าวสาร น้ำปลาบ้าง จากค่าสมัครสมาชิกข่าวเอสเอ็มเอส จากกำไรการขายปุ๋ยอินทรีย์ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แบ่งให้บ้าง เราเดินแนวทางนี้ เพื่อเป็นสื่อหลักในการให้ข้อมูลข่าวสารแก่พี่น้อง เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ใช่สื่อทางเลือก แต่เป็นสื่อหลักที่ต้องดู ส่วนสื่อทางเลือกคือฟรีทีวีทั่วไปที่มีแต่ละครน้ำเน่า จะดูหรือไม่ดูก็ได้

นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณีคนเสื้อแดงล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาโดยไม่ถูกต้องนั้น ตนออกมาพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ 2 เดือนก่อน ว่าทำไม่ได้ แต่จะมีการยื่นเพราะต้องการจะทำให้เป็นประเด็นเพื่อที่จะเล่นการเมืองกับในหลวง ตนได้เรียกร้องให้รัฐบาลใช้สื่อที่มีอยู่ทุกช่องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน แต่รัฐบาลก็ไม่ทำอะไร จนเรื่องมาถึงตอนใกล้จะฉิบหาย และมาเพิ่งจะขยับกันไม่กี่วันมานี้ โดยให้คนนั้นพูดที คนนี้พูดที นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสำหรับพวกเขา ที่พวกเรารู้ทันเขาหมด

นายสนธิ กล่าวว่า ที่น่าเจ็บใจ คือ ยังมีการมองว่าคนเสื้อเหลืองก็เหมือนกับคนเสื้อแดงที่ทำความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองเหมือนกัน ทั้งที่มันต่างกันอย่างลิบลับ แถมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังบอกว่าไม่เคยรู้จักพันธมิตรฯ เพราะฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องเลือกข้างระหว่างพันธมิตรฯ กับประชาธิปัตย์ ไม่ใช่แค่เลือกข้างระหว่างเหลืองกับแดงเท่านั้น ขอให้พี่น้องภาคใต้ภาคตะวันออกเลือกให้ชัดเจนไปเลย

“วันนี้ใครอยากอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่เลย ไม่ต้องมาแอบแฝงอยู่กับผม ถ้าใครเป็นพันธมิตรฯ มายืนข้างหลังผม แล้วเราเดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อทำบ้านทำเมืองให้มันดีขึ้น พี่น้องที่ฟังผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันออก หรือภาคใต้ ถ้ายังรักประชาธิปัตย์ เลือกไม่ถูก ไปอยู่ประชาธิปัตย์ วันนี้ถึงเวลาต้องเลือกข้างแล้ว ไม่ใช่เลือกข้างว่ายืนเหลืองไม่ยืนแดง แต่แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเลือกข้างเหมือนกัน คุณอยากได้ประชาธิปัตย์คุณไปอยู่ประชาธิปัตย์ แล้วคุณจะได้คนอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณ มาตลอด” นายสนธิกล่าว

คำต่อคำ รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันที่ 7 สิงหาคม 2552

สโรชา พรอุดมศักดิ์ - สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้อง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้อบอุ่นเป็นพิเศษ พี่น้องสู้ไม่สู้ (สู้ สู้) คิดถึงจังเลยค่ะไม่ได้ยินเสียงนี้มานานมาก วันนี้เราอบอุ่นเป็นพิเศษนะคะ วันนี้เปิดรายการเขาบอกว่า พี่แอ้มอย่าพูดเยอะนะเพราะว่าเดี๋ยวนายจะรับมอบเงินสนับสนุน ASTV แต่ขอนิดเดียวค่ะพี่น้อง ขอนิดเดียวจริงๆ เพราะว่าคนบางคนมันเป็นตัวซวย ซวยแบบไม่เลิกรา ซวยแบบว่า ประเภทที่ว่าซวยแล้วซวยอีก ซวยซ้ำซวยซ้อน ไปประเทศไหนประเทศนั้นซวย ล่าสุด ไปเปิดบัญชีทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์ในอินเตอร์เน็ตน่ะค่ะ เขาอยู่กันมาตั้งน้าน นาน อยู่กันมานมนาน ไม่เคยมีปัญหา อีนี่ไปเปิดบัญชีทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์ล่มค่ะพี่น้อง ล่มเลย ใช้ไม่ได้ตลอดวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์บอกว่า แหม ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่ามีแฮกเกอร์เข้าไปปล่อยไวรัสในเซิร์ฟเวอร์ จนทวิตเตอร์ใช้ไม่ได้กันไปทั่วโลก เขาแก้ปัญหากันจ้าละหวั่น อย่างนี้เขาเรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยแบบไม่เลิกราค่ะพี่น้องขา ก็นำมาฝากกันนะคะ ในเรื่องของคนบางคน แต่ว่าวันนี้เราไปดูเรื่องดีๆ กันดีกว่า เพราะว่าพี่น้องของเรามากันเต็มห้องส่งแบบนี้ มาแบบนี้ไม่ธรรมดานะคะ เพราะว่ามาสนับสนุนเอเอสทีวี มาบริจาคเงินให้กับพวกเราค่ะ แล้วก็พี่น้องของเรามากันครั้งนี้มาแบบนี้ไม่ธรรมดานะคะ เพราะว่ามาสนับสนุน ASTV มาบริจาคเงินให้กับพวกเรา พี่น้องของเรามาจากฉะเชิงเทรา พันธมิตรฯ ฉะเชิงเทราจะมามอบเงินให้กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เชิญคุณสนธิค่ะ

(พันธมิตรฯ ฉะเชิงเทรามอบเงินสนับสนุน ASTV)

สนธิ - คุณสุวัฒน์ พันธมิตรฯ แปดริ้ว พันธมิตรฯ อุดรฯ ที่นั่งอยู่ในที่นี้ จริงๆ แล้วมีความลับจะเล่าให้ฟัง วันนี้เพิ่งจะจ่ายเงินเดือนหมดใช่ไหมแอ้ม

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - วันที่ 3 สิงหาคม เราผ่านวิกฤตไป เพราะว่าฝรั่งที่เป็นเจ้าของดาวเทียมแจ้งมาว่า เขาจะปิดสัญญาณเราภายในไม่เกินวันที่ 15 นี้ ถ้าเราไม่จ่ายเงินให้เขาหมดที่เราค้างอยู่ประมาณ 3 เดือน เราจ่ายให้ไม่ได้เพราะเราต้องจ่ายเงินเดือนก่อน ผมก็เลยต้องเจรจากับเขา โดยรับปากเขาว่าภายในสิ้นสิงหาฯ อะไรที่ค้างอยู่ก็จะจ่าย ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด เดี๋ยวพี่น้องจะหาว่าผมเป็นลูกอีช่างขอ ที่เราขายผงซักฟอก เกิดมาเป็นตัวเป็นตน เป็นประวัติศาสตร์โลกที่สถานีโทรทัศน์ต้องขายผงซักฟอก ขายข้าว ขายสบู่ ขายยาสีฟัน เพื่อเอากำไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เรามาเนี่ย เอามาจ่ายเงินเดือน เอามาเป็นค่าใช้จ่าย หรือว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พี่ลอง ขายปุ๋ยให้เรา ปุ๋ยแกขายได้เดือนหนึ่ง เดือนแรกแกขายได้ประมาณ 6.9 ล้านบาท แกก็แบ่งกำไรมาให้ 2 ล้านกว่าบาท เดือนที่ 2 แกขายได้ 10 ล้าน แกแบ่งกำไรมาให้ 3 ล้านกว่า หักค่าใช้จ่ายก็ได้ 2 ล้านกว่า เงินค่าปุ๋ย เงินค่าข้าว เงินค่าผงซักฟอก เงินค่าน้ำปลา น้ำปลานะฮะ เงินสมัคร sms ของพ่อแม่พี่น้องคนละ 200 บาท เงินพวกนี้เป็นเงินซึ่งเราเก็บเล็กผสมน้อย เอามาจ่ายค่าดาวเทียมบ้าง จ่ายเงินเดือนพนักงานบ้าง จ่ายค่าน้ำมันรถบ้าง ถ้าเราจิตใจไม่เข้มแข็ง ฝ่ายตรงกันข้ามเคยเสนอเงินทางเรามา ไม่ว่าจะเป็น 500 ล้านบาท ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยยังเป็นรัฐบาล หรือเมื่อตอนที่เราต่อสู้ 193 วัน ส่งตัวแทนมาจากฮ่องกงขอซื้อเอเอสทีวี 1,500 ล้านบาท ถ้าเห็นแก่เงิน ป่านนี้ก็คงไม่มีเอเอสทีวี ก็คงไม่มีชาติ ไม่มีบ้านไม่มีเมือง ตีอะไรเป็นมูลค่าไม่ได้

หนังสือพิมพ์บางฉบับ อย่าให้เอ่ยชื่อให้เป็นเสนียดปากเลย สมัยที่เราสู้อยู่ สมัยรัฐบาลคุณสมัคร รัฐบาลคุณสมชาย จำได้ไหมที่สมัคร สมชาย ไปเยี่ยมเยียน แล้วก็เอาช่อดอกไม้ให้ ถ่ายรูปลง เขียนกระแหนะกระแหนเราลงหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์เขา เพื่อที่จะล้มราชบัลลังก์ เอาตัวอย่างของประเทศเนปาลออกมา ยืนข้างพวกเสื้อแดงเต็มที่ มีแต่เราเจ้าเดียวที่สู้เขา แต่พอเปลี่ยนมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ก็เอาดอกไม้ไปให้เขาอีกเหมือนเดิม แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็ยกงบโฆษณาให้เขาปีละ 60-70 ล้าน ASTV อยู่อย่าง ASTV นี่พูดแล้ว ไม่อยากจะพูดว่ามันแค้น เพราะไปแค้นทำไม เพราะว่านี่คือเส้นทางที่เราเลือก แต่ผมอยากให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจ ว่าถ้าพูดถึงศักดิ์ศรีแล้ว ความเป็นมนุษย์ ความเป็นคน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ ASTV นี่ละคือ ทองคำแท้ เป็นของจริง เราลำบากแค่ไหนเราไม่บ่น พี่ลองพูดตลอดเวลา สนธิต้องพูด พี่ผมพูดไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่าผมขอ หลายคนบอกว่า ทำไมไม่แจงออกมาว่าได้เงินเท่าไหร่แล้วจ่ายไปเท่าไหร่ บอกว่าผมมีบัญชีอยู่แต่ผมไม่อยากแจง ทำไมผมไม่อยากแจงรู้ไหม เดี๋ยวเห็นตัวเลขติดลบห่างกันแล้วจะตกใจ เดี๋ยวจะหาว่าพอผมแจงไปแล้วจะไปขอท่านอีก พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า เหมือนกับว่า ค่าใช้จ่าย 10 บาท แต่ได้มาแค่ 2 บาท แล้วยังขาดอีก 8 บาท ถ้าผมแจงมาก็บอกว่า ที่คุณแจงมาเพื่ออะไร เพื่อให้พวกเราลงอีก ไม่ใช่ ผมมีความรู้สึกอย่างนี้ครับ ผมมีความรู้สึกว่า ในบางครั้งเราสู้ได้แค่ไหน เราสู้ได้แค่นั้น ชาติเป็นของทุกๆ คน หลายคน คุณสุวัฒน์ พันธมิตรฯ ฉะเชิงเทรา อุตส่าห์เอาเงินสด 230,000 บาท มาให้ เมื่อกี้ก็มีซอง เดี๋ยวคุณแอ้มจะอ่านให้ฟัง คนบริจาค อ.สมเกียรติ ไปที่โน่น แกนนำพันธมิตรฯ ไปที่นี่ก็ได้เงินเข้ามา แต่เงินเนี่ยพอเพียงที่จะใช้จ่ายในบางส่วน ผมเคยเรียนให้พ่อแม่พี่น้องว่า สมัคร sms เดือนละ 200 บาท เราต้องการประมาณ 150,000 คน เราถึงจะอยู่ได้ ค่าใช้จ่ายเราตกเดือนละประมาณ 30 ล้าน ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งเอเอสทีวี ถามว่าแล้วอยู่ได้อย่างไร ผมไม่อยากจะพูดว่าเดี๋ยวนี้กางเกงในยังไม่เหลือแล้วผม แต่ว่ามันสู้กัน มันไม่ถอย ถามสโรชา ถามช่างกล้อง ถามคนที่อยู่ในห้อง MCR เดือนที่แล้ว เงินเดือนจ่ายงวดสุดท้ายประมาณวันที่ 15-16 ใช่ไหม

