ผ่าประเด็นร้อน
เป็นอันชัดเจนออกมาแล้วว่า “ทักษิณ ชินวัตร” และเครือข่ายเสื้อแดงจะนำรายชื่อชาวบ้านที่สนับสนุนนำขึ้นถวายฎีกา แม้ว่าจะเลี่ยงไปใช้คำว่า “ร้องทุกข์” ก็ตาม แต่เป้าหมายก็คือการขอพระราชทานอภัยโทษนั่นเอง
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ประเด็นที่ซ่อนอยู่ข้างหลังก็คือการ “กดดัน” และก้าวล่วง ซึ่งถือว่า เหิมเกริมมิบังควรอย่างยิ่ง
จากการแถลงล่าสุดของคน “เสื้อแดง” อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ระบุว่าจะนำรายชื่อประชาชนที่อ้างว่ารวบรวมมาได้กว่า 5 ล้านคนนำขึ้นถวายฎีกาในวันที่ 17 สิงหาคม หลังจากนั้นก็จะหยุดเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ เพื่อให้พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยโดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้เป็นการก้าวล่วง
หากฟังดูเผินๆ แล้วดูดี แต่ตรงกันข้ามหากพิจารณาให้ลึกซึ้งแล้วนี่คือ การกดดันและก้าวล่วงอย่างชัดเจนที่สุด
ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งสัญญาณให้มีการล่ารายชื่อประชาชนทั่วประเทศเพื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ลบล้างความผิดให้กับตัวเอง ทั้งที่ไม่มีผลในทางกฎหมาย เพราะผิดขั้นตอน ซึ่งหลายฝ่ายในสังคมก็เริ่มรับรู้กันมากขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ดีมีการตั้งข้อสังเกตว่า แม้ ทักษิณ จะเข้าใจดี แต่ก็ไม่เคยสั่งให้ระงับการล่าชื่อ แต่กลับแสดงท่าทีให้ดูเหมือนว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม
มีการเคลื่อนไหวในทำนองนี้อย่างต่อเนื่อง มีการ “โฟนอิน” เข้ามาในเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดงทั่วประเทศอยู่เป็นระยะ
เป็นการส่อเจตนาชัดเจนว่าต้องการอาศัยประชาชนที่มีจำนวนมากมากดดัน ทั้งที่หากแยกแยะออกมาแล้วเชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดไปว่า หากร่วมลงชื่อถวายฎีกาแล้วจะช่วยให้ ทักษิณ ได้พ้นจากความผิดจากความอยุติธรรมและสามารถกลับประเทศและกลับเข้ามาเป็นผู้นำได้อีกครั้ง
นอกเหนือไปจากรายชื่อที่อ้างว่ามีจำนวน 5 ล้านคนก็เริ่มมีการตั้งข้อสังเกตว่า “เกินจริง” ก็ตาม
ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ออกมาชี้แจงให้สังคมได้เข้าใจอย่างจริงจังและเป็นเรื่องเป็นราว และตรงประเด็น
ไม่เคยชี้ให้คนได้เข้าใจว่า แม้ว่าจะลงชื่อกันมากมายนับเป็นสิบล้านหรือยี่สิบล้านชื่อก็ไม่สามารถทำให้ ทักษิณพ้นความผิดได้ นอกเหนือจากเขาจะได้ประโยชน์จากการ “แอบอ้าง” นำจำนวนรายชื่อเหล่านั้นมากดดันและ “ต่อรอง” สถาบันพระมหากษัตริย์ เท่านั้น
อย่างไรก็ดีล่าสุดรัฐบาลก็เริ่มมีท่าทีชัดเจนมากขึ้น มีการระบุถึงความไม่บังควรในเรื่องของการล่ารายชื่ออย่างตรงไปตรงมามากขึ้น ขณะเดียวกันมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค เช่น พรรคภูมิใจไทยที่เคลื่อนไหวล้ำหน้าโดยมีการรณรงค์คัดค้านการถวายฎีกา มีการตั้งโต๊ะให้ลงชื่อคัดค้านตามที่ว่าการอำเภอและศาลากลางจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ทำให้เริ่มเห็นประชาชนตื่นตัวกันมากขึ้น
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลแม้จะเคลื่อนไหวช้า แต่นาทีนี้ก็ถือว่ามีความชัดเจนเรื่อยๆ บรรดาแกนนำพรรคและในรัฐบาลก็ได้ออกมาพูดในทำนองเดียวกันคือเป็นเรื่องไม่บังควรและมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้หยุดถวายฎีกาในทันที ก่อนที่เกิดการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนด้วยกัน
นอกจากนี้จากคำพูดของ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงออกมาระบุว่าอาจใช้กำลังกองทัพออกมาจัดการกับกลุ่มคนเสื้อแดงหากยังก่อความวุ่นวายไม่สิ้นสุด
หากจับอาการดังกล่าวของบรรดาแกนนำรัฐบาล เหมือนกับว่าได้มองเห็น “สัญญาณ” อะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ขณะเดียวกันอีกด้านหากสังเกตให้ดีก็จะพบว่ากลุ่มเสื้อแดงได้นัดหมายว่าจะมีการชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ
ซึ่งจะมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเป็นการ “แสดงพลัง” เพื่อกดดันอย่างชัดเจน ก่อนที่จะหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อรอพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งในวันเดียวกันนั้นมีความเป็นไปได้ว่า ทักษิณ ชินวัตร อาจส่งสัญญาณอย่างเป็นทางการ เป็นการสื่อให้เห็นว่าเป็นเรื่องระหว่างตนเองกับสถาบันเบื้องสูงเท่านั้น
แม้ว่านาทีนี้ยังไม่รู้ว่าก่อนถึงวันที่ 17 สิงหาคม ทักษิณ จะออกมาสั่งเบรกการถวายฎีกาหรือไม่ แต่ก็ทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายเกิดขึ้นในสังคมไทยแล้ว และขณะเดียวกันหากยังมีการดึงดันดำเนินการไปตามกำหนด และบอกว่าจะหยุดการเคลื่อนไหวแล้วหยุดรอพระบรมราชวินิจฉัย เพราะลักษณะดังกล่าวมีเจตนา “กดดัน” โดยตรง และเหิมเกริมอย่างที่สุด !!
