“เทพไท” จับนัยยะ “หางแดง” เคลื่อนไหวทั้งที่รู้ว่าไม่สมควรกระทำ เชื่อ ประกาศเทียบเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ส่อเจตนาหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จี้ให้แสดงจุดยืนให้ชัดเจน ลั่นพรรคไม่เคยเพิกเฉยปกป้องสถาบัน คุยเป็น 1 ใน 10 อุดมการณ์พรรค คุยพรรคเปิดประเด็นแผนตากสินก่อนใคร
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และไม่เคยมียุคใดสมัยไหนที่มีการจาบจ้วง ท้าทายอำนาจ นำสถาบันเบื้องสูงมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองชัดเจนเช่นนี้ และการเคลื่อนไหวดังกล่าวมักจะอ้างสิทธิของประชาชน โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ทั้งที่รู้ว่าการเคลื่อนไหวนี้มีวาระซ่อนเร้นทางการเมืองแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งปี 2475 ของคณะราษฎร์ ที่เปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย
“ผมอยากถามว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่า 2475 มันส่อ หรือหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น ถ้าแน่จริง ควรประกาศให้ชัดเจนว่า คุณมีจุดยืน หรือท่าทีอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ควรจะเคลื่อนไหวในลักษณะคลุมเครือ สร้างความสับสนให้กับสังคมและผู้คนได้ แม้ว่าแกนนำของคนเสื้อแดงจะออกมาแสดงท่าทีและปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่การเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้มีวาระซ่อนเร้นอย่างแน่นอน เพราะพฤติกรรมของการเคลื่อนไหว ตามหลักกฎหมายแสดงให้เห็นว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” นายเทพไท ระบุ
ส่วนที่มีบางฝ่ายกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ไม่ออกมาปกป้องสถาบันนั้น ขอชี้แจงว่า กรณีนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาต่อต้าน และเปิดโปงเป็นพรรคแรกตั้งแต่มีกระแสข่าวเรื่องแผนตากสิน 2 อย่างต่อเนื่องทุกวัน จนมีการวิจารณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์สร้างกระแสเรื่องนี้จนในที่สุดเมื่อถึงวันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคออกมาแสดงท่าทีที่ชัดเจนร่วมต่อต้านด้วย จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มพลังต่างๆ ในสังคมไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการกดดันสถาบันเบื้องสูงให้ประกาศตัวต่อต้านกระบวนการและกลุ่มคนที่ดำเนินการอย่างเปิดเผย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องการปกป้องสถาบันถือเป็น 1 ใน 10 ของอุดมการณ์ที่ก่อตั้งพรรคนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2489 จนถึงปัจจุบัน ส่วนในรัฐบาลนั้นนายกฯเองก็ประกาศชัดเจนว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่วันที่กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับสนองพระบรมราชโองการให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯแล้ว และได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาอย่างชัดเจน จึงเป็นไปไม่ได้ที่พรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลนี้ จะเพิกเฉยต่อการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง และประกาศว่าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาล จะรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงอยู่คู่ประเทศไทยตราบชั่วชีวิต