สโรชา - เกือบๆ จะ 20

สนธิ - เกือบๆ จะ 20 เห็นไหม ล็อตแรกออกมา อันแรกก่อนเลยคือว่าต้องเอาคนเงินเดือนต่ำกว่า 20,000 ให้หมด บัญชีบอกว่า พี่ ต่ำกว่า 20,000 ก็ยังไม่พอ เอ้า ต่ำกว่า 10,000 ได้ไหม เอ๊ะ มันไม่มีนี่หว่าที่นี่ต่ำกว่า 10,000 พอเช็กไปเช็กมา มี พวกที่เงินเดือนต่ำกว่าหมื่น ที่เงินเดือนน้อย ก็บอก เอ้างั้นจ่ายเขาให้หมดก่อน พี่ ค่าดาวเทียมยังไม่ต้องจ่ายมัน เอามาใช้พวกนี้ก่อน นี่คือโทรทัศน์ของประชาชน ของประชาชนจริงๆ มันถึงเป็นโทรทัศน์ที่กล้าพูดไง ไม่กลัวอิทธิพล เป็นโทรทัศน์หนังเหนียว โดนเข้าไปเกือบ 200 นัด ยังไม่ตาย เขาเรียกโทรทัศน์หนังเหนียว ใช่ไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้วผมก็เลยคิดว่า อันเดียวที่เราจะทำได้นอกจาก sms แล้วก็คือ สินค้าที่เข้ามาในเอเอสทีวี นะครับ ผมกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในห้องส่ง และพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ที่บ้าน กำลังดูเอเอสทีวีอยู่ อันเดียวเท่านั้นเอง เราต้องหาสินค้าที่มีคุณภาพ ที่พ่อแม่พี่น้องต้องใช้ทุกวัน กะปิ น้ำปลา ยาสระผม ผงซักฟอก ข้าวสาร ซอสหอยนางรม ซอสเห็ดหอม ว่ากันไป ยาสมุนไพร สบู่สมุนไพร ซึ่งพี่น้องต้องซื้ออยู่แล้วจากเทสโก้ โลตัส จากเซเว่น-อีเลฟเว่น ก็อีกหน่อยก็ซื้อจากเอเอสทีวี ช็อป บางอันมีกำไร ขาย 20 บาท กำไร 2 บาท บางอันกำไร 1 บาท บางอันกำไรเยอะหน่อยไม่เป็นไร สบู่สมุนไพรบางอันขาย 58 บาทราคาท้องตลาด อาจจะกำไรสัก 20 บาท แต่รวมๆ แล้วถ้าเรามี ASTV SHOP ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ อำเภอละร้าน แล้วของเราก็ส่งไปให้หมดเลย พี่น้องตื่นขึ้นมาตอนเช้า สบู่หมด ก็ตะโกน ไอ้หนูเอ็งไปซื้อสบู่ที่ร้าน ASTV หน่อย ถ้าพี่น้องทั้ง 76 จังหวัดช่วยกันอย่างนี้ ASTV อยู่ได้เลย อยู่ได้จากรายได้ของการขายสินค้าอุปโภคบริโภค ผมก็เลยอยากจะฝากพ่อแม่พี่น้องทั้งที่อยู่ในห้องส่ง ทั้งที่อยู่ต่างจังหวัด ว่าอีกไม่นานเราก็ต้องเริ่ม ASTV SHOP แล้ว เพราะว่าการตั้ง ASTV SHOP ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องการ ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องการจะทำ แต่เราไม่มีทางเลือก เราต้องทำมาค้าขาย เราคนทำโทรทัศน์ ไปขายสบู่ ขายน้ำปลา ขายข้าวสาร ขายซีอิ๊วได้อย่างไร แต่พระพุทธเจ้าบอกว่า อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เมื่อพี่น้องรัก ASTV แล้วรู้ว่า ถ้าไม่มี ASTV กระบวนการพิทักษ์ราชวงศ์ ปกป้องชาติของเราก็ไม่เกิดขึ้นใช่ไหมพี่น้อง ไม่มีวันจะรวมตัวพ่อแม่พี่น้องได้

ปุ๋ยของพี่ลอง ปุ๋ยขวัญดิน ใครก็ตามที่ซื้อปุ๋ยไป เป็นการสร้างแผ่นดินใหม่ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า เพราะว่าในอดีตเราใช้ปุ๋ยเคมี จนกระทั่งดินมันแข็ง เดี๋ยวนี้ขุดดินต้องเอาไม้อีเต้อ เอาเหล็กอีเต้อขุด แต่ถ้ากลับไปใช้ปุ๋ยขวัญดินของพี่ลอง ซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ไม่มีผสม ไม่มีปลอม ใช้ 1-2 ปี 1 ปีดินจะกลับฟื้นฟูกลับไปสู่สภาพเดิม เพราะฉะนั้นใช้ปุ๋ยของพี่ลอง ASTV ขวัญดิน จะเป็นการซ่อมแผ่นดิน ซ่อมแผ่นดินแล้ว ASTV ได้ 30 เปอร์เซ็นต์จากพี่ลอง เอามาให้เราเพื่อมาทำ ได้กันทั้งคู่พี่น้องก็ได้ผมก็ได้ ทุกคนได้หมด

ผมต้องสารภาพว่า วันที่ 3 สิงหาคม นั่งอยู่ในห้องทำงาน ผมก็มองไปข้างนอก หลังจากที่โดนฝรั่งมันขู่ว่ามันจะตัดสัญญาณ ไอ้น้องคนหนึ่งมันนั่งกินกาแฟกับผม บอก พี่ทำไมชีวิตพี่ต้องแบกประเทศไทยทั้งประเทศ ทำไมต้องแบก มันอยากปิด ให้มันปิดไป จอดำไป หนังสือพิมพ์มันไม่มีเงินซื้อกระดาษก็ไม่ต้องพิมพ์ ก็ทำแต่เว็บไซต์ พี่เลิกทีได้ไหม ในแว้บหนึ่งที่มันพูด ผมบอก เอ้อมึงก็มีเหตุผลเว้ย แต่พออีกแว้บหนึ่งบอกว่า เฮ้ย กูทำอย่างนี้ไม่ได้หรอก แล้วพี่น้องทุกคนที่ตื่นมาทั่วประเทศไทย ที่เขาลุกขึ้นมา ตื่นมา ทำไมมันถึงยิงผมล่ะพี่น้อง พี่น้องยังไม่รู้อีกเหรอว่าทำไมมันถึงต้องยิงผม ก็เพราะว่าผมดันมีพี่น้องแบบนี้สิ ที่รู้ทันพวกมัน มันถึงต้องยิงผมไง เข้าใจไหม ทำไมไม่ยิงไอ้หัวหน้าเสื้อแดงล่ะ เพราะเสื้อแดงมันหมู มันง่าย เอาเงินเข้าล่อ ทักษิณตาย เสื้อแดงก็หมด ใช่ไหม แต่สนธิตาย พวกเราไม่หมด มันไม่มีอะไรเจ็บช้ำน้ำใจ พี่น้อง เจ็บช้ำน้ำใจ โคตรจะเจ็บช้ำน้ำใจ เมื่อมันหาว่าพวกเสื้อเหลืองนั้นเหมือนเสื้อแดง เป็นตัวป่วนประเทศ ผมแค้นจนพูดไม่ออก ผมนึกในใจ พ่อแม่พี่น้อง ว่าจนวันนี้คุณยังมองไม่เห็นอีกหรือว่าเราสู้เพื่ออะไร พี่น้องที่ติดตามผมจำได้หรือเปล่าว่าผมเคยพูดกับพี่น้องก่อน ล่วงหน้าทุกๆ ครั้ง ก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้น แอ้มเป็นพยานได้ เรื่องฎีกาพี่น้องจำได้ไหม ผมเคยออกทีวี เมื่อ 2 เดือนที่แล้วจำได้หรือเปล่า ที่ผมบอกว่าไอ้พวกนี้จะเอาการเมืองมาเล่นกับพระเจ้าอยู่หัว ผมบอกว่า มันรู้อยู่แล้วว่าขอถวายฎีกายังไงก็ไม่มีทางผ่าน เพราะว่ามันผิด แต่มันจงใจทำ เพื่ออะไร เพื่อที่มันจะได้ไปหลอกคนของมันซึ่งถูกหลอกมา ว่าพระเจ้าอยู่หัวนั้นไม่รักทักษิณ เข้าใจหรือยัง แล้วผมก็ตำหนิรัฐบาล ตำหนิทหาร ว่าทำไมไม่รีบหาทางป้องกัน ผมยังตำหนิคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ว่าคุณมีทั้งช่อง 9 ช่อง 11 คุณสามารถเรียกช่อง 3 ช่อง 5 ซึ่งเป็นของทหาร ก็ไม่ทำอะไร แล้วคุณปล่อยให้มันมาจนกระทั่งใกล้จะฉิบหาย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพวกคุณถึงขยับกัน คนโน้นออกมาพูดที คนนี้ออกมาพูดที มันช้าไปแล้ว เพราะมันเซ็นชื่อกันเป็นแสนๆ คนแล้ว

ทำไมผมต้องพูดก่อน 2-3 เดือนที่แล้ว เพราะผมเห็น นี่คือสิ่งที่น่ากลัวสำหรับพวกเขา สิ่งที่น่ากลัว เพราะว่าไม่ใช่แค่ผม พี่น้องทุกคนรู้ทันเขาหมด เมื่อรู้ทันเขาหมดแล้ว พี่น้องไม่ใช่คนที่อยู่ในโอวาทเขา ใช่ ไม่ใช่ นี่คือความเป็นสิริมงคลของสังคมไทย แต่เป็นความน่ากลัวของพวกเขา มันเป็นนิมิตหมายที่ดีของพวกเรา แต่เป็นฝันร้ายของพวกเขา เห็นหรือยังพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว ผมไม่อยากจะพูดมาก เดี๋ยวจะกลายเป็น วันนี้มาแค่รับเงิน แต่มันอัดอั้นตันใจ มันคั่งแค้น บางทีนั่งอยู่ข้างบนทุกวัน นั่งทำงานอยู่ พอมีคนเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมก็สรุปว่า มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหล่ะหนา ก็คือสรุปทางธรรมะ ว่ามันก็เป็นของมันอย่างนี้ล่ะ แต่มันอยู่เฉยๆ ไม่ได้ มันทนไม่ได้ มันอยู่เฉยๆ เหมือนกับว่าไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน ใช่ไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกบาททุกสตางค์ที่พี่น้องให้มานี่มีความหมายกับเราหมด อย่าว่าแต่ 2 แสนสามเลย 500 บาท 100 บาท ก็มีความหมาย ที่มีความหมายเพราะว่ามันมาจากกระเป๋าพ่อแม่พี่น้อง มันมีความหมาย บางคนที่เขาให้ 100 บาท นี่แสดงว่าในกระเป๋าเขามี 200 เขาให้ 100

