“เป็ดเหลิม” โวไซฟ่อนเงินบริจาค ปชป.ใกล้จบ “ประจวบ” ให้การ กกต.

“ประจวบ” เข้าให้ปากคำ กกต.มัด ปชป.ไซฟ่อนเงินบริจาค-เงินกองทุน “เป็ดเหลิม” โผล่แค่ใช้ บ.แมซไซอะผ่านเงิน ปัดหนีบพยานสำคัญมาให้การ เชื่อละครใกล้จบ เตรียมเดินหน้าทวงถามความคืบหน้าคดีผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์จากดีเอสไอ

วันนี้ (28 ก.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการไต่สวนฯ กรณีตรวจสอบเงินบริจาค 258 ล้านบาท และการใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนและนายพีระพันธ์ พาลุสุข ได้ยืนยันถึงพยานหลักฐานและคำอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นดังกล่าวต่อคณะกรรมการไต่สวนฯ ว่าเงินที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับจากบริษัท ทีพีไอ ไม่ได้มีการแจ้งในบัญชีรายรับที่ได้แสดงต่อ กกต. และเงินกองทุนฯ ที่ได้รับไปจาก กกต.ก็ไม่ได้นำไปจ้างบริษัท แมซไซอะ ทำป้ายโฆษณาหาเสียง แต่เป็นการทำนิติกรรมอำพรางเอาเงินไปผ่านบริษัทฯ แล้วให้นายประจวบ สังข์ขาว กรรมการบริษัท ออกใบเสร็จรับเงินให้ ซึ่งคณะกรรมการไต่สวนฯ ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยหรือซักถามในประเด็นอื่น

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวด้วยว่า ได้รับทราบจากผู้ใหญ่ที่ดูแลนายประจวบ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นนายคณาปติว่า นายประจวบได้เข้ามาให้การต่อคณะกรรมการไต่สวนของ กกต.แล้วในวันเดียวกันนี้ โดยตนไม่ได้เป็นผู้พามา และไม่ได้พูดคุยกับนายประจวบเลย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายประจวบได้เข้าไปให้การเพิ่มต่อดีเอสไอเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา และโทรศัพท์มายืนยันกับตนว่าได้ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเช่นที่เคยให้การไว้ เพียงแต่ว่ามีรายละเอียดของเนื้อหาสาระเพิ่มเติมเล็กน้อย ดังนั้น เมื่อนายประจวบซึ่งเป็นพยานปากสำคัญมาให้การต่อ กกต.แล้วก็คิดว่าก็น่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้

“ขณะนี้นายประจวบก็ยังอยู่ในความดูแลของนายทหารนอกราชการคนหนึ่ง ซึ่งการมาให้การต่อ กกต.เขาก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเหมือนกัน แต่คงคิดได้ว่าความกลัวทำให้คนเสื่อม และผมก็คิดว่าคำให้การของนายประจวบคงจะเป็นอื่นไปไม่ได้ เพราะหากเขาไม่มีเจตนาที่จะทำให้ความจริงปรากฏ ก็คงไม่มาให้การกับ กกต.และเมื่อพยานสำคัญคือผม และนายประจวบมาให้การแล้ว ละครก็ใกล้จะจบแล้ว ขอให้ติดตามดู” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว และว่าหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ ก็ยังไปฟ้องร้องเขาในข้อหาหมิ่นประมาทไว้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ดังนั้น จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ต้องการให้ กกต.รู้สึกว่าถูกกดดัน แต่จากนี้ไปจะไปติดตามการดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่ว่าไปถึงไหนแล้ว และจะให้นายพีระพันธ์ไปติดตามที่ตลาดหลักทรัพย์ว่าเมื่อเงินหายเป็น 100 ล้านบาท จากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดฯ ทำอะไรบ้าง

ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ทางเลขาธิการคณะกรรมการไต่สวนฯ ได้แจ้งให้ทราบว่านายประจวบจะมาชี้แจงในวันเดียวกันนี้ โดยเป็นการประสานกับทางดีเอสไอด้วยวาจาให้ช่วยติดต่อนายประจวบให้ หลังจากที่ก่อนหน้าที่ได้ส่งหนังสือไปให้นายประจวบตามที่อยู่แห่ง แต่ก็ถูกตีกลับ ซึ่งก็ทราบว่าขณะนี้นายประจวบได้มาให้การแล้ว โดย ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้พามา

ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเข้าให้ปากคำของนายประจวบว่า ไม่ใช่พยานปากสุดท้าย โดยยังคงเหลือพยานในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายปากที่จะเข้าให้ปากคำเป็นลำดับถัดไป ซึ่งการทำงานของคณะกรรมการไต่สวนจะครบกำหนดระยะเวลาที่ขอขยายในวันที่ 16 ส.ค. และคงมีการเสนอให้ กกต.พิจารณา