มหาสารคาม - ชาวมหาสารคามเห็นด้วยการเปิดให้ลงชื่อถอนชื่อถวายฎีกาช่วย “นช.แม้ว” เพราะเป็นการดึงฟ้าลงมาต่ำ ขณะเดียวกันตำหนิรัฐบาลแก้ปัญหานี้ล่าช้าจนเกินไป
นายระพินทร์ สอนทรง ประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม แสดงความเห็นต่อกรณีกระทรวงมหาดไทยเปิดให้ประชาชนลงชื่อเพื่อถอนฏีกาอภัยโทษให้กับ นช.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหากถวายฎีกาจะเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ถือว่าละเมิดเบื้องสูง ดึงฟ้าลงมาต่ำ สมควรถอดถอนการยื่นขอถวายฏีกาของพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นยุคพ่อขุนราม ที่จะให้พระเจ้าแผ่นดินช่วยเหลือทุกอย่างเหมือนที่กล่าวอ้างกัน เพราะตอนนี้มีกฎหมายกำหนดระเบียบชัดเจน แต่คนส่วนมากไม่รู้
เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะฟังนักการเมืองท้องถิ่น หรือผู้นำชุมชนมากกว่าข่าวสารข้อมูลที่ได้รับก็น้อย รัฐบาลเองก็ทำงานช้า ต้องรอให้เรื่องเกิดก่อนถึงจะแก้ไข ต้องมาตามแก้ไขทุกเรื่องทั้งเรื่องไข้หวัด 2009 หรือเรื่องลงชื่อถอนฏีกาก็ตาม
ด้าน นายธนะโผน ยศพล กำนันตำบลลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามยังไม่มีหน่วยงานใดลงพื้นที่ออกมาให้ความรู้เรื่องการถอนชื่อถวายฎีกา การลงชื่อถวายฎีกาที่ดึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมายุ่งเกี่ยวนั้นไม่สมควรทำ ที่มีนโยบายของมหาดไทยให้ตั้งโต๊ะลงนามแต่ละจังหวัดลงนามถอนชื่อ ซึ่งและคล้ายกับว่าเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับทักษิณ ตนเองคิดว่ากระทรวงมหาดไทยหรือรัฐบาลยังช้าเกินไป
“อีกฝ่ายเขาเดินหน้าไปถึงเส้นชัยแล้ว มหาดไทยเองเพิ่งจะสตาร์ทเริ่มต้น ในความคิดของตนเองที่เป็นกำนัน ในฐานะที่ตนเองเป็นแขนขาของรัฐบาล รัฐฯไม่น่าจะเดินตามคนอื่นเค้า หน้าจะเดินก่อนเค้า”
การทำงานของรัฐบาลค่อนข้างเฉื่อยและเชื่องช้าในการจัดการปัญหามาก มัวแต่เดินตามเขาอยู่ โดยเฉพาะการถอนฏีกานั้นยังไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับใดออกมาให้ความรู้กับชาวบ้านมีแต่เรื่องที่ให้แกนนำแต่ละหมู่บ้านละ20 คน มาฟัง มาอบรมเรื่องปกป้องป้องสถาบันในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการลงชื่อถอนถวายฎีกาครั้งนี้ เปรียบเหมือนกับดาบ 2 คม เพราะชาวบ้านที่ลงชื่อเพื่อร่วมถวายฎีกาช่วยทักษิณนั้นอาจจะไม่ได้ไปถอน สิ่งที่ควรเร่งดำเนินการคือต้องให้ภาครัฐลงพื้นที่ให้ความรู้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านไขว่เขว่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองควรจะลงให้ความรู้กับชาวบ้านที่ดีกว่านี้
“ฝ่ายทักษิณที่จะนำรายชื่อไปถวายถือว่าเขาทำงานใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว แต่ทางรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้นมาล่ารายชื่อเพื่อถอนการถวายฎีกา เชื่อว่าคงไม่ทัน รัฐบาลต้องทำงานให้เร็วกว่านี้”
นายระพินทร์ สอนทรง ประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม แสดงความเห็นต่อกรณีกระทรวงมหาดไทยเปิดให้ประชาชนลงชื่อเพื่อถอนฏีกาอภัยโทษให้กับ นช.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหากถวายฎีกาจะเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ถือว่าละเมิดเบื้องสูง ดึงฟ้าลงมาต่ำ สมควรถอดถอนการยื่นขอถวายฏีกาของพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นยุคพ่อขุนราม ที่จะให้พระเจ้าแผ่นดินช่วยเหลือทุกอย่างเหมือนที่กล่าวอ้างกัน เพราะตอนนี้มีกฎหมายกำหนดระเบียบชัดเจน แต่คนส่วนมากไม่รู้
เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะฟังนักการเมืองท้องถิ่น หรือผู้นำชุมชนมากกว่าข่าวสารข้อมูลที่ได้รับก็น้อย รัฐบาลเองก็ทำงานช้า ต้องรอให้เรื่องเกิดก่อนถึงจะแก้ไข ต้องมาตามแก้ไขทุกเรื่องทั้งเรื่องไข้หวัด 2009 หรือเรื่องลงชื่อถอนฏีกาก็ตาม
ด้าน นายธนะโผน ยศพล กำนันตำบลลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามยังไม่มีหน่วยงานใดลงพื้นที่ออกมาให้ความรู้เรื่องการถอนชื่อถวายฎีกา การลงชื่อถวายฎีกาที่ดึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมายุ่งเกี่ยวนั้นไม่สมควรทำ ที่มีนโยบายของมหาดไทยให้ตั้งโต๊ะลงนามแต่ละจังหวัดลงนามถอนชื่อ ซึ่งและคล้ายกับว่าเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับทักษิณ ตนเองคิดว่ากระทรวงมหาดไทยหรือรัฐบาลยังช้าเกินไป
“อีกฝ่ายเขาเดินหน้าไปถึงเส้นชัยแล้ว มหาดไทยเองเพิ่งจะสตาร์ทเริ่มต้น ในความคิดของตนเองที่เป็นกำนัน ในฐานะที่ตนเองเป็นแขนขาของรัฐบาล รัฐฯไม่น่าจะเดินตามคนอื่นเค้า หน้าจะเดินก่อนเค้า”
การทำงานของรัฐบาลค่อนข้างเฉื่อยและเชื่องช้าในการจัดการปัญหามาก มัวแต่เดินตามเขาอยู่ โดยเฉพาะการถอนฏีกานั้นยังไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับใดออกมาให้ความรู้กับชาวบ้านมีแต่เรื่องที่ให้แกนนำแต่ละหมู่บ้านละ20 คน มาฟัง มาอบรมเรื่องปกป้องป้องสถาบันในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการลงชื่อถอนถวายฎีกาครั้งนี้ เปรียบเหมือนกับดาบ 2 คม เพราะชาวบ้านที่ลงชื่อเพื่อร่วมถวายฎีกาช่วยทักษิณนั้นอาจจะไม่ได้ไปถอน สิ่งที่ควรเร่งดำเนินการคือต้องให้ภาครัฐลงพื้นที่ให้ความรู้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านไขว่เขว่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองควรจะลงให้ความรู้กับชาวบ้านที่ดีกว่านี้
“ฝ่ายทักษิณที่จะนำรายชื่อไปถวายถือว่าเขาทำงานใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว แต่ทางรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้นมาล่ารายชื่อเพื่อถอนการถวายฎีกา เชื่อว่าคงไม่ทัน รัฐบาลต้องทำงานให้เร็วกว่านี้”