คนที่มาร่วมงานกัน มาบริจาคกัน เขาให้ด้วยใจ บางคนให้ เมื่อกี้ซองมีอยู่อันหนึ่งให้มา 10,000 พี่น้อง เงิน 10,000 เป็นเงินเยอะ ไม่ใช่เงินน้อย แล้วซองที่ให้เนี่ย เงินที่ให้เก่า สกปรก แสดงว่าเป็นเงินซึ่งเก็บมาจากการค้าขายรายวัน ทำไมผมจะดูไม่ออก ผมบอกพวกพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งนานแล้ว ผมบอกว่า ทำไมพวกคุณต้องเห็นพวกเราเป็นศัตรู เราเป็นมิตรพวกคุณ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จู่ๆ ออกมาพูดว่า ผมไม่รู้จักพันธมิตรฯ พันธมิตรฯ ไม่มีบุญคุณกับผม ก็เพราะพวกคุณมาบีบพวกผมอย่างนี้นะซิ พวกผมถึงต้องเข้าสู่การเมืองใหม่ เดิมทีเราไม่ต้องการทำ การเมืองใหม่เกิดขึ้นเพราะคนบางคนในพรรคประชาธิปัตย์มันเลวทรามบัดซบ มันไม่ระลึกถึงบุญคุณคน มันเนรคุณต่อพันธมิตรฯ แล้วมันว่าพวกเสื้อเหลืองคือพวกที่ป่วนบ้านป่วนเมือง แล้วมันก็บอกว่า พันธมิตรฯ ทั้งหมดคือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็เลยต้องบอก บอกว่าวันนี้ใครอยากอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่เลย ไม่ต้องมาแอบแฝงอยู่กับผม ถ้าใครเป็นพันธมิตรฯ มายืนข้างหลังผม แล้วเราเดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อทำบ้านทำเมืองให้มันดีขึ้น พี่น้องที่ฟังผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันออก หรือภาคใต้ ถ้ายังรักประชาธิปัตย์ เลือกไม่ถูก ไปอยู่ประชาธิปัตย์ วันนี้ถึงเวลาต้องเลือกข้างแล้ว ไม่ใช่เลือกข้างว่ายืนเหลืองไม่ยืนแดง แต่แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเลือกข้างเหมือนกัน คุณอยากได้ประชาธิปัตย์คุณไปอยู่ประชาธิปัตย์ แล้วคุณจะได้คนอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณ มาตลอด

ขอโทษครับพ่อแม่พี่น้อง แต่ไหนๆ ก็เอาเงินมาบริจาคแล้ว ก็อยากให้มันคุ้มค่าซะหน่อย พี่น้องชาวฉะเชิงเทราจะได้กลับบ้านกัน บอกว่า แหมมาวันนี้มันคุ้มนะ ขอบพระคุณมากครับพ่อแม่พี่น้อง ทุกบาททุกสตางค์ที่พี่น้องให้ ASTV ไม่ว่าจะผ่านมาทาง SMS ไม่ว่าจะผ่านมาทางเมล็ดข้าว ไม่ว่าจะผ่านมาทางหยดน้ำปลา หรือผงซักฟอก ที่คุณเติมศักดิ์เป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือว่าสบู่ หรือว่าอะไรก็ตาม เราระลึกเสมอว่า ASTV ไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของประชาชน และพี่น้องต้องจำเอาไว้ ASTV ไม่ใช่ทีวีทางเลือก ช่อง 3, 5,7, 9, 11 นั่นละคือทีวีทางเลือก เพราะ ASTV คือทีวีหลักในการให้ปัญญาคน ใช่ไม่ใช่พี่น้อง (ใช่ ใช่ ใช่) ให้จำเอาไว้พี่น้อง พี่น้องที่ฟังอยู่ทั่วประเทศไทยให้จำเอาไว้ว่า ASTV คือทีวีหลักที่ให้ปัญญา อยากดูทีวีทางเลือกที่มีบันเทิงน้ำเน่าให้ไปดู 3, 5,7, 9, 11

พี่น้องครับ คงต้องพอแล้วของชักขึ้นแล้วพี่น้อง องค์ชักลงแล้วพี่น้อง พอยืนอย่างนี้องค์มันลงพี่น้อง ขอบพระคุณทุกบาททุกสตางค์นะครับ และก็ยังไงก็ตาม สิ่งที่ ASTV ทำนั้นขอให้รู้ว่าเป็นไปเพื่อไม่ให้จอดำ ให้ปัญญาประชาชน พี่น้องจะซื้อของ ถ้าร้าน ASTV มีของขาย พี่น้องคิดถึง ASTV ก่อน ไหนๆ จะต้องกินข้าว จะต้องเหยาะน้ำปลา จะต้องซักผ้า จะต้องแปรงฟัน ให้คิดถึงยาสีฟัน คิดถึงน้ำปลา คิดถึงสบู่ แล้วเราจะเอาสมุนไพรมาขาย มีสมุนไพรที่ดีมาก เจ้าของสมุนไพรได้ อย.มาแล้ว เห็น ASTV สงสาร เขาขายตรงอยู่ เขาเอามาให้เรา เรากำลังเริ่มทำอยู่ สมุนไพรของคนแก่ ผู้ชายที่เป็นโรคไต ปัสสาวะไม่ค่อยออก ทานแล้วโรคไตจะหาย เป็นสมุนไพรไม่มีสารเคมี ทานแล้วเลือดสูบฉีดดี เราตั้งชื่อว่า พันธมิตรฯ ชูธง เพราะฉะนั้นแล้วกำลังเตรียม รวมทั้งสบู่สมุนไพร สบู่ดอกปี่บ ดอกปี่บรักษาฝ้า รักษาสิวหาย ของคนไทยทำ เป็นของบ้านโกมารภัจจ์ บ้านสมุนไพร ซึ่งเขาผลิตสมุนไพรอย่างดีออกมา แล้วเขาขายตรง เขาดีมาก เขายกทั้งหมดมาให้ ASTV แล้วติดยี่ห้อ ASTV แล้วเอาไปขาย คนที่คลอดลูกตามธรรมชาติ มีสมุนไพร กินวันละ 1 เม็ด ไม่มีสารเคมี จะเป็นการซ่อมแซมร่างกาย เพราะฉะนั้นแล้ว พี่น้องครับ ถ้าจะกินยาก็กินยาสมุนไพรของ ASTV ถ้าแปรงฟันก็แปรงด้วยยาสีฟัน ASTV ถ้าซักผ้าก็ซักด้วยผงซักฟอก ASTV กินข้าว กินข้าวASTV นะครับพี่น้อง ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องมากครับ กราบขอบพระคุณครับ

สโรชา - ขอบพระคุณค่ะคุณสนธิ ขอบพระคุณทุกๆ ท่านเลยนะคะ วันนี้มากันอบอุ่นนะคะ ขอบพระคุณสำหรับทุกๆ ท่านที่สนับสนุน จริงๆ แล้วเรา อย่างที่คุณสนธิบอกในช่วงแรก เราเป็นคนทำสื่อ ทุกคนใน ณ ที่นี้ ตั้งแต่ผู้ประกาศ โปรดิวเซอร์ ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ คนทำข้อมูล ช่างภาพ ช่างเทคนิค นั่งหน้าสวิตเชอร์ นั่งตัดต่ออยู่หน้าเครื่อง ทุกคนถือว่าตัวเองมาทำหน้าที่สื่อ ก็มีวันนี้ที่พวกเรา พอเวลาเราดูจอมอนิเตอร์ของ ASTV ในห้องทำงานเรา เราจะเห็นโฆษณาผงซักฟอก เราก็แซวกันเองว่า โอ้โหเดี๋ยวนี้เราก้าวหน้านะ เราขายทั้งผงซักฟอก มีทั้งน้ำปลา มีทั้งยาสีฟัน หันไปแซวเพื่อนร่วมงาน ใช้ยาสีฟันยี่ห้อไหน เราแซวกันแบบนี้ แอ้มเชื่อว่าเพื่อนร่วมงานของแอ้มคงไม่นึกว่าเราจะมาทำแบบนี้ จะมาขายสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อถึงจุดนี้แล้ว การต่อสู้ก็คือการต่อสู้ และ ASTV คือส่วนหนึ่งของการต่อสู้ พ่อแม่พี่น้องเชื่อไหมคะว่า เจอคุณสนธิช่วงแรกๆ ที่ทำงานด้วยกัน คุณสนธิชวนมาทำรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ บุคลิก วิธีการอยู่ วิธีการใช้ชีวิต แนวคิด และปรัชญา แตกต่างจากคุณสนธิที่เราเจอกันในทุกวันนี้ เห็นคนๆ หนึ่งสิ้นเนื้อประดาตัวไปต่อต่อตาค่ะพี่น้อง นั่นคือสิ่งที่เราพบเห็นกันอยู่ทุกวันนี้

มีผู้บริจาคเข้ามาเยอะนะคะ ช่วงนี้แอ้มขออนุญาต คุณสนธิฝากไว้ไม่อ่านไม่ได้สำหรับผู้ที่สนับสนุน ASTV ขออนุญาต คุณพรรัตน์จากขอนแก่น ให้สู้คดี 3,000 บาท คุณ ฌ. จากเพชรบูรณ์ มอบให้ ASTV 2,000 มอบให้พันธมิตรฯ สู้คดี 1,000 บาท มอบให้ค้นคนโกง 1,000 บาท คุณสุรศักดิ์ คุณวรรธนี จากนครสวรรค์ มอบให้ ASTV 4,000 บาท สู้คดี 1,000 บาท อีกท่านหนึ่งจากนครสวรรค์ คุณทิพยาภา และนายแพทย์บุญช่วย มอบให้ ASTV 5,000 บาท คุณกนกวรรณ มอบให้ASTV 1,000 บาท ให้สู้คดี 1,000 บาท พันธมิตรฯ จากชุมแสง มอบให้ASTV 1,000 บาท คุณดวงจันทร์มอบให้ASTV 1,000 บาท สู้คดี 1,000 บาท คุณประยูรศรี พันธมิตรฯ หล่มสัก มอบให้ASTV 1,000 บาท ขอบพระคุณทุกๆ ท่าน

ย้ำกันอีกครั้งหนึ่งสำหรับใครที่นอกจากจะซื้อผงซักฟอก ใช้ยาสีฟันแล้ว ใช้ปุ๋ยแล้ว อยากจะรับข่าว ASTV สามารถสมัคร วิธีการสมัครไม่ยาก เปิดมือถือแล้วไปที่ส่งข้อความใหม่ พี่น้องกด R แล้วส่งมาที่เบอร์ 4321000 พี่น้องจะถูกหัก ถ้าเป็นรายเดือนถูกหักเดือนละ 200 บาทบวก VAT ถ้าหากเป็นเติมเงินจะต้องมีในบัญชี 200 นิดๆ ในทุกๆ เดือนที่หัก พี่น้องต้องมีอยู่ 200 กว่าบาท เขาถึงจะต่ออายุให้ ไม่อย่างนั้นทุกๆ เดือนต้องกดใหม่ สนับสนุน ASTV

คุณสนธิวันนี้ดูอารมณ์ดี เดือนที่แล้วพนักงานเงินเดือนออกใกล้ๆ วันที่ 20 เดือนนี้เรามองหน้ากันแล้วบอกว่า ทำใจนะเพราะยังไม่มีวี่แวว ปรากฏวันนี้บิ๊กเซอร์ไพร์ส คือเงินเดือนออก หลังจากออกงวดแรกครึ่งหนึ่ง เมื่อต้นๆ เดือน วันนี้บิ๊กเซอร์ไพร์สคือออกครบ ก็ดีใจไปตามๆ กันสำหรับพนักงาน ASTV เดี๋ยวเราพักกันสักครู่ ช่วงหน้าสนทนาเราต้องมาคุยกันเรื่องราวของตำรวจ เรื่องราวของการเมืองและตำรวจ และหลายท่านถามมาสำหรับความคืบหน้าในเรื่องของพรรคการเมืองใหม่ ช่วงหน้าพบกับ คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สักครู่เดียวค่ะ

