บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ นำมวลชน ขรก. ผู้นำชุมชน กลุ่มสตรี และปชช.กว่า 2,000 คน ร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบันและลงชื่อคัดค้านล่าชื่อถวายฎีกาขอพระราชอภัยโทษช่วย “แม้ว” พร้อมขึ้นคัตเอาต์และตั้งโต๊ะลงชื่อคัดค้านในทุกอำเภอ เผยรวบรวมส่ง มท.1 ลงพื้นที่บุรีรัมย์ 7 ส.ค.นี้ ขณะนักวิชาการติงทั้ง 2 ฝ่ายเปิดศึกมวลชนชิงความได้เปรียบทางการเมือง เสมือนระเบิดเวลาสู่จุดแตกหัก
วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กรสตรี และประชาชนในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์กว่า 2,000 คน พร้อมกันใจออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบัน และร่วมลงชื่อคัดค้านการล่ารายชื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณสวนรมย์บุรีเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เนื่องจากการล่ารายชื่อถวายฎีกาดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย และทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
ส่วนตามอำเภอต่างๆ ทั้ง 23 อำเภอก็ได้มีกลุ่มพลังมวลชนออกมาแสดงพลังลงชื่อคัดค้านการยื่นถวายฎีกากันอย่างพร้อมเพรียงด้วย พร้อมทั้งยังได้มีการขึ้นคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่ ที่มีข้อความว่า “ร่วมใจปกป้องสถาบัน ด้วยชีวิต” และ “ขอเชิญชวนชาวบุรีรัมย์ ร่วมคัดค้าน การทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา” ในทุกอำเภอ
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุบรีรัมย์ กล่าวว่า จะมีการตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อคัดค้าน และถอนรายชื่อถวายฎีกาดังกล่าวในทุกอำเภอตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 7 ส.ค. จากนั้นจะได้รวบรวมรายชื่อผู้ที่มาร่วมแสดงเจตนารมณ์ทั้งหมด ส่งมอบให้กับ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะถึงนี้ต่อไป
ขณะที่ นางนิธินาถ วัชรกิจ ประชาชนชาวอำเภอเมืองบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังมาลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาว่า ตนไม่อยากให้กลุ่มเสื้อแดงไปยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการการทำเพื่อคนเพียงคนเดียวให้พ้นจากความผิดที่ก่อไว้ และทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สำนักในความผิดและไม่ยอมเข้ามารับโทษ แต่ก็ยังมีกลุ่มคนดึงดันที่จะกระทำการล่ารายชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาซึ่งเป็นการขัดต่อกฎหมาย
ทางด้าน นายนิรันดร์ กุลฑานันท์ นักวิชาการอิสระ และอดีตประธานพีเน็ตบุรีรัมย์ กล่าวถึงกรณีการตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาถอนรายชื่อหรือคัดค้านการถวายฎีกา และกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงแต่งชุดสีดำออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านว่า ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวของทั้งสองฝ่ายเป็นการดึงมวลชนเข้ามาร่วมเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมืองมากกว่า ไม่ได้ทำเพื่อชาติบ้านเมืองและส่วนรวมอย่างแท้จริง และต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองทำถูกแต่กลับกลายเป็นระเบิดเวลานำไปสู่จุดแตกหักและความรุนแรง