(เบรค 2)

สโรชา - กลับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ วันนี้เราต้อนรับ เมื่อสักครู่นี้พูดไปจังหวัดเดียว เดี๋ยวพี่น้องจะน้อยใจ เพราะว่านอกจากฉะเชิงเทราแล้ว ยังมีพี่น้องจากอุดรฯ และนครปฐมมาด้วย สวัสดีค่ะทุกๆ ท่านเลยนะคะ แหมวันนี้อบอุ่นเป็นพิเศษจริงๆ พี่น้องคะเรื่องราวของตำรวจ เป็นเรื่องเด่นมาตลอด 2 สัปดาห์เห็นจะได้ 2 สัปดาห์แล้วนะคะ แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะเหลือเกิน ฝ่ายที่บอกว่า แหม ไม่ทำอะไรสักที ง้างอยู่นั่นล่ะ ง้างไม่จบไม่สิ้น ก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป ใครที่บอกว่า โอ้โห แทรกแซง แทรกแซง ก็วิพากษ์วิจารณ์กันเช่นเดียวกัน วันนี้คงจะมาลงลึกในส่วนว่าเราจะมองอย่างไรดีสำหรับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ออกมาโวยวายว่า แหม อาวุโสสูงสุด แต่ใครไม่รู้ดันมาแซงหน้าไปได้ เรื่องนี้ต้องคุยกันค่ะ วันนี้คุยกับทั้งสองท่านเลยนะคะ คงไม่ต้องแนะนำกันเยอะค่ะ คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ค่ะ สวัสดีค่ะ เป็นอย่างไรคะเห็นพันธมิตรฯ เยอะๆ แบบนี้ในห้องส่ง นานๆ จะเจอเสียทีนะคะอาจารย์

สมเกียรติ - ความจริงเราก็เลิกเวทีแล้วก็ปราศรัยกันต่อเลย

สโรชา - ปราศรัยต่อเลยนะคะ ก่อนที่จะไปเข้าเรื่องของตำรวจ เรื่องราวของการเมืองแทรกแซงหรือไม่อย่างไร ขออนุญาตเรียนถามพี่สมศักดิ์ก่อนนะคะ เรื่องของพรรคการเมืองใหม่ตอนนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้างคะ

สมศักดิ์ - ตอนนี้การประชุมจัดตั้งสาขาพรรค 4 ภาค ตามกฎหมาย ก็สมบูรณ์แล้ว เมื่อสักครู่นี้เพิ่งมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ลงคะแนนกันสูสี คะแนนเท่ากันก็มี ต้องสลากก็มี นะครับ ก็ถือว่าเป็นสาขาที่ 7 แล้วก็ครบทุกภาค ตอนนี้ก็กำลังรณรงค์เรื่องให้พี่น้องได้ช่วยกันสมัครสมาชิก ซึ่งตอนนี้สมาชิกที่ กกต.รับรองแล้วก็ 3,000 กว่าคนแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็คิดว่าภายในเดือนสิงหาฯ นี้ก็คงจะครบ 5,000 เป็นอย่างน้อย ฉะนั้นในช่วงเวลานี้ก็อยากให้พี่น้องช่วยกันสมัครเข้ามานะครับ ถ้าได้วันละ 200 อีก 10 วันก็ครบแล้ว ฉะนั้นการประชุมใหญ่ก็คงจะไปตามเป้าที่เคยตั้งไว้ว่า จะทำให้เสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาฯ เมื่อมีครบ 5,000 กว่าคน มากกว่าไม่เป็นไร สมาชิกอย่างน้อย 4 สาขา 4 ภาค ก็สามารถจัดประชุมใหญ่ได้ เมื่อนั้นเราก็สามารถที่จะดำเนินการทางการเมืองได้ ส่งคนสมัครเลือกตั้งได้ ไม่ว่า อบต. อบจ. เทศบาล ทั้งนี้สมาชิกก็มีครบทุกจังหวัด 76 จังหวัด

สโรชา - ครบแล้วนะคะ

สมศักดิ์ - แล้วก็ต้องขอบคุณทุกคนนะครับที่มาสมัครพรรคการเมืองใหม่ ต้องเดินทางมา แล้วต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 100 บาท ค่าบำรุงปีแรกอีก 220 ไปในต่างจังหวัดพี่น้องบอกว่าพรรคอื่นที่ผ่านมาเขาแจกเสื้อ แจกโน่น แต่พรรคนี้ต้องจ่ายตังค์ แต่ก็ยินดีที่จะสมัคร นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งครับ

สโรชา - พี่สมศักดิ์คะ มีพี่น้องถาม โดยเฉพาะจากทางบ้านจะถามมาเยอะว่า สมัครอย่างไรคะ พรรคการเมืองใหม่ สมาชิกของพรรค

สมศักดิ์ - ตอนนี้ใบสมัครก็อาจจะลำบากนิดหนึ่งนะครับในชนบท ก็คือต้องไปโหลดเอาจากเว็บไซต์ newpoliticparty ซึ่งก็จะมีแบบฟอร์มใบสมัครอยู่ แล้วก็รูปถ่าย 2 รูป รูปถ่ายแล้วก็สำเนาทะเบียนบ้าน 2 สำเนา 2 ใบ ให้เจ้าตัวผู้สมัครรับรองว่าเป็นสำเนาถูกต้อง และก็สำเนาบัตรประชาชนหน้า-หลัง 2 ใบ รับรองว่าสำเนาถูกต้อง แล้วก็ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท ค่าบำรุงปีแรก 220 บาท แล้วก็ที่สำคัญ นิ้วมือนะครับ นิ้วไหนก็ได้ ที่ต้อง เคยไปโรงจำนำไหมครับ หรือไปโรงพัก

สโรชา - โธ่ พี่สมศักดิ์ก็ เปรียบอะไรที่มันดีกว่านี้

สมศักดิ์ - นิ้วเดียวนะครับ กดเข้าไปเลย แล้วก็นำมาส่งที่ส่วนกลางนะครับ ที่สำนักงาน ก็แค่นี้ล่ะครับ ก็ถือว่าสมัครได้ ก็ขอให้ช่วยกัน เพราะเชื่อว่าที่พวกเราไปเร็วเนื่องจากว่าเป็นมติของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บอกว่าให้มีพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ฉะนั้นพวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นพันธุ์ที่ทำอะไรเร็ว แต่รอบคอบ มั่นคง และชอบด้วยกฎหมายทุกประการ ฉะนั้นก็ขอให้ช่วยๆ กันครับ

สโรชา - ตอนนี้ก็เดินสายกันเยอะนะคะ

สมศักดิ์ - ครับ เดินสายกัน เดี๋ยววันที่ 10 ก็จะไปเปิดศูนย์ประสานงานที่นครราชสีมา วันที่ 11 ก็จะไปเปิดอีกสาขาหนึ่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ภาคใต้ แล้ววันที่ 23 ก็ลงที่เพชรบุรี หลังจากนั้นที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ อีสานตอนใต้ก็ไปที่ จ.สุรินทร์ ก็ฝากพี่น้องชาวสุรินทร์ไว้ด้วย แล้วภาคเหนือตอนบนก็จะเล็งๆ ไว้แถวเชียงใหม่ หรือเชียงราย นั่นคือเป้าหมาย ก็คิดว่าคงจะทำให้เสร็จเร็วๆ นี้ครับ

สโรชา - ขอบพระคุณค่ะสำหรับความคืบหน้าของพรรคการเมืองใหม่นะคะ ขออนุญาตหันมา หันกลับมาที่เรื่องราวของตำรวจบ้างค่ะ อ.สมเกียรติ คะ คนที่ชื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เขาน้อยอกน้อยใจ เขาเสียอกเสียใจ เขาออกมาน้ำตงน้ำตาไหล ประเภทแบบว่า ทำไมทำกับเขาแบบนี้ ทำไมต้องข้ามหน้าข้ามตาเขา เอาผู้ที่คิดว่าอาวุโสน้อยกว่าเขามารักษาการ เป็น ผบ.ตร. อาจารย์มองเรื่องนี้อย่างไรคะ

สมเกียรติ - ก็เป็นบุคคลที่น่าสงสารนะ เมื่อสิ้นระบอบทักษิณไปแล้ว ทุกคนก็ต้องรับกรรมของตนเองไป เพราะว่าระบอบทักษิณได้ออกแบบทางการเมือง ย้ายข้ามหน่วย เอาญาติมาเป็นผู้บัญชาการทหารบก ทหารสูงสุด เอาสามีของน้องไปเป็นปลัดกระทรวง ย้ายกลับไปกลับมาระหว่างกระทรวงแรงงาน กับกระทรวงยุติธรรม แล้วก็ย้ายตำรวจเพื่อสร้างรัฐตำรวจ ในที่สุด การออกแบบอย่างนี้มันเป็นการออกแบบที่ต้องถูกทบทวน เมื่อถูกทบทวนแล้ว คนที่ได้รับผลกระทบก็คือคนที่ถูกกดทับมานาน คำถามถึงนายตำรวจระดับสูงในวันนี้ก็คือว่า ในช่วงที่สมัคร สุนทรเวช กับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ย้ายพัชรวาทออกไปแล้วตั้งคนอื่นรักษาการแทน ไม่เห็นมีการโวยวายเลย

สโรชา - นิ่งสนิท

สมเกียรติ - แล้วเขาก็ไม่ได้ตั้งคนนี้ด้วย รักษาการ แล้วทำไมมาโวยวายตอนนี้ เพราะว่ารัฐบาลหุ่นเชิดสมัคร รัฐบาลหุ่นเชิดสมชาย ในช่วงที่ย้ายพัชรวาทไปด่วน แล้วก็เอาพลตำรวจเอกท่านหนึ่งขึ้นมาแทน ก็มีลักษณะรักษาการเช่นเดียวกัน ที่ไม่โวยเพราะว่าคนในหุ่นเชิดถูกบงการมาว่าให้เอาคนนี้ แล้วก็ข้ามตัวเองไปอีก ก็ไม่เห็นโวยเลย แล้วคนที่รักษาการตอนนั้นก็กลับไปที่เดิม แล้วก็ดึงพัชรวาทกลับมา พอเขาตั้งคนใหม่แทน ทำไมมาโวยวายอีก ผมรู้สึกสมเพชองค์กรนี้นะฮะ เป็นองค์กรที่ผมเพิ่งออกรายการกับยุทธิยงค์ไป ที่ศึกษาเรื่องตำรวจอย่างละเอียดนะ ตำรวจในประเทศไทยมีอยู่ 2 แสนคน เป็นนายพล 474 คน จำได้เลยในสมองนี้นะ นายพลเต็มประเทศเลย แต่คดีมากขึ้น แล้วจะปรับโครงสร้างบัญชาการเพื่อสร้างนายพลมากอีก จาก 20 กว่า ไปเป็น 30 สร้างนายพลซะเต็มประเทศเลย แล้วสัญญาบัตรอีก 30,000 ปล่อยให้ตำรวจชั้นประทวนเหลืออยู่ประมาณ 180,000 คน ใน 200,000 คน เพราะฉะนั้นองค์กรนี้จึงเป็นองค์กรที่กดทับข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ผมได้แสดงความเห็นใจผ่านทีวีช่องนี้ไป แล้วตำรวจนี่เป็นองค์กรที่ใช้งบประมาณของชาติสิ้นเปลืองนะ 66,000 ล้าน แล้ว 66,000 นี้ เป็นงบภาษีอากรของประชาชนนะ งบที่ไปทำมาหากินอีก เราไม่อาจจะประมาณตัวเลขได้ เพราะฉะนั้นช่องทางที่ตำรวจกระทำการ ทั้งสองส่วนนี้ 1. ใช้งบประมาณของชาติแล้วคดีเพิ่มขึ้น ความปลอดภัยของประชาชนน้อยลง แถมตำรวจบางคนยังมาร่วมกับทหารบางคนอยู่ในขบวนการลอบสังหารสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วในขณะเดียวกันก็ไปสูบทรัพยากรของชาติ ขูดรีดประชาชนมาอีก 2 ทาง แล้วจะเรียกร้องความสนใจ ผมเรียกองค์กรนี้ว่าองค์กรมรณะ เป็นองค์กรที่มีโครงสร้างมรณะ แล้วไม่มีทางพัฒนาได้ นอกจากเราจะสลายองค์กรนี้ให้เป็นตำรวจที่ประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8,000 แห่ง แล้วใช้ตำรวจในระดับกลางไปตรวจสอบตำรวจอีกระดับหนึ่ง เหมือนในประเทศที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และยุโรป

สโรชา - ก็คือขึ้นกับองค์กรที่บริหารส่วนท้องถิ่นไปเลย แล้วส่วนกลางก็ควบคุมอีกทีหนึ่ง

สมเกียรติ - ควบคุมอีกทีหนึ่งในคดีใหญ่ๆ หรือตรวจสอบให้มันคานอำนาจกัน แล้วระบบวิ่งเต้นเข้าสู่นายมันจะลดน้อยถอยลง เพราะในวันนี้ตำรวจมีลักษณะเด่นอยู่ 4 อย่าง พูดก็เหมือนพูดซ้ำ ต้องขอโทษพี่น้องตำรวจด้วยนะ เฉพาะตำรวจที่ดีๆ ผมขอโทษด้วยนะครับ อันที่ 1 โครงสร้างของตำรวจเป็นโครงสร้างที่สร้างอาณาจักรตัวเอง ใครเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปั๊บ สร้างอาณาจักรตนเอง สยายปีกเลย จะขึ้นตรงต่อกันหมดเลย อันที่ 2 เขาสร้างอาณาจักรของตนเองไม่ได้ เขาจะต้องไปร่วมมือกับพรรคการเมือง นักการเมือง ที่จะมาคุม สองกลุ่มนี้ก็เลยแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน แล้วอันที่ 3 เป็นองค์กรที่มีลักษณะที่สูบทรัพยากรของชาติมามากที่สุด ผ่านกลไกที่คุ้นชิน คุ้นชินในการรีดไถประชาชน และอันที่ 4 เป็นองค์กรที่ตอบโต้ประชาชน ถ้าใครคิดอ่านจะวิจารณ์ตำรวจ หรือเล่นงานตำรวจ จะมีขบวนการมืดที่ตอบโต้ประชาชน สนธิ ลิ้มทองกุล คือเหยื่อ 1 ในหมื่น 1 ในพันคนในประเทศไทย ยกเว้นผมที่ยังเดินทางมาไม่ถึง เพราะฉะนั้นขบวนการที่ลักษณะเด่นที่เป็นด้อยของสังคมในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินี่ ผมจึงอยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชน เราเสียงบประมาณ 66,000-67,000 ล้าน แล้วก็เชิญชวนตำรวจชั้นผู้น้อย 180,000 คน มาร่วมกันปฏิรูป ผ่า แล้วก็รื้อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นตำรวจที่ดีของประชาชน เพราะว่าถ้าเราหวังพึ่งตำรวจใหญ่ๆ ไม่ได้หรอก เพราะว่าตำรวจใหญ่ๆ ใช้กลไกตำรวจชั้นผู้น้อยไปหาอยู่หากินแล้วก็ส่ง เพราะว่าระบบส่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาชนส่งส่วยมาให้ตำรวจ ตำรวจชั้นผู้น้อยส่งส่วยให้ชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ส่งส่วยให้ฝ่ายการเมือง ระบบส่วยมันมีอย่างน้อย 3 ขั้นตอน เพราะฉะนั้นองค์กรนี้จึงเป็นองค์กรคนที่อยู่ในองค์กรนี้ถูกกดทับ น่าสงสารมาก ระดับสูงก็แย่งชิงกัน มาปาดน้ำหูน้ำตา ไม่ได้เป็นไอ้โน่นไอ้นี่ เมื่อก่อนอยู่ได้อย่างไร แล้วอันที่ 2 นี่ตำรวจชั้นผู้น้อยถูกกดทับมานาน เคยมีตำรวจเดินขบวนอย่างหนักในสมัยหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ซึ่งผมเป็นนักศึกษาเรียนที่ประสานมิตรอยู่ ในตอนนั้นจะมีนายตำรวจที่โดดเด่นคนหนึ่ง ขออนุญาตเอ่ยนามท่านในทางที่ดีนะฮะ พ.ต.ต.อนันต์ เสนาขันธ์ ที่กล้าพาตำรวจประท้วงอย่างขนานใหญ่เพื่อให้มีการปรับปรุงโครงสร้าง จนเขาต้องถูกลอบสังหารโดยใช้รถบรรทุกชน นี่ก็คือเหยื่อของการตอบโต้ในองค์กรนี้ ซึ่งเป็นองค์กรที่น่าสงสารทั้งคนที่ถูกกดทับ และน่าสงสารประชาชนที่ถูกขูดรีดและถูกกระทำย่ำยีจากกลไกอันนี้ ที่เราเรียกว่า โครงสร้างขององค์กรมรณะ

สโรชา - ฟังดูเหมือนอยู่ที่องค์กรนอกจากจะอยู่ที่ตัวบุคคล หลายคนที่แอ้มคุยด้วยบอกว่า จริงๆ แล้วองค์กรอาจจะไม่มีปัญหาแต่คนที่อยู่ในองค์กรจำนวนหนึ่งมีปัญหา พี่สมศักดิ์มองเรื่องนี้อย่างไร

สมศักดิ์ - คิดว่าเป็นทั้ง 2 ส่วน แต่ว่าในภาวะเฉพาะหน้า คนสำคัญ เพราะถ้าเราบอกว่า อย่าง อ.สมเกียรติ ก็เห็นด้วย หลายคนก็เห็นด้วย แต่มันต้องใช้เวลานานมาก

สโรชา - โครงสร้างตอนนี้อำนวยให้คนเป็นอย่างนั้น

สมศักดิ์ - ในขณะนี้ถ้าคนกล้าหาญ คนเข้าใจก็แก้ได้ เที่ยวที่แล้วก็ปรับโครงสร้าง จำได้ไหม ตำรวจเมื่อก่อนอยู่กับกระทรวงมหาดไทย เดี๋ยวนี้มาอยู่กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นายกฯ เป็นประธาน ก.ตร. แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ท่านมอบให้กระทรวงสุเทพ คือไม่มีกระทรวงอื่นเลยมอบให้กระทรวงสุเทพไปเลย

สโรชา - เขาไม่ได้เป็นกระทรวงเขาเป็นรองนายกฯ ดูแลความมั่นคง

สมศักดิ์ - เขาพยายามแยกให้ขึ้นกับกระทรวง ถ้ามองในแง่ของนักบริหารถือว่าเป็นศิลปะอันหนึ่ง แต่งตั้งรองนายกฯ ขึ้นมาแล้วมอบให้ ซึ่งโดยหลักเวลามอบกันก็เป็นประเด็น ถามว่าผิดไหมไม่ผิด แต่โดยหลักการมอบต่อเมื่อนายกฯ ไม่อยู่ แต่นี่มอบถาวร นี่คือเป็นตัวปัญหาเหมือนกัน ที่ไปที่มาของการเมืองรัฐบาลชุดนี้ ตั้งแต่กลุ่มเนวิน คุณอภิสิทธิ์เอาดอกไม้ไปให้คุณเนวิน มันเริ่มตรงนั้น ถ้าเราสังเกตมันบอกอะไรบางสิ่งบางอย่างล่วงหน้า ซึ่งผมเคยพูดเอาไว้ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ไปถึงตรงนั้นกลายเป็นว่า นายกฯ เหมือนกับว่ามีคน 2 คน ลองดูเรื่องคดีน้องสนธิก็แล้วกัน คุณธานีบอกไปพบนายกฯ คุณสุเทพบอกผมไม่รับรายงาน อันนี้ดูง่ายๆ ทั้งที่ขึ้นต่อคุณสุเทพ

สโรชา -แต่ว่าไปรายงานกับนายกฯ

สมศักดิ์ - นายกฯ บอก ผมก็สั่งโดยตรงเหมือนกัน ตกลงเป็นยังไงกันแน่ อันนี้เป็นความสับสนในเบื้องต้นที่ชี้ให้เห็น กรณี ไม่เคยได้ยินเกิดมาอายุขนาดนี้ก็นานพอสมควรแล้ว ว่าคนระดับรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่าไปเจอตอ ทำงานไม่ได้มีตำรวจเป็นไส้ศึก ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมให้สอบเลยว่าใครตอ ใครไส้ศึก ที่ขัดขวางขบวนการยุติธรรม เพราะตามรัฐธรรมนูญ เรื่องแนวนโยบายแห่งรัฐ ว่าด้วยการยุติธรรม รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ผู้มีหน้าที่กำกับดูแลข้าราชการ ต้องดำเนินการกำกับดูแลให้ข้าราชการดำเนินการไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม การใช้อำนาจแบบนี้ไม่ใช่แทรกแซง ในเมื่อเห็นว่าอะไรไม่เป็นธรรม เราดูกรณีสนธิเห็นชัดว่า ศาลออกหมายจับทหารกับตำรวจ ทหารกับตำรวจมีต้นสังกัดชัดเจน แต่วันนี้ยังจำไม่ได้ แล้วคนที่หนีไปไม่รู้ไปเจอทนายที่ไหน มาฟ้องอีก

สโรชา - ขอความเป็นธรรม

สมศักดิ์ - ฟ้องผู้บังคับบัญชาอีก บอกว่าออกหมายจับอย่างนี้ไม่ถูกต้องทำให้เสียหาย มันตลกมากเลย ถามว่าทนายไปเจอที่ไหน คนนี้กำลังหลบหนี มีกฎหมายบอกว่า ผู้ใดช่วยให้คนหนีมีความผิดเหมือนกัน ทนายต้องรู้ ไปมอบอำนาจกันตรงไหน ไม่เห็นมีใครถามอะไร ทุกคนเฉยไม่พูดถึง ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ผมเห็นว่า เริ่มตั้งแต่ คุณพัชรวาท เป็น ผบ.ตร.สมัยยิงพี่น้องประชาชน เมื่อ 7 ต.ค. ต้องรับผิดชอบไหม ต้องรับผิดชอบแล้วทำไมกลับมาอีก ของเดิมสมัยรัฐบาลทักษิณได้สร้างรัฐตำรวจไว้ ซึ่งเราเคยพูดมานานแล้ว คุณเพรียวพันธ์ เมื่อก่อนก็ข้ามหัวคนอื่นเยอะ พอขึ้นสูงแกถือว่าแกสูงใครข้ามแกก็ร้องไห้

สโรชา - ร้องไห้เลยนะ

สมศักดิ์ - ตำรวจเด็กๆ ที่ไม่มีจะกินไม่เห็นร้องไห้เลยนะ สิบเอก สิบโท ลำบากยากเข็ญ นี่ขนาดเงินเดือนเยอะ รู้สึกจะเสียหายมาก เสียใจมาก ยศก็ไม่ได้ เงินเดือนก็เท่าเดิม แต่ยังมีความรู้สึกว่าเจ็บปวด ทางศาสนาเขาบอกว่า ให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วที่ไปยิงคนพ่อแม่เขาเจ็บปวดไหม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เห็นจับใครได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วจะมาจับคนที่ไปชุมนุมอีก ไปจับคนมือเปล่า พวกที่โดนยิง แต่พวกที่ยิงไม่เคยโดนจับสักคน บอกว่าพยานหลักฐานยังไม่มี ทั้งที่แต่งเครื่องแบบมายิงเขา มาเป็นขบวน กิ่งไม้หล่นเป็นพวก หน้าตาเห็นจำได้ กองไหนรู้หมด

สโรชา - แต่ละช่องมีภาพครบ

สมศักดิ์ - มีภาพครบ มีคนครบ มีการสั่งการเรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังหาคนไม่ได้ บ้านเมืองอย่างนี้มันไม่ธรรมดานะ เราจะเห็นว่า นอกจากนั้นตำรวจ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจ รัฐมนตรีกลาโหมนามสกุลเดียวกัน แล้วมีเลขาออกมาพูด บอกว่าถ้าใครมารังแกนามสกุลนี้เราจะสู้ทั้งบนดินใต้ดิน นายกฯ ไม่เห็นพูดอะไรสักคำ ก็แล่วแต๊ ประเด็นเหล่านี้มันไม่ได้นะครับ ยศระดับนายพล เป็นเลขารัฐมนตรี แล้วบอกจะสู้ใต้ดิน แล้วประชาชนจะอยู่ยังไง แค่พูดก็ผิดแล้ว แต่ผิดแล้วไม่มีใครทำอะไร น่าสงสาร นี่คือรัฐบาลที่อ่อนแอ ตัวนายกฯ ขึ้นมา 2-3 เดือน ไล่ทุบ 3-4 ครั้ง เราสงสารนายกฯ เหมือนกัน ทุกคนน่าสงสารหมด เพราะฉะนั้นประชาชนต้องเข้มแข็งในภาวะที่รัฐบาลแบบนี้ วันนี้เราไม่ต้องพูดอะไรกันนะ ผมยกตัวอย่างว่า คนเป็นโรคผิวหนัง มานั่งเกา เขี่ยขี้กลากกันอยู่ มันเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แทนที่จะพูดว่าจะแก้เศรษฐกิจอย่างไร จะช่วยเหลือประชาชนอย่างไร มาพูดกันแต่เรื่องย้ายไปย้ายมา เคลียร์กันไม่เสร็จ ตกลงไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวก็หมดวาระ ไม่รู้จะไปกันยังไงก็ได้กันแค่นี้ เพราะฉะนั้นสภาพสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นมา ถ้าในภาวะการณ์แบบนี้ต้องการความเด็ดขาด เนื่องจากรัฐตำรวจถูกสถาปนาขึ้นมาโดยระบอบทักษิณ เพราะฉะนั้นรัฐบาลวันนี้ต้องกล้าหาญลงไปจัดการอย่างรวดเร็ว และต้องกล้าได้กล้าเสีย ถ้าปล่อยก็เป็นแบบนี้

สโรชา - ป.ป.ช.น่าจะมีมติเรื่อง 7 ต.ค.ภายในเดือน ส.ค.พี่สมศักดิ์ว่าทันไหม

สมศักดิ์ - ความจริงการบริหารจัดการของรัฐบาลต้องมาก่อน เราสังเกตแค่เรื่องลาพักร้อน หรือลาพัก ออกมาพูดยังไม่ตรงกัน นายกฯ พูดอย่าง ผบ.ตร.พูดอย่าง คนดูแล้ว ฟังยังไงก็ตาม ถ้าพี่น้องฟังดูเหมือนกับว่านายกฯ อ่อนแอ ความรู้สึกชาวบ้าน ไปมาหลายจังหวัดคนรู้สึกว่า ทำไมเป็นอย่างนี้ ปกติที่ผ่านมาข้าราชการระดับนี้ไม่กล้าพูดอะไรสวนกันไปสวนกันมา คือทำอะไรไม่ได้เลย ดูแล้วก็เป็นปัญหามากมาย ฉะนั้นผมคิดว่าถ้าเราแก้ปัญหาแบบนี้ไมได้ ปัญหาภาพใหญ่ไปไม่ได้ ปัญหาการเมืองไม่นิ่ง แก้ไม่ตก ปัญหาเล็กๆ เรื่องในบ้านไม่ได้ ไปทำงานใหญ่ๆ ทำไม่ได้ มันติดขัดเดินไม่ออก

สโรชา - หลายคนบอกว่า สาเหตุที่เดินไม่ออก สาเหตุที่ดูเหมือนไม่ค่อยเด็ดขาดเป็นเพราะว่าอุปสรรคเยอะคนจับจ้อง ทำอะไรนิดทำอะไรหน่อยก็ออกมาด่าออกมาโจมตีออกมาปราศรัย ออกมาเดินขบวน ออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ อ.สมเกียรติ มองเรื่องนี้อย่างไร คือมันขยับยากเหลือเกิน ขยับซ้ายก็ติดขยับขวาก็ติดเอื้อมไปข้างหน้าก็มีคนจ๊าก เอื้อมไปข้างหลังก็มีคนอาละวาด ทำยังไงอย่างนี้

สมเกียรติ - ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ผิด ถ้าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือทำในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกประชาชน มันก็ติด คนก็วิพากษ์วิจารณ์ อย่างเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ถ้าเราซื้อ 2-3 ล้านต่อคัน แต่เราไม่อยาก เพราะรัฐบาลจะรักษาผลประโยชน์ของชาติมากเกินไป ไปเช่าคันละ 15 ล้าน อย่างนี้เขาเรียกว่าคนไม่มีสมอง แล้วคนไม่มีสมองแล้วจะปกครองประเทศได้อย่างไร แค่เรื่องเดียว ซื้อรถเมล์ 3 ล้านบาท ไม่เอามันถูกไปเดี๋ยวประเทศชาติจะดีขอผลาญชาติเอาไปให้เช่า 16 ล้าน สมองอย่างนี้มันสมองสุนัขปัญญากระบือ ผมว่า จะใช้ได้ยังไง เพราะฉะนั้นการทำดีทุกคนสนับสนุนหมด เพราะประชาชนขณะนี้เขาเรียนรู้เท่าทันนักการเมืองแล้ว จนนักการเมืองรู้สึกว่า ขยับอะไรไม่ได้เลย พอขยับอะไรที่ฝืนความรู้สึกประชาชน แล้วมีลักษณะที่เราโจมตีมาโดยตลอด ก็คือคอร์รัปชั่นทางนโยบาย เหมือนระบอบทักษิณทิ้งมรดกชั่วร้ายเอาไว้ ถ้าเราจะทำอีก ประชาชนมีความรู้สึกว่า รัฐบาลควรจะพลิกกลับไม่เอาตามระบอบทักษิณที่คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย มันยืดเยื้อมาได้อย่างไรเรื่องรถเมล์ 7 เดือน สมองคนทำไมมันพัฒนาช้ากว่าเด็กอนุบาล มันน่าจะตัดสินใจเลยว่า มันเป็นไปไม่ได้เราจะไม่ยินยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดในประเทศไทย เพราะถ้าเกิดในประเทศไทยเท่ากับดูถูกประชาชนว่า 60 กว่าล้านคนเป็นกระบือหมดเลย อยากจะทำอะไรก็ได้ หรือประเทศไทยเป็นกระบือจริงๆ ผมก็ไม่รู้นะ เพราะไม่ต่อต้านอะไร เพราะฉะนั้นผมจึงบอกว่า อย่าไปพูดเรื่องนี้เลย เอาเป็นว่าแค่เอาตัวรอดก็บุญแล้ว ในยุคที่ตำรวจเป็นแบบนี้ ยกตัวอย่าง นายกรัฐมนตรีก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดตอนติดไฟแดงที่พัทยา

สโรชา - จริงๆ ควรจะย้ายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

สมเกียรติ - มีอย่างที่ไหน นายกรัฐมนตรีถูกกระทำย่ำยีผู้นำประเทศที่ไฟแดง ถ้าเป็นไฟเขียวก็โชคดี วันนั้นโชคร้ายมาเจอไฟแดง แล้วมาถูกจัดการที่กระทรวงมหาดไทยอีก ลากคอเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสะบักสะบอมออกมา รัฐมนตรีกลาโหมวิ่งจุกตูดกันหมด ประเทศไทยแล้วประชาชนจะปลอดภัยอะไร ผมอยู่เปลี่ยนวิกเป็นผู้หญิงไปแล้ว มันไม่ปลอดภัย แค่นายกรัฐมนตรีไม่ปลอดภัย ผู้นำต่างประเทศมาประชุมอาเซียน ผู้นำของจีนเขาถือมากศักดิ์ศรีประเทศเขาใหญ่ 1,300 ล้านคน มาเจอนักเลงกระจอกอย่างนี้ เขาแทบไม่อยากมาประชุมอีกเลย ถูกล่มไปเลยการประชุม แล้วจัดการไม่ได้ใคร พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 1.รักษาความปลอดภัยประชาชน รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ถวายการอารักขาพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ และราชวงศ์ ปรากฏว่า ม็อบบุกถึงวังไกลกังวลเลย พระตำหนักไกลกังวล นี่คือผลงานที่พิสูจน์ชัดๆ เอาภาพถ่ายมาออกเลย ม็อบอยู่ใกล้ๆ พระเจ้าอยู่หัว เป็นไปได้อย่างไร ทั้งๆ ที่หน้าที่ของตำรวจถวายอารักขาพระเจ้าอยู่หัว นายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศที่มาประชุมมันจบแล้ว ทำใครไม่ได้เลยมาทำสนธิไง

สโรชา - จากพัทยามามหาดไทยมาอาเซียน จริงๆ ไม่ควรมาถึงประเด็นว่ามีตอหรือไม่มีตอ ผบ.ตร.คือตอหรือเปล่า ต้องย้ายหรือเปล่า มันไม่ควรมาถึงตรงนั้นด้วยซ้ำไป หลายคนบอกว่า คุณควรจะทำตั้งแต่พัทยาตั้งแต่ติดไฟแดงแล้ว คุณปล่อยให้มาแต่ละดอกแต่ละเม็ดๆ มาถึงตรงนี้จนกลายมาเป็นคดีคุณสนธิ

สมศักดิ์ - คนไทยไม่ค่อยคิดให้ลึก ตั้งข้อสังเกต กระทรวงมหาดไทยคือกระทรวงอะไร กระทรวงความมั่นคงภายในของทุกประเทศ แล้วคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนั้นถูกไล่ทุบไล่ตีอยู่ในกระทรวงที่มีความมั่นคงที่สุด จบไหมครับ จบได้แล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก และวันนี้จับใครไม่ได้สักคน คนที่บุกเข้าไปทำลายพิธีประชุมอาเซียนซัมมิท +3 +6 ที่พัทยา ก็ยังจับใครไม่ได้สักคน แล้วเราจะอยู่อย่างไร ซึ่งมันรุนแรงมาก แต่ดูเหมือนปกติธรรมดา คือคนไทยเดี๋ยวนี้ใจถึง

สโรชา -กล้า

สมศักดิ์ - เอาอะไรก็เอากัน ตัวใครตัวมัน เราก็ต้องพึ่งตัวเอง วันนี้อัตตาหิอัตโนนาโถมันเข้มข้นมาก พึ่งใครไม่ได้เอาเลย ไปไหนมาไหนต้องพึ่งตัวเองเป็นเกลียว ลำบาก ทำมาหากินปากกัดตีนถีบ นี่เป็นยุคที่เห็นชัดว่ารัฐตำรวจไม่ได้ทำงาน

สโรชา - ที่ตำรวจบอกว่า ตอนที่คุณสนธิโดนยิงพี่น้องจำได้ไหมคะว่า ต้องเป็นคนมีสีแน่ๆ เพราะอาวุธที่ใช้ในปฏิบัติการล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธสงคราม ตำรวจออกมาบอกว่า อย่าด่วนสรุปว่าเป็นตำรวจหรือเป็นทหาร หรือเป็นคนมีสี เพราะเดี๋ยวนี้นาย ก. นาย ข.ก็มีอาวุธสงครามได้ คุณพี่ตำรวจพูดหน้าตาเฉย เราฟังแล้วตกใจว่าคนธรรมดาสามารถมีอาวุธสงครามได้ แล้วมาจากคำพูดตำรวจอีกตั้งหาก มันแปลว่าอะไร

สมศักดิ์ - คนที่ศาลออกหมายจับก็เป็นตำรวจ แล้ววันนี้ยังเอาไม่ได้ ถามว่าหนีได้อย่างไร คนที่ทำงานราชการทั่วประเทศจะเข้าใจ ตำรวจตัวเล็กๆ ทำไมจมูกไวเหลือเกิน แล้ววิธีการ ความสามารถ ขนาดนี้ยังไม่ได้แล้วคุณจะไปจับโจรที่ไหน จะจับอะไรได้ขณะที่คนมันอยู่ในเครือข่าย อยู่ในอำนาจของตนเองในการจะโยกย้ายจัดการลงโทษทั้งวินัยด้วย ได้ทุกอย่าง ยังหาไม่เจอเลยทุกวันนี้ ไม่รู้อยู่ไหน ขนาดไม่รู้อยู่ไหนยังมาฟ้องผู้บังคับบัญชาอีก ซึ่งอันนี้สาหัสสากรรจ์มาก ตกต่ำที่สุดแล้วในประเทศ ทุกยุคทุกสมัยไม่เคยเป็นอย่างนี้ ดังนั้นน่าเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เราไม่แปลกใจอย่างคดีต่างๆ สมัยคุณสมชาย นีละไพจิตร ไม่คืบหน้า ก็รู้กันอยู่ว่าตายในขบวนการคนมีสี ของตำรวจ คดีฆ่าตัดตอนยาเสพติด แล้วมันสืบพันธุ์ต่อเนื่อง เชื้อที่ถูกก่อไว้ในสมัยระบอบทักษิณมันยังอยู่ เพราะรัฐบาลนี้ไม่ทำอะไร มาถึงก็ต่อท่อ มีการต่อท่อ ตอนมาผสมพันธุ์จากกลุ่มที่เอาดอกไม้ไปให้เขา เชื้อมันติดมา ติดมาก็ต่อรถ 4 พันคันติดมาด้วย ถนนปลอดฝุ่นติดมาด้วย รถไฟ 5 แสนล้านก็ติดมาด้วย ทางด่วนโทลล์เวย์ 5 หมื่นกว่าล้าน ที่จะไปโคราชก็ติดมาด้วย เพราะเราเห็นสิ่งเหล่านี้อยู่ในแผนเก่า ฉะนั้นพอรัฐบาลนี้ขึ้นมาอันนั้นก็สวมเข้ามา ไม่ได้ทำอะไรเลย มันจะไปจนกระทั่งมีการต่อต้านมันก็ออกมาอย่างนี้ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็ยังติดมาด้วย ที่เราต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญช่วยนักโทษชายทักษิณให้พ้นผิด มันก็ติดเข้ามาด้วย คือเชื้อมันวิ่งผ่านเข้ามาได้ไม่ได้สกัด ไม่ได้เปลี่ยน รัฐบาลเปลี่ยนแต่เนื้อหาภายในมันไม่เปลี่ยน เปลี่ยนแต่ข้างบนดูดี แต่วันนี้เริ่มเห็นแล้วว่าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

สโรชา - พูดได้สมกับเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่จริงๆ นะคะ เดี๋ยวเราจะพักกันสักครู่ กลับมาคุยกันต่อสักนิด เพราะกระบวนการถวายฎีกายังคงเดินหน้า วันนี้วันที่ 7 สิงหาคม อีก 10 วันเขาบอกจะรวมตัวกันเป็นแสนๆ คนเพื่อนำรายชื่อที่จะขนเป็นกล่องๆ ไปที่สำนักพระราชวัง พักสักครู่เดี๋ยวกลับมาค่ะ

(เบรค 3)

สโรชา - กลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ มาคุยกันถึงเรื่องกระบวนการล่ารายชื่อถวายฎีกากัน เพราะว่าอีกประมาณสัปดาห์เศษๆ เขาก็จะดำเนินการกันแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีเสียงทักท้วง ช่วงสัปดาห์หลังนี่จะได้ยินเสียงทักท้วงเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายของรัฐบาล หรือแม้กระทั่งนักวิชาการเอง จนกระทั่งเราเองก็อดจะตกใจไม่ได้ว่า แหม ได้ยินกันช่วงแรก รู้กันมาตั้งเป็นเดือนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครออกมาพูดอะไร ปล่อยให้เขาออกมากล่าวอ้างต่างๆ นานา บางคนบอกได้ 3 ล้านบ้าง 4 ล้านบ้าง 5 ล้านบ้าง บางคนทะลุไปถึง 10 ล้าน ก็เพิ่งจะออกมาพูดกันถึงเรื่องนี้ว่ามันผิดกฎหมาย มันผิดกระบวนการ และก็มีนัยแอบแฝงนานา เมื่อพูดไปแล้ว แล้วก็หวังว่าเขาจะถอย แต่เขาไม่ถอยค่ะพี่สมศักดิ์ เขาก็ยังคงจะเดินหน้า เดินหน้าไปทั้งๆ ที่รู้ว่าจริงๆ แล้วผิดกระบวนการและไม่สามารถที่จะทำได้ อันนี้ชัดเจนเลยนะ

สมศักดิ์ - ซึ่งความจริงเรื่องนี้ นี่ก็เป็นเรื่องรัฐบาล ไม่ได้ไปโจมตีนะ เรื่องการก่อตัวของพวกเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มก่อการจลาจลเมื่อวันสงกรานต์ก็เหมือนกัน ก็จะปล่อย คือสื่อของรัฐนี่ไม่เคยทำงานในการอธิบายเลยว่าอะไรเป็นอะไร มีหลายช่องเหลือเกิน แต่ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ทั้งที่ในรัฐธรรมนูญบอกว่าสื่อจะต้องเป็นของประเทศชาติและเป็นของประชาชน คลื่นความถี่ต่างๆ ให้ใช้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นหลัก และเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ของชาติ ก็ไม่ทำ ไม่พูด ก็ปล่อยให้พวกนั้นโฟนอินกัน นักโทษชายโฟนอินจนเกิดจลาจลมาครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้ยังโฟนอินเฉยอีก

สโรชา - โฟนอินจนไม่มีอะไรจะพูด

สมศักดิ์ - อ่ะ ก็ถามว่า ตกลงเกี่ยวกับการดูแลเหล่านี้ ทหาร ตำรวจ ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ คลื่นที่เอามาปลุกระดม ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านในเมือง ซึ่งขนาดจุฬาลงกรณ์ คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ นักวิชาการ ออกมาหมดแล้ว รู้สึกนายกฯ เพิ่งพูดเมื่อวานซืนนี้ คิดช้าจังเลย เนี่ย ผมบางทีนะอาจารย์ เขาบอกว่าคนหนุ่มๆ โธ่ คนหนุ่มอย่างรุ่นเรานี่ รุ่น 60 กว่านี่ ลองดูสิครับ เร็วกว่านี้เยอะเลย หนุ่มแล้วทำไมเฉื่อย เพิ่งนึกได้ คิดไม่ออกหรือยัง คณะที่ปรึกษาเยอะ นักวิชาการเยอะ เรื่องนี้มันเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการอภัยโทษ ก็รู้แล้ว นักโทษหนี ไม่ยอมมารับโทษ แล้วก็โจมตีกล่าวหากระบวนการยุติธรรม โจมตีศาลอีก แล้วจะอภัยตรงไหน แล้วคนที่จะอภัยก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัว ไม่ใช่เป็นเจ้าตัว คนอื่นทั้งนั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ซึ่งมันไม่ใช่เป็นการฎีการ้องทุกข์ว่าเดือดร้อน ถ้านี่ผู้เดือดร้อนเขาร้องทุกข์ได้ การถวายฎีกามี 2 แบบ ด้านหนึ่งก็ขออภัยโทษ ด้านหนึ่งก็ร้องทุกข์ อันนี้ขออภัยโทษและก็ยังไม่เคยมารับโทษ แล้วกระบวนการล่า ถามว่าล่าไปทำไม ล่าไปเพื่อเอาขบวนประชาชนมารับ แล้วผมก็เชื่อว่าลายเซ็นทั้งหมดน่ะไม่เป็นจริงหรอก เรานี่ทำงานเรื่องล่ารายชื่อมาเยอะมากแล้วนะครับ ไอ้เรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ เรื่อง 20,000 ชื่อ กี่ชื่อนี่ ทำมาไม่รู้เท่าไรแล้ว ไม่ง่ายฮะ นอกจากไปเอารายชื่อเก่าๆ มาแปะๆๆๆๆ แล้วแห่กัน แหกตาผู้สื่อข่าว โดยไม่ตั้งคำถาม บอกว่าโอ๊ย นี่ล่ะมา 5 ล้าน 6 ล้าน 7 ล้าน แต่ไม่รู้ไปบอกเขาว่าอะไร ซึ่งมันไม่มีกระบวนการ มันไม่มีประเพณีปฏิบัติ ฉะนั้นเรื่องนี้ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว เพราะว่าความล่าช้า การไม่ทัน คือความไม่ทันของรัฐบาล แล้วพอเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา จะนำไปสู่ความรุนแรงอีกรอบ เป็นไปได้นะ เป็นไปได้ถ้าเป็นอย่างนี้ แล้วเสร็จแล้วก็เรียกว่ากว่าจะมาก็เริ่มสายแล้ว เพราะกระบวนนั้นผมก็รู้ว่าลึกๆ นักโทษชายตอนนี้เท่าไรเท่ากันแล้ว เพราะนักโทษชายวันนั้นผมดูแกผอมมาก ผอมมากนี่ผมก็คิดว่าคนทั่วไปเวลารู้สึกตัวเองว่าจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าไรในชีวิต ทีแรกอาจจะหนืดๆ หน่อยนะ แต่ตอนนี้มันก็ต้องดับเครื่องแล้ว ยังไงก็ อาจจะคิดได้ก็ได้นะว่าเงินมันเอาไปไม่ได้ อะไรต่ออะไร นี่ผมวิเคราะห์ตามรูปการณ์นะ ในฐานะที่เรียนทางด้านจิตวิทยามาบ้าง ผมว่านี่ก็เป็นประเด็น ฉะนั้นงานนี้จึงครึกครื้น กระบวนการพวกคนที่จะทำมาหากินนี่ไม่มีแล้วโอกาสทองแบบนี้ ที่จะทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยที่เอาประชาชนที่ไม่รู้เรื่องเข้ามา ฉะนั้นรัฐบาลก็ควรจะใช้กลไกอะไร กฎหมายต่างๆ ที่เห็นว่าเขาทำไม่ถูกต้อง เพื่อสกัดเหล่านี้ แล้วไง นี่คนก็ออกมาหมดแล้ว คนออกมาแล้วยังกลัวอะไรอีกล่ะ พูดง่ายๆ ว่าทำถูกคนก็เชียร์ แล้วยังไม่ทำอีก แล้วจะทำตอนไหนล่ะ

สโรชา - ก็ หลังพัทยา หลังอาเซียนล่ม ทุกคนที่คุย บอกว่าเพลี่ยงพล้ำแล้ว จังหวะนี้ล่ะ ทุกคนเห็นด้วย จะทำอะไรก็ทำตอนนี้ล่ะ จะจัดการ จะปิดเว็บไซต์ จะปิดวิทยุชุมชนยังไงก็ต้องจัดการตอนนั้น แต่ก็ยังไม่ได้ทำ จนกระทั่งเขาไปก่อตัวกลับมาใหม่อีกรอบหนึ่งแล้ว เวลาเราน้อยเหลือเกิน จริงๆ แล้วอยากจะถามต่อ แต่ว่า อ.สมเกียรติ บอกว่าอยากจะโยงไปเรื่องอเมริกานิดหนึ่ง ยังไงคะ

สมเกียรติ - ผมคิดว่าคงพูดช่วงเวลาสุดท้ายแล้วฮะ ผมเรียนว่าพรุ่งนี้ที่เพชรบุรี ผมจะไปนะฮะ ที่ท่ายาง ที่มีคอนเสิร์ต เพราะว่า

สโรชา - ที่ศิลปินไปกันเยอะๆ อ่ะนะคะ

สมเกียรติ - ถ้าผมไปเขาบอกว่าบัตรจะขายได้มากขึ้น เขาขอร้องมา เขาขอร้องให้พูด แล้ววันมะรืน วันที่ 9 เดือนนี้ ที่ อ.เสนา มีการเลื่อนออกไปก่อนนะฮะ ที่ผมจะไป ผมอยากจะพูดเรื่องอเมริกานิดหนึ่งนะ ผมไม่มีเวลาที่จะพูดเรื่องนี้แล้ว ที่อเมริกาผมไปพูดมา 12 เมือง ได้เงินที่พี่น้องกรุณาช่วยเหลือเอเอสทีวี และสู้คดีมา 62,000 เหรียญ หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท ผมได้จัดการช่วยเอเอสทีวีไปแล้วนะครับ ที่คุณสนธิได้พูดถึง แต่สิ่งที่ผมอยากให้คนแข็งแรงที่สุดในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ คนไทยที่อยู่ที่นั่น ถ้าแข็งแรงแล้ว ก็ช่วยเอเอสทีวี สิ่งที่ช่วยได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือว่า กล่องรับสัญญาณ เวลาผมไปตามเมืองต่างๆ แม้จะมีการบริจาคมาก อย่างที่ชิคาโกบริจาค 17,000 เหรียญ ที่แอลเอ 12,000 เหรียญ ตัวเลขคร่าวๆ นะครับ แต่มีการขายกล่องรับสัญญาณได้น้อยมาก ผมอยากจะขอความกรุณาพี่น้องประชาชนที่แข็งแรง ได้ช่วยกัน อย่าให้จอทีวีของประชาชนดับ อันนี้เป็นกลไกสำคัญอันเดียวที่มีพลังที่สุด การต่อสู้ที่มีพลังที่สุดก็คือการต่อสู้ผ่านระบบที่เราเรียกว่าแพร่ทั้งภาพ เสียง และความรู้สึก เราอาจจะได้ภาพและเสียงในทางอื่น แต่เราไม่ได้ความรู้สึก เราไม่มีส่วนร่วม คุณแอ้มได้ถามอย่างนี้นะฮะ ผมยกตัวอย่างนิดเดียวว่าการล่าลายเซ็น ที่บอกว่าเซอร์ไพรส์ เซอร์ไพรส์ก็คือการประชิดพระตำหนักไกลกังวล หลายคนเชื่อว่า 17 สิงหาฯ นี้ อาจจะมีการกำเริบเสิบสานประชิดอีก พระตำหนักหรือพระราชวังอีกแห่ง เมื่อกี้นายตำรวจท่านหนึ่งยศพลตำรวจตรีเขามาบอกผมว่า มีข่าวรายงานว่า กองกำลังที่สังกัดฝ่าย แล้วใช้เสื้อสีแดง กำลังจะปฏิบัติการทางสังคมที่ระบอบทักษิณเรียกว่าเซอร์ไพรส์ ทำให้ผมนึกถึงในเดือนเมษายน 2005 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่มหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น อิลลินอยส์ ศ.ดันแคน แมคคาร์โก ได้ไปเสนอ Thai Study ไทยศึกษา เรื่องประเทศไทย เขาบอกว่าระบอบทักษิณ หรือทักษิณ เป็นคนที่กล้าท้าทายพระราชอำนาจ แล้วทำให้คุณแอ้มกับคุณสนธิถูกถอดรายการ หลังจากดันแคน แมคคาร์โก เสนอปั๊บ รายการของคุณแอ้มกับคุณสนธิถูกถอดเลย แล้วถอดช่วงท้าทายพระราชอำนาจพอดีเลย แล้วมีหนังสือของคุณอะไรนะ

สโรชา - ลูกแกะหลงทาง

สมเกียรติ - ประมวลใช่ไหมครับ เสนอเรื่องพระราชอำนาจ เพราะฉะนั้นผมจึงบอกว่าสิ่งที่ ศ.ดันแคน แมคคาร์โก เคยเสนอไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่นอร์ธอีสเทิร์นอิลลินอยส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ คือสาระสำคัญที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง แนวรบยังไม่เปลี่ยนแปลง ที่มีการท้าทายพระราชอำนาจ แล้วการท้าทายคราวนี้เอาพลังประชาชนมาท้าทาย เมื่อก่อนระบอบทักษิณคนเดียวท้าทายเลย พูดไปเรื่อยเลย กระซิบ อะไร พูดไปเรื่อยเลย ไม่จงรักภักดีผีที่ไหนจะจงรักภักดี พูดเหน็บแนมไปเรื่อย ตอนนั้นเขาใช้คนของเขาคนเดียว แต่ตอนนี้เขาใช้มวลชนอันไพศาล 10 ล้าน อาจจะต้องเอา 100 หาร หรืออะไรหารผมไม่รู้ แต่อันนี้เขาใช้มวลชนในการท้าทายพระราชอำนาจด้วย ผมจึงอยากจะเรียกร้องพี่น้องประชาชนว่า กระบวนการนี้เป็นกระบวนการกำเริบเสิบสานในเรื่องพระราชอำนาจ ถ้าพี่น้องประชาชนหลงผิด หรือไม่ร่วมทางนี้ ผมว่าระบอบทักษิณจะอ่อนแอลง จึงอยากจะฝาก ไม่มีเวลาพูดเรื่องนี้กันอีกแล้ว แต่รู้ว่ากระบวนการนี้คือกระบวนการท้าทายพระราชอำนาจ

สโรชา -ชัดเจนนะคะ คงไม่ต้องอธิบายกันแล้ว เพราะจริงๆ ที่นี่คุณสนธิพร้อมกับ ASTV เป็นที่แรกที่พูดถึงเรื่องนี้ ที่ลุกขึ้นมาบอกว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติแน่ๆ จริงๆ แล้วคุณสนธิพูดก่อนหน้าที่เขาจะลุกขึ้นมาแล้วประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาจะล่ารายชื่อในการถวายฎีกา ในที่สุดมันล่วงเลยมาถึงจุดนี้แล้ว แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่ธรรมดา หลายคนบอกว่าไม่มีอะไรหรอก ล่าไปไม่ได้ชื่อจริงๆ ถึงเวลาไม่ทำอะไรก็แค่สร้างกระแส เป็นการโหมโรงอย่างที่ทักษิณเคยทำ แต่หลายท่านบอกว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นการโหมกระแสจริงแต่ว่าคงมีอะไรตามาแน่ๆ ไม่ใช่เป็นการสร้างกระแสแบบลมๆ แร้งๆ อย่างที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ช่วงสุดท้ายจริงๆ ขออนุญาตกลับไปที่พรรคการเมืองใหม่ เพราะมีพันธมิตรฯ ถามเข้ามา โดยเฉพาะนครปฐม กำแพงเพชร เชียงใหม่ ถามว่าใบสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ สามารถหาได้ที่ไหน เพราะตอนนี้ไม่ติดกลุ่มอยู่กับใคร ช่วยประกาศด้วยว่าจังหวัดไหนไปสมัครที่ไหน

สมศักดิ์ - ขอบคุณมากครับที่สนใจ ผมสรุปนิดนะครับกรณีของทักษิณ ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ว่าทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมามีอำนาจเท่านั้นโดยไม่สนใจอะไร นั่นคือเป้าหมายของกลุ่มที่ไปทำวิธีการทุกอย่าง นั่นเป็นยุทธวิธี แต่เป้าหมายนิดเดียว สิ่งที่เราสกัดถูกต้องหมด ฉะนั้นเพื่อความรวดเร็วขอให้ติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2522-2434 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.ทุกวัน อีกเบอร์ 0-8506-9733 เพื่อจะได้ทราบรายละเอียด ขอขอบคุณทุกท่าน

สโรชา - พรรคการเมืองใหม่มีเว็บไซต์ด้วยใช่ไหมคะ

สมศักดิ์ - มีครับ www.newpoliticsparty

สโรชา - www.newpoliticsparty.net นะคะ สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับพรรคการเมืองใหม่ได้ที่เว็บไซต์นี้ และที่เบอร์โทรศัพท์ที่พี่สมศักดิ์แจ้งไว้ ฝากสำหรับพี่น้องพันธมิตรฯ และผู้ชม ASTV ที่มีปัญหาเรื่อง SMS ข่าว ASTV ถ้าท่านมีปัญหาขัดข้องติดต่อได้ที่ 0-2629-4488 ต่อ 1445-6 ในเวลาทำการ หลายท่านแจ้งมาว่า ทำไมไม่หักเงิน หรือคำถามต่างๆ สามารถสอบถามที่เบอร์นี้ เมื่อสักครู่ SMS ขึ้นว่า ทำไมจำกัดแค่ 200 บาท อยากจะบริจาคให้ ASTV มากกว่านั้น ถ้าเกิดท่านอยากบริจาคมากกว่า 200 เรายินดี ตามบัญชี ASTV ประเทศไทยจำกัด สามารถโอนเข้ามาที่บัญชีนี้ได้ ในส่วนของสินค้า เมื่อสักครู่เหลือบไปเห็นนักสู้หญิงชุดขาว บอกว่า ตอนนี้ซื้อสินค้า ASTV มาเต็มบ้าน สามีหาว่าบ้า ไม่เป็นไรค่ะ บอกคุณสามีว่าบ้าก็บ้ารักประเทศไทย หมดเวลาแล้วค่ะ ขอบพระคุณทั้ง 2 ท่านนะคะที่มาร่วมรายการ ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องที่มาเจอกับเราในวันนี้ ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องทางบ้าน กลับมาพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า ไม่อยากกระซิบเลย วันศุกร์หน้า ASTV ทั้งสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 เป็นต้นไปถึงวันศุกร์ เราจะมีรายการพิเศษๆ หลายรายการ เรื่องราวของวันแม่ ติดตามให้ได้ตลอดทั้งสัปดาห์ โดยเฉพาะรายการนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมีแขกพิเศษที่จะมาถูกถึงคุณแม่ พูดถึงเรื่องราวของความเป็นแม่ และเชื่อว่าเป็นคนที่พ่อแม่พี่น้องคุ้นเคยและอยากจะฟังเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นอย่าพลาดนะคะ ศุกร์หน้ากับรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ศุกร์นี้ลาไปเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ






กำลังโหลดความคิดเห็น